”ถ้าท้อลูกเล็กมีราคาเท่าๆ กับฝิ่น...” จากพระราชดำริของพ่อหลวง ร.๙ สู่จุดเริ่มต้น“โครงการหลวง”ที่พลิกชีวิตให้กับชาวเหนือ!!!#ตามรอยพ่อหลวง ร.๙

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://panyayan.tnews.co.th

”ถ้าท้อลูกเล็กมีราคาเท่าๆ กับฝิ่น...” จากพระราชดำริของพ่อหลวง ร.๙ สู่จุดเริ่มต้น“โครงการหลวง”ที่พลิกชีวิตให้กับชาวเหนือ!!!#ตามรอยพ่อหลวง ร.๙
”ถ้าท้อลูกเล็กมีราคาเท่าๆ กับฝิ่น...” จากพระราชดำริของพ่อหลวง ร.๙ สู่จุดเริ่มต้น“โครงการหลวง”ที่พลิกชีวิตให้กับชาวเหนือ!!!#ตามรอยพ่อหลวง ร.๙
โดยปกติในหลวง ร.9 และสมเด็จพระราชินีฯ จะเสด็จฯ มาประทับที่ภูพิงคราชนิเวศน์ในช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม ทุกวันทั้งสองพระองค์จะเสด็จฯ ออกจากบ้านพร้อมกัน แต่จะทรงแยกย้ายไปทำงานตามที่หมายของวันนั้นๆ ส่วนใหญ่แล้วในหลวงจะเสด็จฯ ออกตรวจพื้นที่พร้อมกับนักวิชาการ เจ้าหน้าที่กรมชลประทาน เจ้าหน้าที่เกษตร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฯลฯ เพื่อหาพื้นที่เพาะปลูก หาแหล่งน้ำและวิธีที่จะส่งน้ำไปยังหมู่บ้าน เมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นว่าในป่ามีไม้ไผ่มาก ก็ทรงแนะนำให้ตัดไม้ไผ่มาทำเป็นรางส่งน้ำเข้าไปในหมู่บ้าน ส่วนสมเด็จพระราชินีฯ จะเสด็จไปตามหมู่บ้านต่างๆ ทรงพาหมอไปตรวจเยี่ยมเยียนชาวบ้าน และเนื่องจากทรงเห็นว่าชาวบ้านในท้องถิ่นมีฝีมือด้านทอผ้าและการทำงานฝีมือต่างๆ จึงทรงมุ่งส่งเสริมอาชีพและพัฒนาความสามารถของหญิงชาวบ้านผ่านโครงการศิลปาชีพ

”ถ้าท้อลูกเล็กมีราคาเท่าๆ กับฝิ่น...” จากพระราชดำริของพ่อหลวง ร.๙ สู่จุดเริ่มต้น“โครงการหลวง”ที่พลิกชีวิตให้กับชาวเหนือ!!!#ตามรอยพ่อหลวง ร.๙
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :ในหลวง ร.๙ ทรงรักประชาชนจนไม่เกินจะกล่าวว่า "การรักผู้อื่นยิ่งกว่าชีวิตของตนเองนั้น...ยิ่งใหญ่อย่างไรและเพียงไหน” 

”ถ้าท้อลูกเล็กมีราคาเท่าๆ กับฝิ่น...” จากพระราชดำริของพ่อหลวง ร.๙ สู่จุดเริ่มต้น“โครงการหลวง”ที่พลิกชีวิตให้กับชาวเหนือ!!!#ตามรอยพ่อหลวง ร.๙
ครั้นเสด็จฯ บ่อยเข้า ก็ทำให้ทรงเห็นปัญหาจากการทำเกษตรของชาวเขา ทั้งการทำไร่เลื่อนลอย และการปลูกฝิ่น ที่เราคงเคยได้ยินคนขนานนามพื้นที่แถวนั้นว่า ‘สามเหลี่ยมทองคำ’ แต่ในหลวงทรงกลับเรียกพื้นที่ตรงนี้ว่า ‘สามเหลี่ยมแร้นแค้น’ เพราะคนที่รวยจากธุรกิจค้ายาเสพติดตรงนี้คือเหล่านักธุรกิจ ไม่ใช่ชาวบ้าน
ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงคิดหาทางขับไล่ฝิ่นออกไปจากวิถีชีวิตชาวเขา วันหนึ่งพระองค์ทรงขับรถอยู่ในหมู่บ้านชาวเขา ทอดพระเนตรไปเห็นต้นท้อ หรือพีช ที่ชาวม้งปักชำไว้ เมื่อทรงสอบถามเอาจากชาวบ้านจึงทราบว่าราคาฝิ่นกับท้อพื้นเมืองลูกเล็กๆ นั้นขายได้ในราคาเท่าๆ กัน

