หลวงปู่พุทธะอิสระ ถามซัด ! ปัญหาอลัชชี สมี ที่เกิดในธรรมวินัยที่ผ่านมา มีใครเคยเห็นว่าตุลาการสงฆ์ได้ทำหน้าที่???

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

หลวงปู่พุทธะอิสระ ถามซัด ! ปัญหาอลัชชี สมี ที่เกิดในธรรมวินัยที่ผ่านมา มีใครเคยเห็นว่าตุลาการสงฆ์ได้ทำหน้าที่???

 

๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐

เอาตั้งแต่เหตุการณ์สมียันตระ สมีนิกร สมีภาวนาพุธโธ สมีเจี๊ยบ สมีผาสุก สมีเณรคำ สมีเกษม สมีเมือง และสมีธัมมชโย

ทุจริตชนเหล่านี้ แม้จะอยู่ภายใต้ปกครองของเจ้าคณะปกครองคณะสงฆ์ไทย แต่สังคมก็ไม่เคยเห็นว่าผู้ปกครองสงฆ์จะทำอะไรพวกสมีดังกล่าวมานี้ได้เลย

ที่สมีเหล่านี้มีอันเป็นไปหาใช่เป็นการดำเนินการของผู้ปกครองสงฆ์ใดๆ ไม่ ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากสังคมและสื่อสารมวลชน รวมทั้งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เป็นผู้เข้าไปตรวจสอบและดำเนินคดี

หากจะถามว่าพวกเจ้าคณะปกครองผู้มีหน้าที่ปกครอง กำกับ ดูแลภิกษุสงฆ์ผู้ใต้ปกครองให้ปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยและปฏิบัติตามพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ มัวทำอะไรกันอยู่ ทำไมไม่เห็นมีเจ้าคณะปกครองรูปใดออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย

นั่นก็เพราะเจ้าคณะปกครองพวกนี้เขาย่ามใจว่า ใครทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะเขามีกฎหมายปกครองตนเอง ขนาดศาลปกครองยังมีคำวินิจฉัยว่าไม่อาจก้าวล่วงการปกครองคณะสงฆ์ เพราะคณะสงฆ์มีพระราชบัญญัติปกครองตนเอง และหากจะมีปัญหาอะไร ก็ให้ไปร้องเรียนกับศาลสงฆ์

เมื่อศาลปกครองปฏิเสธในการวินิจฉัยคดีการละเว้นไม่ปฏิบัติหรือเลือกปฏิบัติของเจ้าคณะปกครองสงฆ์ เช่นนี้แหละ พวกอลัชชี สมี ทุจริตชนทั้งหลาย จึงพากันเข้ามาอาศัยผ้ากาสาวพัสตร์หาอยู่หากิน และสร้างเครือข่ายอิทธิพลครอบงำคณะสงฆ์และทุกวงการในสังคม เพื่อความอยู่รอด ดังเช่นกรณีลัทธิธรรมกายเป็นต้น

หากจะว่าตามประวัติศาสตร์ ด้วยหลักการและเหตุผลแล้ว การที่พระสงฆ์มีพระราชบัญญัติปกครองตนเองนั่นก็ด้วยพระเมตตาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย ทรงมีพระราชศรัทธาต่อวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ผู้ทรงศีลาจารวัตรอันงดงาม เป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธา จึงทรงถวายพระเกียรติให้คณะสงฆ์ได้ปกครองตนเองตลอดมา ด้วยทรงพิจารณาเห็นว่า พระสงฆ์เป็นหมู่คณะที่มีหิริ ความละอายชั่ว โอตัปปะ ความเกรงกลัวบาป คงจะไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นพิษเป็นภัยต่อสังคมโดยไม่อายดอก

แต่ปัจจุบันบริบททางสังคมได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผู้คนที่เข้ามาบวชอยู่ในพระบวรพุทธศาสนาก็มีเป้าประสงค์ที่ไม่เหมือนเดิม เพราะของเดิมผู้ที่เข้ามาบวชเขาปรารถนาที่จะเรียนรู้วิธีพ้นทุกข์เสียส่วนใหญ่

แต่ผู้ที่เข้ามาบวชในปัจจุบันบวชเพราะต้องการยกระดับการศึกษา วิทยฐานะของตน

บางคนก็บวชเข้ามาตามประเพณี แต่พอเห็นว่ามีลาภสักการะมากก็เลยอยู่ต่อเพื่อรอสะสมทรัพย์แล้วจึงสึก

