ใช้ของๆข่อย ให้รักษาศีลห้า บ่ด่าแม่เค้า แมลงวันบ่ได้กินเลือด "หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล"อมตะเถระ๕แผ่นดิน รวมหลากหลายประสบการณ์อย่างสุดอัศจรรย์.

รวมประสบการณ์จากลูกศิษย์

หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน ศรีสะเกษ

หลวงปู่เคยบอกกับผมเมื่อปี ๔๐ ว่า " ไผใช้ของของข่อย ให้รักษาศีลห้า บ่ด่าแม่เค้า แมลงวันบ่ได้กินเลือด " ท่านยังบอกอีกว่าพระและเครื่องรางของท่านไม่ต้องถืออะไรมาก ไม่มีข้อห้ามข้อจำกัดการใช้ท่านขอไว้หมดแล้วจะลอดราวผ้า ใต้ถุนบ้าน สะพานหัวเดียวหรือลอดผ้าถุงเข้าห้องน้ำห้องส้วมไม่ต้องถอด " ของท่านขลังไม่มีเสื่อม แต่อย่าด่าแม่เค้า.....ให้ทำดีมีศีล....ขออะไรได้หมด...อยากได้อะไรให้นึกเอา...." ลองตีความเอานะครับว่าหลวงปู่ท่านสอนอะไร

Cr. พรหมประสิทธิ์

วัตถุมงคล กับการอธิษฐานจิตตั้งธาตุ

มีคุณพี่ท่านนึงครับที่ผมเคยได้คุยกันบ้าง คุณพี่ท่านนี้เป็นนักปฏิบัติธรรม จัดได้ว่าเก่งมากท่านนึงเลย พี่คนนี้เล่าให้ผมฟังว่า..วัตถุมงคลของครูบาอาจารย์ที่เป็นระดับพระอริยะขั้นสูงสามารถเอาไปอธิษฐานจิตตั้งธาตุ กับตัวเราเองได้ ทำไมถึงต้องตั้งธาตุ เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบอย่างยิ่ง....

วัตถุมงคลที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่างๆที่ท่านอธิษฐานให้เรานั้น โดยเฉพาะกับครูบาอาจารย์ที่เป็นระดับพระอริยเจ้าขั้นสูงจริงๆจะมีพลังงานที่ประจุเอาไว้ อย่างมหาศาล แต่บางที่คนธรรมดาๆไม่สามารถที่จะดึงเอาพลังงานที่ซ่อนเอาไว้มาใช้ได้อย่างที่ต้องการ เพราะของนั้นเป็นของดี ดีเกินกว่าที่คนธรรมดาจะใช้ เคยสังเกตไหม ว่าวัตถุมงคลรุ่นเดียวกัน (อาจจะชิ้นเดียวกันด้วย)ทำไม แต่ละคนที่ใช้ถึงได้รับผลที่ต่างกัน บางคนใช้แล้วรู้สึกดีมาก(ใช้ขึ้น) แต่บางคนที่ใช้แล้วรู้สึกว่าร้อนก็มี ทั้งๆที่พระที่ทำเป็นพระสุปฏิปันโน ไม่ใช่พระหรืออาจารย์สายมนต์ดำ  อาจมีหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหลักเชื่อว่า บุคคลที่ใช้ขาดศีลธรรม หรือเอาไปใช้ในทางมิชอบ เช่น เป็นบุคลที่ประกอบอาชีพที่ไม่สุจริต สร้างความเดือดร้อน เสื่อมเสียให้กับสังคม ผิดลูกเมียชาวบ้านฯลฯ วัตถุมงคลที่ใช้นอกจากใช้ไม่ได้ผลแล้ว กลับยังความเดือดร้อนมาสู่ตัวผู้นั้นอีก เพราะพลังงานที่สถิตอยู่นั้น เปรียบเหมือนตัวแทนความดีงามเป็นของดีที่เกิดจากบารมีของผู้บำเพ็ญเพียรภาวนามานับชาติไม่ถ้วน จึงควรใช้ปัญญาพิจารณาดูจิตของตัวเราเองเสมอๆครับ

แต่ถึงกระนั้นคนธรรมดา แม้ไม่ได้สร้างความประพฤติมิชอบก็ยังไม่สามารถดึงเอาพลังงานของวัตถุมงคลมาใช้ได้อย่างเต็มที่ เพราะพลังที่มีอยู่ถึงจะมากแต่ไหนก็เอาออกมาใช้ได้ก็เพียงไม่ถึงครึ่งนึง ของพลังที่มีอยู่เท่านั้น เคยได้ยินบ้างไหมว่า คนที่แขวนสมเด็จ หรืออาจจะเป็น เบญจภาคียังโดนของเข้าได้(แต่อาจจะไม่ถึงกับหนัก) โดยเฉพาะกับนักไสยศาสตร์ที่ได้ฌานสูงๆ หรือพวกที่เป็นมนต์ดำบางประเภท (ใช่..บางท่านอาจว่า มันเป็นเรื่องของกรรมเก่า อันนั้นมันก็ไม่ผิดแน่นอน แต่วัตถุมงคลบางอย่าง หรือของพระอริยเจ้าระดับสูงๆนั้นก็สามารถลดแรงกรรม หรืออาจพลิกกรรมบางอย่างได้นะครับอย่าลืม) จึงจำเป็นต้องอาศรัยการอธิษฐานตั้งธาตุจากวัตถุมงคลนั้นๆครับ เพราะประโยชน์ของการตั้งธาตุมีด้วยกันหลายประการเช่น...

๑.เราสามารถดึงเอาพลังที่มีในวัตถุมงคลมาใช้ได้มากขึ้น

๒.สามารถปรับธาตุขันธ์ในกายเราให้มีความสมดุลในเรื่องของธาตุ

๓.สามารถยก ระดับจิตของเราให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เช่นจากเป็นคนใจร้อนก็จะใจเย็นลง

๔.สามารถเข้าถึงธรรมหรืออาจเข้าถึงฌาน และญาณได้เพราะเป็นการกำหนดกรรมฐาน ไปในตัว

๕.เป็นการสื่อถึงครูบาอาจารย์องค์นั้นๆ โดยใช้วัตถุมงคลเป็นสื่อ ให้ได้รับเอากระแสบารมีจากท่านได้โดยตรง (ไม่ว่าท่านจะยังดำรงขันธ์อยู่หรือไม่ก็ตาม)

๖.วัตถุมงคลที่เราอธิษฐานนั้น ไม่ได้ลดพลังลงเลย แต่กลับเพิ่มขึ้นด้วย เพราะคุณพระ และครูบาอาจารย์ท่านส่งพลังบารมีมาให้เรา

๗.ฯลฯ

ขั้นตอนการตั้งธาตุ

การตั้งธาตุทำได้โดย นำวัตถุมงคล กำเอาไว้ในมือแล้วระลึกถึงพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ อธิษฐานขอตั้งธาตุ จากนั้นแผ่เมตตาไปที่วัตถุมงคล เพื่อปรับกระแสให้เป็นไปในทางเย็น โดยใช้บทแผ่เมตตา จากนั้นเราอาจจะภาวนาหัวใจแม่ธาตุ นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ ก็ได้ หรือภาวนาบทมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ก็ได้หรือบทภาวนาอะไรก็ได้ตามความถนัดพอ ภาวนาจนกระทั่งจิตเริ่มเป็นสมาธิ ให้น้อมระลึกว่าเราขอดึงพลังจากวัตถุมงคลนี้ให้ช่วยปรับธาตุในกายเราฯลฯ ถ้าหากท่านใดพอจะมีสมาธิจิตดีสามารถรับสัมผัสพลังงานจากวัตถุมงคลได้ก็จะมีความรู้สึกเหมือนมีพลังงานเข้าคลุมตัวของเราหรืออาจมีพลังงานเข้าแทรกตามร่างกายฯลฯ แต่หากบางท่านที่ยังไม่มีสมาธิที่ดี หรือยังสัมผัสพลังงานของวัตถุมงคลไม่ได้ ก็ให้ภาวนาไปเรื่อยๆ และนึก มโนภาพ ว่ามีแสงพุ่งขึ้นมาจากพระเข้ามาหาเรามาก็ได้ พอทำไปสักระยะนึง พอเริ่มคล่องตัว เดี๋ยวก็จะสามารถสัมผัสได้เอง....