”ถ้าท้อลูกเล็กมีราคาเท่าๆ กับฝิ่น...” จากพระราชดำริของพ่อหลวง ร.๙ สู่จุดเริ่มต้น“โครงการหลวง”ที่พลิกชีวิตให้กับชาวเหนือ!!!#ตามรอยพ่อหลวง ร.๙
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :ดูกี่ครั้งก็น้ำตาซึม...ชม "วินาทีที่ในหลวง ร.๙ ทรงมุดรั้วลวดหนาม" ทรงตรากตรำพระวรกาย เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยามเสมอมา... (ชมคลิบ)

”ถ้าท้อลูกเล็กมีราคาเท่าๆ กับฝิ่น...” จากพระราชดำริของพ่อหลวง ร.๙ สู่จุดเริ่มต้น“โครงการหลวง”ที่พลิกชีวิตให้กับชาวเหนือ!!!#ตามรอยพ่อหลวง ร.๙
จึงทรงเกิดไอเดียว่า ถ้าท้อลูกเล็กยังมีราคาเท่าๆ กับฝิ่น ถ้าชาวบ้านปลูกท้อได้ลูกใหญ่ๆ จะขายได้ราคาดีกว่านี้แน่นอน และเมื่อไหร่ที่รายได้จากผลไม้อื่นสูงกว่าฝิ่น เมื่อนั้นฝิ่นก็จะสาบสูญไปจากวิถีชีวิตชาวบ้านเอง
ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงตั้งโครงการสนับสนุนให้ชาวเขาหันมาปลูกท้อและพืชเมืองหนาวแทน โดยการใช้เงินส่วนพระองค์จำนวนสองแสนบาท ซื้อสวนแห่งหนึ่งที่ดอยปุยมาตั้งสถานีวิจัยเล็กๆ ขึ้นเพื่อทดลองขยายพันธุ์ท้อ และสอนชาวบ้านให้ลองปลูกตาม ตั้งชื่อว่าสวนสองแสน ต่อมาเมื่อชาวเขาเห็นว่าผลผลิตจากพืชเมืองหนาวสร้างรายได้ดี ก็เข้าร่วมโครงการกันถ้วนหน้า
และนี่ก็เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นโครงการสร้างคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนชาวเหนืออย่าง “โครงการหลวง” ที่ดำเนินมาจนทุกวันนี้
เรียบเรียงจาก
- หนังสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและโครงการหลวง โดย หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี
- หนังสือ ร้อยเรื่องเล่า : เกร็ดการทรงงาน โดย สำนักงาน กปร.
- เว็บไซต์พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ที่มา FB: เพจซสานต่อที่พ่อทำ

”ถ้าท้อลูกเล็กมีราคาเท่าๆ กับฝิ่น...” จากพระราชดำริของพ่อหลวง ร.๙ สู่จุดเริ่มต้น“โครงการหลวง”ที่พลิกชีวิตให้กับชาวเหนือ!!!#ตามรอยพ่อหลวง ร.๙
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :พระราชอารมณ์ขัน ของ ในหลวงรัชกาลที่๙ ที่อำเภอหัวหิน พระราชวังไกลกังวล
ข่าวโดย :  กิตติ จิตรพรหม ทีนิวส์  / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์