รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://panyayan.tnews.co.th

ขอน้อมอาจาริยบูชา ครบ๑ปีการมรณภาพหลวงปู่อุดม ขนฺติพโล พระอริยสงฆ์ผู้เห็นนิมิตการมรณภาพของตนเองล่วงหน้า

ขอน้อมอาจาริยบูชา ครบ๑ปีการมรณภาพหลวงปู่อุดม ขนฺติพโล พระอริยสงฆ์ผู้เห็นนิมิตการมรณภาพของตนเองล่วงหน้า

วันนี้วันที่ ๑๗ สิงหาคมเป็นวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่เจ้าคุณพระชินวงศาจารย์ (หลวงปู่อุดม ขนฺติพโล) ครบรอบ ๑ ปี บรรดาศิษย์ล้วนต่างเรียกท่านว่าหลวงตาชิน อันเป็นนามสมณศักดิ์ของท่านนั่นเอง หลวงตาชิน ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่งองค์ท่านติดตามหลวงลุงของท่านขณะมีวัยแค่ ๖ ขวบไปกราบที่สำนักของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงตาชินเมื่อถึงวัยอุปสมบท ท่านก็ขยันหมั่นเพียร ทั้งทางปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ท่านเคยได้ไปศึกษาอบรมธรรมกับหลวงปู่ขาว อนาลโย , หลวงปู่ชอบ ฐานสโม , หลวงปู่ฝั้น อาจาโร และหลวงปู่ศรี มหาวีโรเป็นต้น อีกทั้งท่านยังเคยได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบด้านฝ่ายบริหารคณะสงฆ์โดยเคยได้ดำรงตำแหน่ง อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอปักธงชัย(ธรรมยุติ) อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าเวฬุวัน(ธ) ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จึงขอน้อมนำประวัติปฏิปทาของหลวงตาชิน หรือหลวงปู่อุดม ขันติพโล เพื่อรำลึกเป็นสังฆานุสติและมรณานุสติครับ
ขอน้อมอาจาริยบูชา ครบ๑ปีการมรณภาพหลวงปู่อุดม ขนฺติพโล พระอริยสงฆ์ผู้เห็นนิมิตการมรณภาพของตนเองล่วงหน้า

ขอน้อมอาจาริยบูชา ครบ๑ปีการมรณภาพหลวงปู่อุดม ขนฺติพโล พระอริยสงฆ์ผู้เห็นนิมิตการมรณภาพของตนเองล่วงหน้า
หลวงตาชิน มีนามเดิมว่า อุดม เขตเจริญ ท่านถือกำเนิดเมื่อ ๒๑ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๒ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะเส็ง ที่บ้านท่าสองคอน หมู่ที่ ๘ ตำบลท่าดินแดง อำเภอแซงบาดาล จังหวัดร้อยเอ็ด โยมบิดาชื่อ พึ่ง โยมมารดาชื่อ คำผัน มีพี่น้องร่วมมารดา ๕ คน ท่านเป็นบุตรคนโต ขณะที่ท่านอายุได้ ๔ ขวบ บิดาได้นำไปฝากเป็นลูกศิษย์ กับท่านพระอาจารย์วิสุทธิ์ วิสุทฺโธ(ต่อมาได้รับสมศักดิ์เป็นพระครูวิสุทธิธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าสุวารีวิหาร และรองเจ้าคณะอำเภอธวัชบุรี) ผู้เป็นหลวงลุง พออายุได้ ๖ ขวบ พระอาจารย์ของท่านได้ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมตามป่าเขาในเขตภาคอีสาน ท่านจึงได้ติดตามพระอาจารย์ออกธุดงค์ บางครั้งก็เข้าไปศึกษาในสำนักปฏิบัติธรรมของครูบาอาจารย์ต่างๆ โดยท่านได้มีโอกาสอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์หลายท่าน และได้ร่วมปฏิบัติธรรมกับสามเณรด้วย กระทั่งสำนักสุดท้ายที่ท่านออกธุดงค์ครั้งนั้นคือ ท่านได้ไปปฏิบัติธรรมในสำนักของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่ถ้ำค้อ จ.สกลนคร
ท่านได้ขอบวชกับพระครูวิสุทธิธรรมคุณ พระอาจารย์ โดยได้รับการอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดมิ่งเมือง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ในวันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๐๑ โดยมีพระราชสิทธาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระใบฎีกาสมศักดิ์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาเนาว์ นวโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ขนฺติพโล” แปลว่า "ผู้มีกำลังคือความอดทน"
ขณะที่ท่านบวชได้ ๕ พรรษา ซึ่งถือว่าพ้นนิสัยแล้ว เพราะได้รับการอบรมข้อวัตรปฏิบัติจากครูอาจารย์เป็นเวลา ๕ ปี ท่านได้ไปศึกษาและปฏิบัติธรรมในสำนักของหลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง หลังจากนั้นไปวัดถ้ำขาม จ.สกลนครเพื่อกราบและพักปฏิบัติธรรมในสำนักของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร และเดินทางไปที่จังหวัดหนองคายที่วัดป่าอรุณรังสี ซึ่งเป็นศูนย์รวมของพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต แล้วธุดงค์วิเวกข้ามฝั่งลาว จวนกระทั่งจะเข้าพรรษา จึงได้กลับมาฝั่งไทยโดยได้เดินทางไปยังวัดถ้ำกลองเพล จังหวัดอุดรธานี เพื่อกราบหลวงปู่ขาว อนาลโย ศิษย์รุ่นแรกของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้พักปฏิบัติธรรมและเข้ารับการอบรมข้อวัตรปฏิบัติจากหลวงปู่ขาว เป็นเวลา ๑ เดือนจึงได้กราบลาหลวงปู่เพื่อเดินทางต่อไปยังเขาใหญ่
ขอน้อมอาจาริยบูชา ครบ๑ปีการมรณภาพหลวงปู่อุดม ขนฺติพโล พระอริยสงฆ์ผู้เห็นนิมิตการมรณภาพของตนเองล่วงหน้า

