- 21 ก.ค. 2560
รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th
น้ำปานะทรงเสวยของสมเด็จพระสังฆราช! กับเรื่องสำคัญที่คนทำบุญต้องรู้!! ถวายน้ำปานะแด่พระภิกษุ ทำอย่างไรจึงถูกต้อง
ภาพในอดีตที่ได้เห็นแล้วต้องให้นึกถึงวันเก่าที่เหมือนจะพึ่งผ่านมาไม่นาน
หลังจากที่ทรงรับแขก และเสวยพระกระยาหารในช่วงเช้าแล้วเสร็จ จะทรงพักผ่อนอยู่ที่ชั้นล่างของตำหนักคอยท่าปราโมช ช่วงเวลาเที่ยงของทุกวัน ลูกศิษย์จะยกน้ำปานะขึ้นไปถวาย พระองค์ท่านจะทรงเสวยน้ำมะม่วง ๑ แก้ว น้ำชา ๑ แก้ว น้ำมะม่วงจึงเป็นน้ำปานะที่ทรงเสวยอยู่ในทุกวันหลังช่วงเที่ยง
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ :“กินเจไม่ได้บุญอย่างที่คิด...กินเนื้อก็ไม่บาปอย่างที่เข้าใจ”!! สมเด็จพระญาณสังวรฯ ตรัสถึงเรื่องกินเจที่คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจกันผิดๆ
โยมอุปัฏฐาก ได้ซื้อเครื่องแยกกากผลไม้มาเพื่อคั้นน้ำผลไม้แยกกาก สำหรับถวายพระองค์ท่าน สมัยนั้นเจ้าเครื่องแยกกาก ที่เมืองไทยยังไม่มีวางจำหน่ายอย่างแพร่หลาย เป็นนวัตกรรมที่ทันสมัยสำหรับเด็กวัดที่จะได้เล่นกันทุกวัน ไม่เคยมีใครสงสัยว่าทำไมจึงต้องแยกกาก แค่สนุกไปกับการได้เล่นนวัตกรรมชิ้นหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในห้องครัว วัดบวรนิเวศวิหาร จนกระทั่งได้รับการสอนว่า น้ำปานะ ในบัญญัติต้องไม่มีกาก และตอนฉันนั้นพระต้องนั่งเพื่อสำรวม ไม่เดิน ไม่ยืนฉัน
น้ำปานะ คือ เครื่องดื่มที่คั้นจากลูกไม้ หรือ น้ำคั้นผลไม้ จัดเป็น "ยามกาลิก" คือ ของที่พระภิกษุสงฆ์รับประเคนไว้แล้ว
ฉันในช่วงหลังเที่ยงไปได้ทั้งวันทั้งคืนก่อนรุ่งเช้า ผู้บัญญัติให้เกิดมีการดื่มน้ำปานะขึ้นเป็นท่านแรกคือ “เกณยชฎิล” ปรากฏหลักฐานอยู่ในพระไตรปิฎกพระวินัย เล่มที่ ๕ ข้อที่ ๘๖ ว่า พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตน้ำปานะ หรือน้ำดื่ม ๘ ชนิดคือ
๑.น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลมะม่วง ๒.น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลหว้า ๓.น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลกล้วยมีเมล็ด
๔.น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลกล้วยไม่มีเมล็ด ๕.น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลมะซาง ๖.น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลจันทน์ หรือผลองุ่น
๗.น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลเหง้าบัว ๘.น้ำปานะ ที่ทำด้วยผลมะปราง หรือผลลิ้นจี่
- และทรงอนุญาตน้ำผลไม้ทุกชนิด ยกเว้นน้ำต้มเมล็ดข้าวเปลือก และผลไม้ที่มีผลใหญ่กว่าผลมะตูม หรือผลมะขวิด
- น้ำใบไม้ทุกชนิด น้ำผักดอง น้ำดอกไม้ทุกชนิด เว้นน้ำดอกมะซาง
- และทรงอนุญาตน้ำอ้อยสด เว้นผลไม้ที่มีผลใหญ่กว่าผลมะตูม หรือผลมะขวิด
วิธีทำก็ต้องคั้นเอาแต่น้ำ และกรองให้ไม่มีกาก จะทำให้สุกด้วยแสงอาทิตย์ก็ได้ *.. แต่ห้ามผ่านการสุกด้วยไฟ .. *
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ : ความนอบน้อมของสมเด็จพระญาณสังวรฯ ไม่ทรงตีเสมอสูงเทียบเท่าเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เผยที่มา "จอกน้ำมนต์มหาบพิตร" สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัดบวรฯ!
*.....น้ำที่ห้ามพระสงฆ์ดื่มใน....ยามวิกาล
- น้ำจากมหาผล คือ...ผลไม้ใหญ่ ๙ ชนิด คือ ผลตาล ผลมะพร้าว ผลขนุน ผลสาเก น้ำเต้า ฟักเขียว แตงไทย แตงโม และฟักทอง
- น้ำที่ได้จากธัญชาติ ๗ ชนิด มี ข้าวสาลี ข้าวเปลือก หน้ากับแก้ ข้าวละมาน ลูกเดือย ข้าวแดง ข้าวฟ่าง
- น้ำที่ได้จากพืชจำพวกถั่ว มีถั่วเขียว ถั่วเหลือง เป็นต้น
รวมถึงน้ำนมสด ก็ไม่จัดเป็นน้ำปานะ เพราะนมสดถือเป็นโภชนะ (คืออาหาร) อันประณีต ไม่ควรดื่มในเวลาวิกาล
- ส่วนโภชนะอันประณีตอีก ๕ อย่าง คือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย แม้จะเป็นอาหาร - แต่ก็เป็นเภสัช คือ ยาด้วย
พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ฉันได้ทั้งในกาลและวิกาล คือฉันได้ไม่จำกัดเวลา
- มาถึงตรงนี้แล้ว ก็เป็นอันเข้าใจได้เลยว่า ทั้งนม, น้ำเต้าหู้, นมถั่วเหลือง, โอวัลติน กาแฟ ไม่จัดว่าเป็นน้ำปานะ
ฉะนั้นจะจัดน้ำปานะถวายพระก็ต้องระวังกันด้วยนะครับ เดียวจะบาปไม่รู้ตัว
ที่มา FB :เพจป๊อปวัดบวร และ FB หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ : Buddhadasa Indapanno Archives ได้แชร์รูปภาพของ Sommai Thammachai
ติดตามข่าวเพิ่มเติมที่ : สมเด็จพระญาณสังวร เตือน! "อันตรายที่แท้จริง" ของพระพุทธศาสนา ไม่เกิดจากคนอื่น แต่เกิดจากคนในศาสนา โดยเฉพาะ ผู้ที่เรียกตนเองว่า "พระภิกษุ" !!






