มากมายเหลือเกิน!! ย้อนวีรกรรม "ลูกเทพ" ไล่ทุบ - ทำลายรถ ประชดแม่ไม่ให้เงิน กับคำขอครั้งสุดท้าย

จากกรณีเหตุการณ์ ลูกเทวดา ทุบ - เผารถประชดแม่ ไม่พอใจแม่ที่ไม่ให้เงินซื้อรถจักรยานยนต์ จำนวน 800,000 บาท เรื่องลูกเทพ ชื่อ "เจต" (นามสมมุติ) วัย 21 ปี บุตรของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ในสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ไม่พอใจที่ขอเงินแม่ จำนวน 800,000 บาท เพื่อที่จะไปซื้อรถจักรยานยนต์ แต่แม่ไม่ยอมให้ นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 จึงได้ทำการไล่ทุบรถยนต์ที่ตนพบเห็นและลับตาคน ที่จอดอยู่ภายในโรงจอดรถสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต 1 เพื่อประชดแม่ จนกว่าแม่จะให้เงินไปซื้อ โดยเหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 

19 ก.พ.2559 นายเจต ลูกชายของเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาในบริเวณด้านหน้าสำนักงานฯ ก่อนจะใช้ก้อนอิฐทุบลงใส่กระจกรถของเจ้าหน้าที่สำนักงานคนหนึ่ง โดยที่ตนและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ไม่กล้าที่จะเข้าไปห้ามปราม เนื่องจากนายเจต ได้ดึงเอามีดสปาต้าเล่มยาวออกมาขู่ ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์กลัวว่าจะโดนทำร้าย จากนั้นนายเจต ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป 

21 ก.พ.2559 นายเจต ได้ใช้ก้อนอิฐทุบกระจกรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญธ 6035 กรุงเทพฯ ของนางเพ็ญพิมนต์ โมรา อายุ 42 ปี พยาบาลโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ที่จอดอยู่ภายในโรงจอดรถบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

22 ก.พ.2559 นายเจตใช้ก้อนอิฐทุบกระจกรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กจ 5996 ศรีสะเกษ ของนางโกลัญญา อ่อนหวาน เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ชำนาญงาน กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ที่จอดอยู่บริเวณโรงจอดรถ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ต.หนองครก อ.เมืองศรีสะเกษ 

24 ก.พ.2559 ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ จับกุมตัวนายเจต ตามหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ ในข้อหาละเมิดอำนาจศาล ซึ่งมีสาเหตุมาจากผู้ก่อเหตุโกรธผู้เป็นแม่ที่ไม่ยอมซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ราคา 8 แสนบาทให้ จึงขู่และลงมือทุบรถในที่ทำงานที่ผู้เป็นแม่ทำงานอยู่จนครบ 10 คัน จนกว่าแม่จะซื้อรถให้ ต่อมาพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนยื่นต่อพนักงานอัยการเพื่อสั่งฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาละเมิดอำนาจศาล , กระทำความรุนแรงในครอบครัว และทำให้เสียทรัพย์ ก่อนที่พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษใน 2 ข้อหา คือ กระทำความรุนแรงในครอบครัว และ ทำให้เสียทรัพย์ โดยศาลจังหวัดศรีสะเกษนัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 25 ก.พ.2559 และในข้อหาละเมิดอำนาจศาล ในวันที่ 29 ก.พ.2559 จากการที่แม่ของผู้ต้องหา ได้ไปร้องขอความคุ้มครองจากศาล ภายหลังถูกลูกชายข่มขู่คุกคาม จนเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัยในชีวิต จนศาลมีคำสั่งให้ความคุ้มครองและไม่ให้ผู้ต้องหาเข้ามาในที่ทำงานของแม่ แต่ผู้ต้องหาฝ่าฝืน จึงถูกดำเนินดคีฐานละเมิดคำสั่งศาลดังกล่าว 

25 ก.พ.2559 ศาลจังหวัดศรีสะเกษได้มีการนัดฟังคำพิพากษา ใน 2 คดี คือ ทำให้เสียทรัพย์และกระทำความรุนแรงในครอบครัว โดยมี “นายเจต” เป็นจำเลย ซึ่งระหว่างที่ศาลได้ซักถามจำเลย เพื่อที่จะพิพากษาคดี ปรากฏว่า จำเลยซึ่งเคยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ได้กลับคำมาให้การปฏิเสธในชั้นศาล ทำให้ศาลได้เลื่อนการพิจารณาและตัดสินคดีออกไป เพื่อจะได้ให้คู่ความนำพยานเข้าสืบหักล้างต่อสู้กันตามกระบวนการยุติธรรม ก่อนจะมีพิพากษาตัดสินคดีต่อไป 