บางคนก็บวชเพื่อทดแทนพระคุณพ่อแม่ พวกนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะอยู่ไม่นานก็สึก

บางพวกก็อ้างว่าบวชเพื่อสืบทอดอายุขัยพระศาสนา เรียกว่าบวชเพื่อให้วัดมีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาได้ครบกฐินเท่านั้น

บางพวกก็บวชเพราะเลื่อมใสศรัทธาในตัวบุคลโดยไม่รู้ว่าคนๆ นั้นมีคุณวิเศษจริงหรือไม่

บางพวกก็บวชเพราะต้องการจะปฏิบัติธรรม

บางคนไม่มีอาชีพ ตกงาน เลยบวช เพราะเห็นว่าบวชแล้วรวย พวกนี้พอมีทรัพย์ก็จะวิ่งเต้นขวนขวายใช้ทรัพย์เป็นตัวเบิกทางเข้าหาบุคคลที่พอจะอวยยศเพื่มอำนาจให้กับตนเอง โดยใช้ทรัพย์ที่ชาวบ้านเขาถวายมาเป็นตั๋วเบิกทาง

เมื่อเจตนารมณ์ในการบวชมันเปลี่ยนไป การประพฤติปฏิบัติก็ย่อมเปลี่ยนไป แม้จะไม่ถูกตรงต่อพระธรรมวินัย คนพวกนี้ก็จะไม่ยี่หระอะไร เพราะหลักคิดเบื้องต้นเขาไม่มีความละอายอยู่แล้ว จึงอยู่อย่างไม่ต้องละอาย แล้วก็สร้างมลทินด่างพร้อยให้แก่พระธรรมวินัยจนเป็นที่เอือมระอาของสังคม ยิ่งถ้าคนผู้ไม่ละอายเหล่านี้ได้มีอำนาจยิ่งไปกันใหญ่ ยิ่งสร้างเครือข่ายกันภัยไว้เพื่อความอยู่รอดของตนเอง ดังที่เราๆ ท่านๆ ก็เห็นๆ กันอยู่

วันนี้ คสช.ประกาศปฏิรูปประเทศแล้ว หากละเลยไม่ปฏิรูปกฎหมายคณะสงฆ์ ไม่ปฏิรูปขบวนการตรวจสอบถ่วงดุลของเจ้าคณะปกครอง และปล่อยให้ปกครองกันเองโดยขาดความรับผิดชอบ สุดท้ายปัญหาจะย้อนกลับมาหารัฐบาลอย่างที่เป็นอยู่

พวกเราคนเวทีแจ้งวัฒนะและผู้นับถือพุทธ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล คสช.และสภายกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ได้หาวิธีปลดล็อคการปิดประตูของขบวนการตรวจสอบถ่วงดุลที่มีอยู่ในการปกครองคณะสงฆ์ให้หมดไปเสียที สังฆมณฑลนี้จะได้สะอาดโปร่งใส บริสุทธิ์บริบูรณ์ เป็นที่ยังให้เกิดศรัทธาเลื่อมใสของพุทธบริษัทอย่างแท้จริง ขอเถิดคุณประยุทธ์

ที่พวกเราเรียกร้องหาได้มีเจตนาจะทำร้ายคณะสงฆ์ที่มีบริสุทธิ์ศีล

ไม่มีเจตนาจะทำลายความสง่างามของสังฆมณฑลไม่

ไม่มีเจตนาจะทำให้พระธรรมวินัยเสื่อมลงเลย

พวกเราอยากเห็นพระธรรมวินัยศักดิ์สิทธิ์ สามารถใช้ปกครองคณะสงฆ์ผู้ทรงศีลได้อย่างแท้จริงตะหากเล่า

เมื่อผู้ปกครองที่มีอยู่ละเลย ไม่เอื้อเฟื้อ จึงสมควรที่จะต้องหยิบยืมอำนาจของอาณาจักรให้เข้ามาช่วยจัดการกับผู้ละเลยไม่ละอาย ให้พ้นไปจากศาสนจักรนี้ ดุจดังเหตุที่เคยเกิดมีมาแล้วในยุคพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นต้น

ขอย้ำและยืนยันว่า เราไม่ต้องการให้ฆราวาสมาปกครองคณะสงฆ์ แต่เราต้องการให้คณะสงฆ์ได้รับความอุปถัมภ์คุ้มครองจากอาณาจักร ให้พ้นจากเงื้อมมือของพวกทุจริตชน

 

 

พุทธะอิสระ