ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่www.tnews.co.th

อภินิหารหลวงพ่อกลั่น ธัมมโชติ วัดพระญาติการาม
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สุดยอดพระมหาเถราจารย์ในตำนานแห่งเมืองกรุงเก่าอีกรูปหนึ่ง ผู้ทรงฌานอภิญญาแก่กล้า มีวิทยาคมเข้มขลัง มากด้วยบุญญาภินิหารในฌานภาวนา เหรียญรุ่นแรกของท่าน ปี ๒๔๖๙ ได้รับการจัดอยู่ในเบญจภาคีพระเหรียญ ราคาค่านิยมหลายล้านบาทเลยทีเดียว

ย้อนอดีตในยุคต้นรัตนโกสินทร์ ราวพ.ศ.2390 ปีมะแม ณ ต.อรัญญิก อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีฐานะยากจนได้ให้กำเนิดเด็กชายผู้มีบุญมาเกิด นามว่า “กลั่น” ซึ่งอนาคตกาลท่านคือพระเถระผู้เลื่องชื่อในบุญญา ภินิหาร และเมตตาจิตที่มีต่อสรรพสัตว์นานัปการ

“หลวงพ่อกลั่น ธัมมโชติ” ในสมัยเด็กท่านต้องทำงานเลี้ยงพ่อแม่ด้วยการรับจ้างทั่วไป และต้องต่อสู้เพียงลำพังคนเดียว ทำให้ท่านเป็นคนเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว จนกระทั่งมีอายุได้ 27 ปี ท่านจึงตัดสินใจบวชเป็นพระ ณ วัดประดู่ทรงธรรม ได้ฉายาว่า “ธัมมโชติ”

เมื่อจำพรรษาอยู่ที่วัดประดู่ทรงธรรม หลวงพ่อกลั่นได้ศึกษาพระธรรมวินัย และเรียนรู้เรื่องวิชาคาถาอาคม ตลอดจนสมุนไพร การแพทย์แผนโบราณจนแตกฉาน เมื่อฝึกฝนวิชาต่างๆ จนเชี่ยว ชาญแล้ว จึงได้ออกธุดงค์ไปทั่วป่าเขาลำเนาไพรเผชิญสัตว์ร้ายนานาชนิด คราวหนึ่งท่านได้เดินทางกลับจากออกธุดงค์ มาถึงวัดพระญาติการามในเวลาค่ำ ท่านพิจารณาว่า วัดนี้เงียบสงบดี เหมาะแก่การบำเพ็ญสมณธรรม สามารถเจริญสมาธิและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานได้สะดวก ท่านจึงได้ปักกลดพักอยู่ที่บริเวณวัดในคืนนั้น

“วัดพระญาติการาม” เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีราว พ.ศ.2100 เดิมเรียกว่า “วัดพบญาติ” ซึ่งมีตำนานเล่าว่า สมัยกรุงศรีอยุธยามีหมู่บ้านด้านทิศตะวันออกของเมืองหมู่บ้านหนึ่ง ที่ลูกสาวชาวบ้านของที่นี่มักมีผิวพรรณดี หน้าตาสวยงาม ความเรื่องนี้ทราบไปถึงพระกรรณของพระเจ้าแผ่นดิน พระองค์จึงเสด็จประพาสมายังหมู่บ้านแห่งนี้ พร้อมด้วยข้าราชบริพาร และทรงพอพระทัยบุตรสาวของชาวบ้านคนหนึ่ง จึงเอ่ยพระโอษฐ์ขอรับอุปถัมภ์ค้ำชูหญิงสาวคนนั้น ผู้เป็นพ่อแม่ก็ยินดียกบุตรสาวถวายให้

เมื่อพระเจ้าแผ่นดินเสด็จฯ กลับพระราชวังแล้ว จึงมอบให้อำมาตย์นำคานหามมารับหญิงสาวคนนั้น เมื่อนางจะไปก็ได้สั่งบอกพ่อและแม่ไม่ให้มีความห่วงใย อีกไม่นานจะกลับมาเยี่ยม ขณะขบวนคานหามเดินทางกลับ พวกญาติของหญิงสาวได้ไปดักรอพบเพื่อล่ำลา นางจึงได้พบญาติตรงบริเวณนั้น จนเมื่อนางได้ตำแหน่งมเหสีแล้ว จึงเสด็จฯ มาเยี่ยมญาติในหมู่บ้านเดิม และโปรดฯ ให้สร้างวัดขึ้นตรงบริเวณที่ญาติๆ มารอดักพบ ตั้งชื่อว่า “วัดพบญาติ” ต่อมาจึงกลายเป็น “วัดพระญาติการาม”

อิทธิฤทธิ์เหนือฟ้า!! ข้ามแม่น้ำสะโตง ไม่ต้องใช้เรือ "หลวงพ่อกลั่น" ให้เณรหลับตาห้ามคุยกัน!! ถึงฝั่งจีวรไม่เปียก???