26 เม.ย.2559 นายเจตขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปภายในบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ศรีสะเกษ เขต 1 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และได้ใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ ทุบที่บริเวณกระจกด้านหลังรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอินโนวา สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 7126 ศรีสะเกษ ของนางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน 

29 เม.ย.2559 ตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ควบคุมตัวมาดำเนินคดี หลังศาลอนุมัติหมายจับฐานทำให้เสียทรัพย์ ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง เพราะไม่พอใจที่ผู้เป็นแม่ปฏิเสธให้เงินจำนวน 5 แสนบาท เพื่อไปซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์คันใหม่ตามที่ขอ จึงทำพฤติกรรมดังกล่าวเพื่อประชดหลังเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายหน ส่วนที่เลือกรถยนต์ซึ่งจอดอยู่ภายในสถานที่ทำงานของแม่ ก็เพื่อหวังให้แม่ได้ทุกข์ใจยินดีมอบเงินให้โดยเร็วที่สุด ผู้ต้องหายอมรับอีกว่าจากการถูกจับดำเนินคดีถึง 2 ครั้ง อนาคตคงไม่กล้าที่จะทำพฤติกรรมเช่นนี้เพื่อประชดแม่ซ้ำอีก 

27 ก.พ.2560 นางสาวจริญา หรือนาง นรสาร ครูอัตราจ้าง โรงเรียนบ้านบัวหุ่ง ตำบลบัวหุ่ง อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร้อยตำรวจเอก ธีระชัย แก้วคำ ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมือง จังหวัดศรีสะเกษ กรณีที่ตนถูกมือดี นำก้อนหินมาปาทุบกระจกรถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 1595 ศรีสะเกษ ขณะจอดอยู่ที่ภายในสำนักงานเขตพื้นที่การการศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ขณะที่ตนไปสมัครสอบตำแหน่งครูผู้ช่วย คาดว่าเป็นฝีมือของ นายเจต ฉายา “ลูกเทวดา” ที่เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง 

1 มี.ค.2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายเจต ได้ที่บริเวณถนนใกล้หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ขณะที่นายเจกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ จากนั้นได้นำตัวนายเจตไปมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการทุบกระจกรถของ น.ส.จริญา นรสาร จริง สาเหตุเนื่องจากแค้นที่ขอเงินแม่ จำนวน 80,000 บาท เพื่อนำเอาไปใช้จ่าย แต่แม่ซึ่งทำงานอยู่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ไม่ยอมให้

 

ล่าสุด นางรุ  (นามสมมุติ) แม่ของนายเจต  (นามสมมุติ) หรือลูกเทพตกลงจ่ายเงินจำนวน 300,000  บาท ให้กับลูกเทพ   โดยนายเจต อ้างว่า จะนำเอาเงินไปใช้เป็นทุนในการศึกษา ระดับปริญญาตรี นำไปซื้ออุปกรณ์ในการเรียนชกมวยสากล  ซื้อกล้องในการเรียนถ่ายภาพ และใช้อื่นๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์  โดย นางรุ  แจ้งว่า จะมอบเงินให้เป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตที่จะจ่ายให้นายเจต  ซึ่งนายเจต ได้รับเงินแล้วก้มลงกราบเท้าแม่และแม่น้ำตาไหลอาบแก้มโอบกอดลูกไว้ และนายเจตได้สาบาน ต่อองค์พระราชานุสาวรีย์และดวงพระวิญญาณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษว่า จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับแม่และผู้อื่นอีกต่อไป  มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงไว้เป็นหลักฐานด้วย

ซึ่งอย่างไรก็ตามในเรื่องที่นายเจตกล่าวว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใครอีก และเงินก้อนนี้จะเป็นก้อนสุดท้ายนั้น ทำให้ผู้ที่ใกล้ชิดไม่เชื่อว่าลูกเทพจะเลิกพฤติกรรมในการทุบรถของชาวบ้าน  เพราะว่า  ก่อนหน้านี้นายเจต ลูกเทพก็เคยได้รับเงินจากแม่ทุกครั้ง  และเมื่อเงินหมดมาขอเงินแม่อีก  เมื่อแม่ไม่ให้เงินก็จะทุบรถประชดแม่ที่ไม่ให้เงิน  ซึ่งทำให้หลายคนเชื่อว่า  นายเจต  ลูกเทพ  เมื่อใช้เงินที่ได้รับจากแม่ไปจำนวน  300,000  บาทหมดแล้ว  ก็จะต้องย้อนกลับมาขอเงินแม่อีกอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป