ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!!

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://panyayan.tnews.co.th

ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!!

ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!!

เรื่อง "ศาสนาเซน คือ กิ่งก้านพุทธศาสนาส่วนปลาย"
(คติธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
เรา (หลวงตามหาบัว)ก็เคยพูดแล้วว่าเซนนี้ออกจากพุทธ คือเซนนี่ผู้พิจารณาทางด้านปัญญา จิตใจผ่านได้ด้วยพิจารณาทางด้านปัญญา ทีนี้พวกที่มาตามหลังก็เลยเอาเรื่องปัญญานี้มาเป็นศาสนาเซนเสียเลย ไม่ได้คำนึงถึงว่าผู้หลุดพ้นมาจากแง่ไหน ๆ ของพุทธศาสนา ความจริงเป็นกิ่งก้านของพุทธศาสนาตอนปลาย คือตอนละเอียดเกี่ยวกับวิปัสสนา แล้วก็เลยเอานี้เป็นศาสนาเลย ใครมาปฏิบัติตามศาสนาเซนต้องใช้ปัญญาๆ แล้วผิดไปเลย อันนี้ผิดเข้าใจเหรอ พิสูจน์ดังที่ว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้นี้ ศีล สมาธิ ปัญญา
ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!!

ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!! ศีล เป็นเครื่องอบรมจิตใจให้อบอุ่นไม่เดือดร้อนวุ่นวาย เพราะเหตุที่ว่าตนทำศีลให้ด่างพร้อยหรือขาดทะลุไป จิตก็ไม่เป็นกังวลเพราะจิตของเราบริสุทธิ์ เวลาเข้าสมาธิจิตก็รวมได้ง่าย เพราะมันไม่วอกแวกไปหาสิ่งระแคะระคายที่เจ้าของทำศีลด่างพร้อย
นี้พิจารณาทางสมาธิ พอจิตเป็นสมาธิจิตมีกำลังเต็มเหนี่ยว เรียกว่า จิตในสมาธินี้เป็นจิตที่พอกับอารมณ์ทั้งหลาย ไม่อยากดู ไม่อยากเห็นไม่อยากได้ยินได้ฟัง ไม่หิวโหยในอารมณ์ต่าง ๆ เพราะจิตเป็นสมาธิมีความสงบตัว ความสงบตัวนี้เป็นอาหารของจิต จิตจึงไม่ไปหาคืบคลานกับอาหารภายนอกซึ่งเป็นฟืนเป็นไฟเผาตัวเอง ทีนี้เวลาจิตเข้าสู่ความสงบนี้จิตก็มีกำลังไม่หิวโหยกับอารมณ์
พาพิจารณาทางด้านปัญญา เอ้า ทำงานนี้ก็ทำ ทำงานนี้ก็ทำตามสั่ง สั่งให้ทำอะไรก็ทำ เพราะจิตไม่เถลไถลไปหาอารมณ์นั้นนี้ เพราะความหิวโหยในอารมณ์ จิตมันอิ่มอารมณ์แล้วไม่ไป สั่งทำงานอะไรก็ทำ ทีนี้ก็ทำเรื่อยเป็นวิปัสสนาไปเรื่อย นี่ สมาธิปริภาวิตา ปญฺญา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา สมาธิเป็นเครื่องหนุนปัญญาให้เดินได้อย่างคล่องตัว ปญฺญาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ จิตเมื่อปัญญาได้ซักฟอกแล้วย่อมหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงโดยชอบ นั่น ๓ ขั้น ถ้าพูดตามบาลีไปเลยก็ว่า สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส ศีลเป็นเครื่องอบรมสมาธิให้มีความแน่นหนามั่นคงมากขึ้น ๆ สมาธิปริภาวิตา ปญฺญา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา สมาธิเป็นเครื่องอบรมปัญญาให้เดินได้คล่องตัว คือ ทีแรกศีลอบรมสมาธิให้มีความสงบเย็นได้เร็ว สมาธิมีกำลังแล้วหนุนปัญญาให้เดินได้คล่องตัว ทีนี้ปัญญาเป็นเครื่องอบรมจิตให้หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงโดยชอบ ต่อเนื่องกันไปอย่างนี้ นี่ละท่านสอน สอนพระทุกองค์ เวลาบวชแล้วสอนธรรมข้อนี้
ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!!

ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!!
เรื่องศาสนาพระพุทธเจ้ามีมาก่อนแล้ว เรื่องผู้ที่บรรลุพวก "ขิปปาภิญญา" มีแต่พวกปัญญารวดเร็วผ่านออก ๆ จากพุทธศาสนา ผ่านออก ๆ ผู้ที่ไม่รวดเร็วก็หนุนกันไปตั้งแต่ ศีล สมาธิ ไปเรื่อย ๆ ผ่านออก ๆ นี่เรียกว่า "ศาสนาที่สมบูรณ์แบบ" คือ "พุทธศาสนา" มีทั้ง ก.ไก่ ก.กา มีทั้งประถมมีทั้งมัธยมตลอดดอกเตอร์เข้าใจไหม นี่ขึ้นเป็นขั้น ๆ ทีนี้(ศาสนาเซน)ไปทางโน้นไปหาขั้นดอกเตอร์เลย ผู้ที่ควรแก่ขั้นนั้นมันก็ไปได้ ผู้ไม่ควรแก่นั้น ก.ไก่ ก.กา มันยังไม่ได้มันจะไปเอาดอกเตอร์มาจากไหนเข้าใจไหม นี่ละศาสนาเซนเป็นขั้นดอกเตอร์ของพุทธศาสนา เป็นขั้นที่จะหลุดจะพ้นด้วยปัญญาอยู่แล้ว ก็เท่านั้นละ
ที่มา : FB : เพจ พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!!