หลวงพ่อกลั่นเมื่อได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระญาติฯ ทุกๆ เช้าเมื่อออกบิณฑบาต พระสงฆ์ในวัดจะต้องพายเรือไปตามลำน้ำ ซึ่งจะมีชาวบ้านมารอตักบาตรทั้ง 2 ฝั่ง และชาวบ้านจะรู้ว่าเรือลำไหนเป็นของหลวงพ่อกลั่น เพราะจะมีจุดสังเกตคือ เรือของหลวงพ่อจะมีสีดำสนิท ปกคลุมตั้งแต่หัวเรือไปจรดกลางลำเรือ สีดำเหล่านั้นก็คือ “อีกา” นับสิบๆ ตัวที่มาเกาะเรือของหลวงพ่อ แล้วเวลาชาวบ้านลงมาตักบาตรแก่หลวงพ่อ “อีกา” ทั้งฝูงจะบินวนรอบๆ เรือไม่ไปไหน พอชาวบ้านตักบาตรเสร็จมันก็บินกลับมาเกาะเรือเหมือนเดิม ส่วนอาหารที่ชาวบ้านนำมาถวายหลวงพ่อเต็มลำเรือนั้น เหล่าอีกาไม่แตะต้อง

อิทธิฤทธิ์เหนือฟ้า!! ข้ามแม่น้ำสะโตง ไม่ต้องใช้เรือ "หลวงพ่อกลั่น" ให้เณรหลับตาห้ามคุยกัน!! ถึงฝั่งจีวรไม่เปียก???

อิทธิฤทธิ์เหนือฟ้า!! ข้ามแม่น้ำสะโตง ไม่ต้องใช้เรือ "หลวงพ่อกลั่น" ให้เณรหลับตาห้ามคุยกัน!! ถึงฝั่งจีวรไม่เปียก???

 

เรื่องราวของหลวงพ่อกลั่น ธัมมโชติ ภิกษุผู้มีความมหัศจรรย์อันประกอบไปด้วยเมตตาธรรม สามารถสื่อภาษาสัตว์ได้เข้าใจ ให้ใครหลายคนได้ประจักษ์หลายต่อหลายเรื่อง เช่นว่า มีอยู่คราวหนึ่งอยู่ในช่วงออกพรรษา ซึ่งพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ นิยมออกธุดงค์เพื่อแสวงหาความสงบวิเวก และเพื่อโปรดพุทธบริษัทที่อยู่ในชนบทห่างไกลในถิ่นกันดาร หลวงพ่อกลั่นพร้อมด้วยคณะลูกศิษย์ท่านก็ออกธุดงค์เช่นกัน โดยตั้งใจจะไปนมัสการพระเจดีย์ในเมืองพม่า เมื่อคณะของหลวงพ่อรอนแรมเดินทางมาถึงแม่น้ำสะโตง ซึ่งกว้างใหญ่มาก แต่หาเรือแพข้ามฟากไม่ได้ หลวงพ่อกลั่นจึงต้องหาทางข้ามด้วยตัวเอง

อำนาจจิตของหลวงพ่อกลั่นนั้นมากมาย เรื่องนี้หลวงพ่ออั้นอุปัฏฐาก หลวงพ่อกลั่นได้เล่าให้ลูกศิษย์ฟังถึงครั้งที่เรียนวิปัสสนากรรมฐานกับหลวง พ่อกลั่นว่า ขณะที่เรียนกรรมฐานนั้นหลวงพ่อกลั่นได้ให้หลวงพ่ออั้นไปนั่งปฏิบัติในโบสถ์ ขณะนั่งอยู่หลวงพ่ออั้นมองเห็นหลวงพ่อกลั่นจากในนิมิตว่า เห็นท่านเดินจากกุฏิมานั่งอยู่ตรงหน้า คอยสั่งสอนว่าผิดตรงไหนควรทำอะไร อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องแปลกเพราะหลวงพ่ออั้นท่านก็รู้ว่า หลวงพ่อกลั่นท่านอยู่บนกุฏิ กำลังคุยเรื่องธุระกับญาติโยมที่มาหาท่าน แต่ท่านก็ยังแบ่งร่างมาสอนหลวงพ่ออั้นในโบสถ์ได้

หลวงพ่อกลั่น เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลัง ลูกศิษย์ของท่านที่มีชื่อเสียงก็คือ อาจารย์เฮง ไพรวัลย์, หลวงปู่สี วัดสะแก, กรมหลวงชุมพรฯ

หลวงพ่อกลั่นมรณภาพเมื่อ พ.ศ.2477 เล่ากันว่าในวันที่หลวงพ่อจะมรณภาพ อีกานับร้อยพันตัวมาออกันทั่ววัด ส่งเสียงระเบ็งเซ็งแซ่ พอหลวงพ่อสิ้นลม อีกาเหล่านั้นเงียบเสียงเป็นปลิดทิ้ง แล้วโผบินจากไปเป็นกลุ่มๆ ครั้นพอถึงวันฌาปนกิจ ร่างหลวงพ่อกลั่นรุ่งขึ้นมีการทำบุญอัฐิ อีกาของหลวงพ่อก็กลับมาอีกครั้ง เป็นครั้งสุดท้าย พวกมันบินมาเกาะที่เชิงตะกอน และบริเวณลานวัด จากนั้นก็พากันบินวนไปรอบๆ อยู่ 3 รอบ และตั้งแต่วันนั้นก็ไม่มีใครได้เห็นอีกาที่วัดพระญาติการามอีกเลย

อิทธิฤทธิ์เหนือฟ้า!! ข้ามแม่น้ำสะโตง ไม่ต้องใช้เรือ "หลวงพ่อกลั่น" ให้เณรหลับตาห้ามคุยกัน!! ถึงฝั่งจีวรไม่เปียก???

อิทธิฤทธิ์เหนือฟ้า!! ข้ามแม่น้ำสะโตง ไม่ต้องใช้เรือ "หลวงพ่อกลั่น" ให้เณรหลับตาห้ามคุยกัน!! ถึงฝั่งจีวรไม่เปียก???

ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพและที่มาข้อมูล ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌาณอภิญญา ครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม