เศรษฐีนีคนดังกล่าวชื่อ น.ส.นุกูล หรือตูน ขันทอง อายุ 38 ปี อยู่หมู่ 4 ต.ห้วยชัน อ.อินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี

ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนในการทำคดี ได้สืบทราบว่า เศรษฐีนีคนดังกล่าวชื่อ น.ส.นุกูล หรือตูน ขันทอง อายุ 38 ปี อยู่หมู่ 4 ต.ห้วยชัน อ.อินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ เพื่อไปพบกับทางด้าน น.ส.นุกูล พบว่าเป็นบ้านชั้นเดียวโดยมีเพียงมารดา กับหลานหรือลูกชายของ น.ส.นุกูล พักอาศัยเพียง 2 คน

ยิ่งงงกันไปใหญ่!! เผยชื่อสาวสิงห์บุรี ไม่ใช่เศรษฐีนี ตามที่เป็นข่าว ขณะที่เจ้าของโรงโม่หิน เข้าพบตำรวจแล้ว กลายเป็นเพื่อนสนิท

 

จากกรณี คนร้ายได้สังหารโหด 8 ศพ ครอบครัวผู้ใหญ่วรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ บ้านเลขที่ 14/3 หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา

พล.ต.ท. ธเนศ ทินเมืองงาม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค
8 พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุวัฒน์ แก้วยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล และพลต.ต.วรวิทย์ ปานปรุง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ร่วมประชุมหัวหน้าชุดสืบสวนที่ออกไปสืบสวนหาข่าวเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายยิงครอบครัวและญาติพี่น้องของนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านเขางาม หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เสียชีวิต 8 คน ได้รับบาดเจ็บ 3 คน ที่บ้านเลขที่ 14/3 ซึ่งเป็นบ้านของผู้ใหญ่คนดังกล่าว

พล.ต.ท. ธเนศกล่าวว่า ผลการสืบสวนมีความคืบหน้าแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เช่น กล้องวงจรปิดที่อยู่ตามจุดสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายที่ใช้รถยนต์ สีดำเป็นพาหนะในการก่อเหตุและรถยนต์ของผู้ตายไปด้วยนั้น ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดไม่สามารถเปิดเผยได้

พล.ต.ท. ธเนศ กล่าวว่า ส่วนประเด็นยิงครอบครัวผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจได้เน้นเรื่องที่นายวรยุทธ สังหลัง ได้รับเงินจำนวนมากจาก

1. โรงโม่หิน

2.ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายเเละธุรกิจส่วนตัว

3.การบุกพื้นที่สาธารณประโยชน์คลองตะเคียน

4.ประเด็นชู้สาว

 

ยิ่งงงกันไปใหญ่!! เผยชื่อสาวสิงห์บุรี ไม่ใช่เศรษฐีนี ตามที่เป็นข่าว ขณะที่เจ้าของโรงโม่หิน เข้าพบตำรวจแล้ว กลายเป็นเพื่อนสนิท

ความคืบหน้าล่าสุด หลังจากที่มีข่าวว่าทางด้านผู้ใหญ่วรยุทธ สังหลัง ได้ไปติดพันเศรษฐีนี ที่จังหวัดสิงห์บุรี และฝ่ายหญิงซื้อบ้านและรถยนต์ให้นายวรยุทธนั้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนในการทำคดี ได้สืบทราบว่า เศรษฐีนีคนดังกล่าวชื่อ น.ส.นุกูล หรือตูน ขันทอง อายุ 38 ปี อยู่หมู่ 4 ต.ห้วยชัน อ.อินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ เพื่อไปพบกับทางด้าน น.ส.นุกูล พบว่าเป็นบ้านชั้นเดียวโดยมีเพียงมารดา กับหลานหรือลูกชายของ น.ส.นุกูล พักอาศัยเพียง 2 คน

และได้ทราบว่าทางด้าน น.ส.นุกูลเคยทำงานโรงงานแถว อ.นวนคร จ.ปทุมธานี จากนั้นได้พบกับนายวรยุทธ ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะย้ายตามผู้ชายไปอยู่ที่ จ.กระบี่ แต่ยังส่งเงินมาให้มารดากับลูกชายใช้ตลอด และจะกลับมาเยี่ยมบ้านเดือนละครั้ง กระทั่งก่อนจะเกิดเหตุฆาตกรรมหมู่ 8 ศพ น.ส.นุกูลได้กลับมาเยี่ยมแม่และลูกที่ จ.สิงห์บุรี จากนั้นมาทราบข่าวว่านายวรยุทธถูกสังหารยกบ้าน เลยรีบเดินทางกลับ จ.กระบี่ ทันทีในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น

ขณะที่ทางด้านนายวัชระ อ่อนจุรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ห้วยชัน กล่าวว่า น.ส.นุกูล เป็นคนเรียบร้อย มีนิสัยอ่อนโยน รักเด็ก มาเยี่ยมบ้านทุกครั้ง จะชวนเด็กมากินขนม ตนขอยืนยันว่า น.ส.นุกูลไม่ใช่เศรษฐีนีอย่างที่เป็นข่าว มีฐานะพอมีพอกินเท่านั้น

 

ยิ่งงงกันไปใหญ่!! เผยชื่อสาวสิงห์บุรี ไม่ใช่เศรษฐีนี ตามที่เป็นข่าว ขณะที่เจ้าของโรงโม่หิน เข้าพบตำรวจแล้ว กลายเป็นเพื่อนสนิท

ส่วนทางด้านนายเชษฐ์ดนัย ถิ่นพังงา กรรมการบริษัทกระบี่ ภูทรัพย์อนันต์ จำกัด ชี้แจงถึงกรณีนายวรยุทธ สังหลัง ถูกกลุ่มคนร้ายฆ่าพร้อมครอบครัวตาย 8 ศพมีชื่อเป็นกรรมการบริษัทฯ ว่า ตนเป็นเพื่อนสนิทกับนายวรยุทธ หรือผู้ใหญ่บัตร ตั้งแต่เด็ก ๆ บริษัทนี้จดขึ้นมาช่วงต้นปี เพื่อเตรียมรองรับการทำธุรกิจเกี่ยวกับเเร่ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นเท่านั้น ยังไม่ได้เริ่มสำรวจสายแร่แต่อย่างใด ในช่วงเริ่มต้นตนกับแฟนสาวคือ นางสาววิจิราภรณ์ อินทร์จันทร์ เตรียมเปิดบริษัทจึงชักชวนผู้ใหญ่บัตรที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาเป็นกรรมการบริษัทด้วย โดยตนเป็นผู้มีอำนาจในการลงนาม ทางผู้ใหญ่บัตรไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจแต่อย่างใด

 

นายเชษฐ์ดนัย กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไหว้วานให้ผู้ใหญ่บัตรขึ้นมาทำธุระที่กรุงเทพฯ ก่อนนั่งเครื่องบินกลับมากระบี่ โดยยังโทรศัพท์สอบถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่ กระทั่งผู้ใหญ่บัตรกลับไปบ้าน ถูกคนร้ายที่นั่งรอนานกว่า 4 ชั่วโมงลงมือสังหารอย่างโหดเหี้ยม ขณะที่ล่าสุดนั้นนายเชษฐ์ดนัยได้เดินทางเข้าพบกับนายตำรวจระดับสูงคนหนึ่งในพื้นที่ เพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เป็นการด่วนแล้ว