ขอน้อมอาจาริยบูชา ครบ๑ปีการมรณภาพหลวงปู่อุดม ขนฺติพโล พระอริยสงฆ์ผู้เห็นนิมิตการมรณภาพของตนเองล่วงหน้า
ก่อนจะมรณภาพ หลวงตาชิน ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๖ หลวงตาท่านได้นิมิตว่าท่านได้มรณภาพลง คณะศิษย์ได้นำร่างไร้วิญาณขึ้นสู่เมรุเพื่อทำการฌาปนกิจ ขณะที่กำลังนำร่างขึ้นสู่เชิงตะกอนนั้น ปรากฏว่าวิญญาณได้กลับเข้าสู่ร่าง ท่านจึงได้ชูมือขึ้นเหนือศีรษะเพื่อให้สัญญาณว่าฟื้นแล้ว ทำให้ผู้พบเห็นตกใจวิ่งหนีกันอลหม่าน ท้ายที่สุดคณะศิษย์จึงช่วยกันปฐมพยาบาลจนท่านฟื้นคืนมา เมื่อตื่นตอนเช้าหลังจากทำวัตรเสร็จ ท่านจึงพิจารณานิมิตดังกล่าวและถือว่าเป็นเหมือนเทวทูตที่มาเตือนให้ทราบว่าวันเวลาของชีวิตเหลือน้อยนิดเต็มทีแล้ว จงรีบขวนขวายทำความดี เหมือนดังปัจฉิมพจน์ของพระพุทธเจ้าที่ทรงประทานไว้ก่อนปรินิพานว่า “หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ” แปลว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา ขอเธอทั้งหลายจงทำประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อมเถิด” ดังนั้น หลวงพ่อจึงได้ฝากถึงสหธรรมิกและศิษย์ทั้งหลายว่า อย่าได้รอช้า รอวันเวลาที่จะสร้างความดีแก่สังคม เพราะความดีที่ทำไว้จะเป็นเหมือนกระจกเงาที่ส่องสะท้อนให้เห็นตัวเอง ควรประพฤติกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ด้วยจิตที่เป็นสัมมาทิฐิเถิด
หลวงตาชิน หรือหลวงปู่อุดม ขันติพโล ท่านละสังขารลงอย่างสงบ เมื่อวันพุธที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๙ เวลา ๒๑.๔๐ น. สิริอายุรวม ๘๖ ปี ๑๐ เดือน ๒๖ วัน ท่านมรณภาพลงในช่วงเข้าพรรษาที่ ๕๙ แห่งการอุปสมบทของท่าน
ที่มา FB : เพจท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐาน 

ขอน้อมอาจาริยบูชา ครบ๑ปีการมรณภาพหลวงปู่อุดม ขนฺติพโล พระอริยสงฆ์ผู้เห็นนิมิตการมรณภาพของตนเองล่วงหน้า