ประยุทธ์เห็นชอบตั้งงบปี 62 ขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท  เผยเหตุตั้งงบกลางปีเพื่อเร่งพัฒนาประเทศ  ปัดทำบัตรคนจน 2 หวังเป็นนายกฯอีกสมัย

ประยุทธ์เห็นชอบตั้งงบปี 62 ขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท เผยเหตุตั้งงบกลางปีเพื่อเร่งพัฒนาประเทศ ปัดทำบัตรคนจน 2 หวังเป็นนายกฯอีกสมัย

ในการประชุมครม.วันนี้  ที่ประชุมได้ไฟเขียวกรอบงบประมาณปีพ.ศ. 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบประมาณขาดดุล  4.5 แสนล้านบาท เท่ากับปี 2561 โดยตั้งอยู่บนสมมุติฐานจีดีพีโต 4.2% เงินเฟ้อ 2.5%  นอกจากนี้ยังเห็นชอบจัดงบกลางปี 2561 อีก 1.5 แสนล้านบาท แยกเป็นงบช่วยคนจน 1แสนล้านบาท และอีก 5 หมื่นล้านบาท เป็นงบประมาณใช้หนี้เงินงบประมาณ   โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึง การตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 62 ว่า  มีวงเงินที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีรายได้เท่าไหร่และจะตั้งงบประมาณเกินดุลเท่าไหร่ อะไรต่างๆ ที่ต้องเร่งรัดพัฒนาในช่วงปีที่ยังเหลืออยู่ จึงจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายกลางปีขั้นมา การให้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย รอบ 2 ที่เดินหน้า ไม่ใช่เป็นการจ่ายเงินทุกคนต้องมาแจ้งความประสงค์ว่าจะทำอะไรจึงจะเพิ่มเงินได้ไม่ใช่อยู่ดีๆจะไปเพิ่มเงินให้ 200-300 บาท แบบนั้นทำไม่ได้ตนไม่ทำอยู่แล้ว ส่วนครั้งแรกที่ทำเพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนมาลงทะเบียน
 

 

 

“ การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยระยะที่ 1 และ  2  ไม่อยากให้สังคมเข้าใจว่า
เราทำเพื่อรักษาคะแนนเสียงหรือหาคะแนนเสียงไปสู่อนาคตการเป็นนายกรัฐมนตรีอะไรทำนองนี้ ไม่เคยคิดอย่างนั้น แต่คิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น ทำเพื่อประชาชน  ไม่ว่าเวลาไหน ผมจะอยู่ไม่อยู่ไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่เป็นเรื่องที่เราต้องทำให้ประชาชนที่เดือดร้อนในวันนี้ ให้เขามีความสุข ไม่ใช่ทำเพื่อการเมือง  หากทุกอย่างเราผลักดันเป็นการเมืองทั้งหมด มันก็ตีกันอยู่แบบนี้  และเกิดความขัดแย้งกันอยู่แบบนี้ ต้องดูว่าประเด็นที่เราทำในวันนี้  มันตรงความต้องการประเทศหรือไม่” นายกฯ กล่าว

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ช่วงนี้มีหลายปัญหาที่ทับซ้อนการทำงานนี่คือประเด็นปัญหาที่ต้องแก้กันต่อไปด้วยกฎหมายและกระบวนการต่างๆ สิ่งที่ตนได้ให้ทำความเข้าใจวันนี้คือ

 

 

เรากำลังขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และตามแผนการปฏิรูป แก้ปัญหาความยากจน  ตนได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการนโยบายขับเคลื่อนการใช้งบประมาณของทุกกระทรวง ทบวง กรม ให้สอดรับกับความต้องการของประเทศจะเชื่อมโยงการปรองดองสมานฉันท์ร่วมกับมาตรการแก้ไขความยากจน  เพิ่มประสิทธิภาพประเทศ จะมีคณะทำงานระดับรัฐบาลลงสู่ระดับจังหวัด ตำบล  อำเภอ รวม 7,800 กว่าชุด ลงไปเดินข้างล่างทั้งหมดเพื่อสอบถามความต้องการ
สนับสนุนหาแนวทางที่ประชาชนมีความต้องการอันแตกต่างเป็นการใช้หลักการคล้ายกับที่ประเทศจีนทำมา 5 ปีที่แล้วเป็นสูตรที่ตรงกัน