สมเด็จพระสังฆราช พระสัมโมทนียกถา ถ้าประเทศชาติไม่มีความสุข คนก็ไม่มีความสุข ขอให้เสียสละ ลดความชั่ว ตรัสในหลวงร.10ทรงปรารถนาคนไทยมีความสุข

จากกรณีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ พร้อมอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปเป็นประธานฝ่ายฆราวาส

การนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปทรงเป็นประธานสงฆ์ โดยมีพระสงฆ์มาร่วมสวดและเจริญพระพุทธมนต์รวม ๒๔๑ รูป ในพิธีมหามงคล

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระชัยนวรัฐ พระพุทธรูปสำคัญออกประดิษฐานเป็นพระประธานในพิธี เพื่อให้ประชาชนได้สักการะ

โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า

เราทั้งหลายได้รับพระราชทานโอกาสจากสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้มาประชุมพร้อมเพรียงกัน เพื่อกระทำกิจมหามงคล เนื่องใน วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า พวกเราได้มาร่วมกันสวดมนต์ สำรวมกาย วาจา ใจ เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ได้ประจักษ์แล้วว่า ความสามัคคีพร้อมเพรียงกันนั้น สามารถสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้บังเกิดขึ้นได้ อย่างแท้จริง

ขอให้ทุกท่านจงตั้งจิตประมวลพลังความดีงามนี้ น้อมถวายเป็นพระราชกุศล เพิ่มพูนพระบารมีธรรมถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

เราต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชคุณูปการยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติเพียงไร ความสุขความเจริญในชีวิตของคนไทยในวันนี้ ล้วนเป็นผลจากพระราชกรณียกิจ ที่ทรงบำเพ็ญไว้ทั้งสิ้น อุดมการณ์ที่ทรงปลูกฝังเน้นย้ำไว้แก่คนไทย ได้แก่ ความเสียสละ และ ความสามัคคี ดังบทพระราชนิพนธ์ที่ว่า

ชาติใดไร้รักสมัครสมาน

จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล

แม้ชาติย่อยยับอับจน

บุคคลจะสุขอยู่อย่างไร

แนวพระราชดำรินี้ สอดคล้องกับธรรมะของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงสั่งสอนพุทธบริษัทไว้ว่า สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี แปลความว่า ความพร้อมเพรียงของหมู่ ยังให้เกิดสุข

เราทุกคนต่างต้องการความสุขกันทั้งนั้น แต่ถ้าคนไทยไม่สามัคคีพร้อมเพรียงกันแล้ว ความสุขไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้ สามัคคี ย่อมเริ่มต้นจากการที่แต่ละคนแต่ละฝ่าย ยอม เสียสละ ประโยชน์ส่วนตนก่อน

ถ้าไม่มีใครยอมสละความเห็นแก่ตัว ไม่มีใครยอมพลีความสุขสบายของตัว เพื่อประโยชน์ของชาติ ถ้าทุกคนมัวคิดจะเอาแต่ใจตนเอง เอาตนเองเป็นใหญ่ เป็นที่ตั้ง ขาดวินัยในการอยู่ร่วมกัน ความวิวาทบาดหมางย่อมเกิดขึ้น ความปรองดองที่แท้จริงก็จะไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ถ้าประเทศชาติบ้านเมืองไม่มีความสุข นั้นแปลว่าบุคคลแต่ละคน ก็ไม่มีความสุข

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน มีพระราชปณิธานต้องตรงกัน คือทรงปรารถนาให้คนไทยมี ความสุข แต่ความสุขนั้นเป็นเป้าหมาย เราจะไปถึงได้อย่างไร?

ทั้งสองพระองค์พระราชทานแนวทางไว้ให้แล้ว คือถ้าเราทั้งหลายรู้จักเสียสละความเป็นตัวเป็นตน ด้วยการมี จิตอาสา พร้อมพลีกำลังของตนโดยมุ่งหมายประโยชน์ที่ใหญ่กว่า คือประโยชน์ส่วนรวม ความสามัคคีย่อมเกิดขึ้นได้ และถ้าประโยชน์ส่วนรวมเกิดขึ้นเมื่อไร ประโยชน์ส่วนตน คือ ความสุข ก็พลอยเกิดขึ้นไปพร้อมกันเมื่อนั้น นั่นแลคือกระบวนการที่คนไทยต้องสร้างให้เกิดขึ้นให้ได้

ในโอกาสนี้ ขอทุกท่านจงอธิษฐานในใจว่านับแต่นาทีนี้ จะมุ่งมั่นลดละความชั่วที่มีอยู่ให้หมดไปจากกาย วาจา และใจ และจะตั้งใจทำแต่ความดีตลอดเวลา แล้วจงร่วมกันบำเพ็ญจิตภาวนา ทำจิตให้สงบ ให้ว่างจากความเศร้าหมองทั้งปวง

 

ขอบคุณ : สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช