ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

พระคาถาคุ้มภัย ของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ภูเก็ต

ภะยะมาปันนะ สัตตานัง

ภะยะหาเปติ นายะโก

สัพเพ อะติกกันนัง

ภะคะวันตัง นะมาหิหัง

พระคาถานี้ เป็นพระคาถาที่หลวงพ่อแช่มท่านภาวนาตลอดเวลา

และเป็นพระคาถาที่มีทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย และคงกระพันชาตรีในคาถาเดียว

มีกฎว่าผู้สวดต้องห้ามผิดศีลข้อลักทรัพย์และ สุราเมรัย พระคาถานี้หลวงพ่อแช่มท่านภาวนากันปืนไฟ

ในการปราบอั้งยี่มาแล้ว ท่านได้ถ่ายทอดให้เสด็จในกรมพระยาดำรงราชานุภาพ

ห้ามผิดศีลข้อลักทรัพย์และสุราเมรัย พระคาถาคุ้มภัย "หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง" พระคาถานี้ท่านภาวนากันปืนไฟ ในการปราบอั้งยี่มาแล้ว ศักดิ์สิทธิ์นักแล

พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี (แช่ม) เกิดเมื่อปีกุน พ.ศ. ๒๓๗๐ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับนามของโยมบิดามารดาของท่าน เมื่อเจริญวัยขึ้นโยมบิดามารดาได้ให้ท่านมาอยู่ที่วัดฉลอง ตำบลฉลอง อำเภอทุ่งคา (ปัจจุบันคืออำเภอเมืองภูเก็ต) จังหวัดภูเก็ต โดยฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของพ่อท่านเฒ่า เจ้าอาวาสวัดฉลองในเวลานั้น หลวงพ่อแช่มได้บรรพชาเป็นสามเณรและอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ศึกษาเล่าเรียนด้านวิปัสสนาธุระอยู่ที่วัดฉลองมาตลอดจนมีความเชี่ยวชาญ

หลวงพ่อแช่มเป็นผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้านโดยทั่วไป ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๙๓ พ่อท่านเฒ่ามรณภาพ หลวงพ่อแช่มได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดฉลองสืบต่อมา

ในปี พ.ศ. ๒๔๑๙ เกิดการจลาจลขึ้นในเมืองภูเก็ตจากฝีมือของกลุ่มอั้งยี่กรรมกรขุดแร่ดีบุกชาวจีน ชาวบ้านฉลองที่เคยเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อแช่มได้ชักชวนให้หลวงพ่อแช่มหนีภัยพวกอั้งยี่ไปซ่อนตัวอยู่ที่อื่น แต่หลวงพ่อแช่มไม่ยอมทิ้งวัดหนีไป ลูกศิษย์ของหลวงพ่อแช่มจึงตัดสินใจรวมกลุ่มกันสู้เพื่อปกป้องหลวงพ่อแช่มและขอผ้าประเจียดจากท่านเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ซึ่งท่านได้อนุโลมตามที่บรรดาลูกศิษย์ขอร้อง ลูกศิษย์ชาวบ้านฉลองกลุ่มนี้ต่อมารบพวกอั้งยี่ชนะ ทำให้คนที่หนีภัยอั้งยี่กลับเข้ามารวมกลุ่มกันสู้พวกจีนอั้งยี่มากขึ้นและอาศัยผ้าประเจียดที่หลวงพ่อแช่มทำขึ้นเป็นเครื่องปลุกใจสำคัญ จนกระทั่งสามารถไล่พวกจีนอั้งยี่ไม่ให้เข้ามาปล้นหมู่บ้านฉลองได้อีก

ห้ามผิดศีลข้อลักทรัพย์และสุราเมรัย พระคาถาคุ้มภัย "หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง" พระคาถานี้ท่านภาวนากันปืนไฟ ในการปราบอั้งยี่มาแล้ว ศักดิ์สิทธิ์นักแล

ในปีต่อมา (พ.ศ. ๒๔๒๐) เมื่อทางการปราบปรามจีนอั้งยี่ภูเก็ตจนราบคาบแล้ว คณะกรมการเมืองภูเก็ตได้ยกความดีความชอบส่วนหนึ่งในการปราบกบฏอั้งยี่ครั้งนี้ให้แก่หลวงพ่อแช่ม และเวลานั้นตำแหน่งพระครูสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ตยังว่างอยู่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดแต่งตั้งให้หลวงพ่อแช่มเป็นพระครูสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต สมณศักดิ์ที่ "พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี" และได้พระราชทานนามวัดฉลองใหม่ว่า "วัดไชยธาราราม" อนึ่งจากเหตุจลาจลอั้งยี่ดังกล่าว ทำให้ชาวเมืองภูเก็ตเชื่อว่า ที่ชาวบ้านฉลองรบชนะพวกจีน เพราะท่านพระครูวัดฉลองมีอิทธิฤทธิ์ในทางวิทยาคม จึงนับถือกันว่าท่านเป็นเกจิอาจารย์สำคัญคนหนึ่งมานับแต่นั้น

พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี (แช่ม) ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการอาพาธเป็นอุจจาระธาตุพิการ เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๑ได้มีการส่งหีบเพลิงไปพระราชทานเพลิงศพที่ภูเก็ต พร้อมเงิน ๑๐๐ เฟื้อง ผ้าขาว ๒ พับ เพื่อใช้ในการพระราชทานเพลิงศพตามธรรมเนียมเมื่อวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๕๒

ห้ามผิดศีลข้อลักทรัพย์และสุราเมรัย พระคาถาคุ้มภัย "หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง" พระคาถานี้ท่านภาวนากันปืนไฟ ในการปราบอั้งยี่มาแล้ว ศักดิ์สิทธิ์นักแล

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพและเจ้าของบทความ ที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

คาถาครูพักลักจำ

https://th.wikipedia.org/

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา