ทรัมป์ โวในรัฐสภา”ขอให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกัน”

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.gninternews.com

ทรัมป์ โวในรัฐสภา”ขอให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกัน”

ดูการเมือสหรัฐฯยุคโดนัล ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี มันดูวุ่นวายมาตลอด                                                                                       วุ่นหนักมากถึงขนาดรัฐบาลกลางต้องปิดการทำงานไปถึงสามวัน ด้วยเรื่องการขัดแย้งระหว่างการที่ นายโดนัล ทรัมป์ ต้องการสร้างรั้วเหล็กขนาดมหึมาตามชายแดน สหรัฐฯและเม็กซิโก ยาวกว่า ๒ พันไมล์ แลกกับการที่ นายทรัมป์ จะยอมให้ เด็กที่มากับพ่อ-แม่ โรบินฮูด ในโครงการ DACA ได้รับสิทธิได้รับใบเขียวแต่พรรคฝ่ายค้าน ดีโมแครต ไม่ยอม

ทรัมป์ โวในรัฐสภา”ขอให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกัน”

 

เรื่องมันยังตกลงกันไม่ได้ แต่ก็ประเทศมันต้องเดินหน้าต่อไปทุกๆวัน  ทั้งสองพรรคเลยถอยคนละก้าว บอกว่าเอาไว้คุยกันอีกที่จนกว่าจะถึงวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ปีนี้แล้วค่อยมาคุยตกลงกันใหม่ว่าจะเอาอย่างไร

เมื่อวานนี้ ( ๓๐ มกราคม ๒๐๑๘) เป็นวันที่ นายโดนัล ทรัมป์ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในรัฐสภาในวาระทำงานมาครบ ๑ ปี มีสาระและใจความที่เกี่ยวข้องกับ เศรษกิจ -กลุ่มผู้ก่อการร้าย-ขบวนการ ยุติธรรม-คนต่างด้าว และ พลังงาน

นายทรัมป์ กล่าวถึง การปฎิรูปภาษี ว่าเป้นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของรัฐบาลในยุค ทรัมป์ แต่ไม่แน่ชัดว่าการปฎิรูปภาษี ที่เขาใช้คำว่า   ” TAX REFORM” นั้นจะสำเร็จหรือไม่นั้นจะวัดกันด้วยอะไร

เท่าทีเห็นคือ คนชั้นกลางต้องรับภาระแบกภาษีมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ภาษีโรงเรือน (Property Tax) ที่เดิมนั้น รัฐบาลกลางยินยอมให้ หักภาษีส่วนตัวได้เท่าจำนวนที่ต้องจ่ายไปแต่กฏหมายใหม่ที่นายทรัมป์ ออกมานั้น ประชาชนที่เสียภาษีโรงเรือนจะหักภาษีโรงเรือนได้ไม่เกิน ๑ หมื่นเหรียญ เริ่มตั้งแต่ปีนี้ (๒๐๑๘)

ทรัมป์ โวในรัฐสภา”ขอให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกัน”

 

คุณทรัมป์ พูมใจมากที่สต๊อกพุ่งสูงขึ้นอย่างน่ากลัว แต่คนที่จะเล่นหุ้นคือคนที่มีสตางค์เหลือใช้ เท่ากับว่าคนรวยแล้วจะรวยมากขึ้น ส่วนคนมีรายได้น้อยจะตกที่นั่งลำบาก เพราะนายทรัมป์พยายามที่จะตัดประกันสุขภาพและความช่วยเหลือต่างๆจากรัฐบาลกลาง โดยเฉพาะรัฐที่ไม่เชียร์นายทรัมป์ เช่น นิวยอร์ค และ แคลิฟอร์เนีย ส่วน บริษัทใหญ่ๆจะได้ผลประโยชน์อย่างเต็มๆ

นายทรัมป์ บอกว่าต้องการลดภาษีให้ประโยชน์กับนายจ้าง(คือบริษัทใหญ่ๆ)เพื่อจะได้เอาเงินที่ได้รับจากการลดหย่อนภาษีไปลงทุนเพิ่มงาน

ต้องยอมรับว่าตั้งแต่นายทรัมป์ เข้ามาบริหารงานทำให้มีงานเพิ่มมากขึ้นในตลาดแรงงานถึง ๒.๔ ล้านตำแหน่ง และมีคนดำ ตกงานน้อยที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาแต่หากเปรียบเทียบคนว่างงานระหว่างคนดำและคนขาวแล้ว คนดำยังตกงานมากกว่าคนขาว ๓.๗ เปอร์เซ็นต์  นายทรัมป์ โม้ต่อว่า เขาทำให้โรงงานผลิตรถยนต์ในอเมริกาเติบโตขึ้นมากแต่ความจริงแล้วโรงงานผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯเริ่มกลับเข็มแข็งขึ้นในปลายยุคของรัฐบาลโอบาม่า

นายทรัมป์ กล่าวถึงกลุ่มผู้ก่อการร้ายสากล ไอซิส ว่าเขาสามารถที่จะล้อมกรอบไม่ให้กลุ่มนี้เติบโตขึ้น เห็นได้จากการที่กลุ่มไอซิสสูญเสียดินแคนต่างๆในประเทศซีเรียและอิรัคที่เดิมเคยยึดครองไว้ก่อนหน้าที่นายทรัมป์จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี

นับว่าเป็นความจริงในระดับหนึ่งแต่ กลุ่มพันธมิตรที่ร่วมต่อสู้กับกลุ่ม ไอซิส ไม่สามารถจะประกาศได้ว่า

เราได้ชัยชนะแล้ว”

 

 

 

เรียบเรียงโดย อรรคเดช ศรีพิพัฒน์ สยามมีเดีย-ทีนิวส์