ส่วนวัตถุมงคลของท่านพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่ใช้ในการตั้งธาตุที่ดีนั้นก็มีอยู่ด้วยกันหลายท่านด้วยกัน แต่ที่เป็นที่นิยมเอาไปตั้งธาตุนั้นก็แน่นอนครับ หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน, หลวงปู่ละมัย เพชรบูรณ์, หลวงปู่ญาท่านสวน, หลวงปู่ดู่ วัดสะแก, หลวงปู่ชื้น วัดญานเสน, ฯลฯ...., เป็นต้น

Cr. ทุเรียนทอด

ประสบการณ์ตั้งแต่ยังไม่ได้พระเลย

เรื่องมีอยู่ว่าพระองค์นี้คุณโซ้ยกู๋ ได้ตั้งขายอยู่ในกระทู้ บังเอิญผมเข้าไปดูถูกเวลาพอดี(เพิ่งอัพเข้ามาตั้งขาย) แต่เนื่องด้วยจริงๆแล้วผมมีปัจจัยค่อนข้างจำกัด เลยลังเลอยู่ว่าจะเช่าพระองค์นี้ดีไหม ซึ่งใช้เวลาตัดสินในอยู่พักนึงก็ยังตัดสินใจไม่ได้ ระหว่างที่คิดไม่ออกเดินไป เดินมาไปหยิบเหรียญ ๒ บาทมาได้ก็เลย ขอหลวงปู่เสี่ยงทายหน่อยว่าควรจะเช่าพระองค์นี้ดีหรือไม่ ถ้าควรขอให้โยนแล้วออกหัว ๓ ครั้งติด แต่ถ้าไม่ควรขอให้ออกก้อย ๓ ครั้งติด ปรากฏว่าออกหัว ๓ครั้งติดครับ ไอ้เรามันคนสมัยใหม่ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่ และยังไม่เคยเจอประสบการณ์แบบจังจังเลยซักที เลยขอเสี่ยงอีก ๒ ครั้ง ออกหัวอีกทั้ง ๒ครั้ง ยังไม่มั่นใจ เลยขอหัวอีก ๓ ครั้ง เสี่ยงได้หัวอีก ๓ ครั้ง ในใจคิดเหรียญมีปัญหาป่าวเนี่ย เลยขอท่านเสี่ยงครั้งสุดท้ายให้ได้ก้อย เท่านั้นแหละ ออกก้อยเลย (คิดดูครับความน่าจะเป็นของการออกตรงทั้ง ๙ ครั้งติดเท่ากับ๒คูณกัน๙ครั้ง=๑ใน๕๑๒ ถ้ามันจะฟลุคผมก็ยอมแล้วหละครับ) หลังจากนั้นไม่คิดแล้วครับ โทรขอเช่าทันที หุหุ

พระผิวพรายเงินทั้งองค์ครับ วิจารณ์ได้ รับฟังทุกความคิดเห็นครับ

Cr. seng-ping

อยากเล่าประสบการณ์สักเล็กๆน้อยๆครับ ก่อนหน้าที่จะบูชาพระหลวงปู่หมุนท่าน ผมเป็นโรคภูมิแพ้ รักษาด้วยทางแพทย์ไม่หาย ต้องไอจาม เมื่ออากาศเย็น หรือมีฝุ่นละออง นะครับ พออากาศเปลี่ยน ก็เป็นบ่อยๆจนรู้สึกรำคาญตัวเองมาก แต่หลังจากที่ผมแขวนพระกริ่งอุดปรอดหลวงปู่หมุน ที่ได้บูชาจากในเว็บพลังจิตนี้แหละครับ ไม่นานอาการต่างๆ ได้ค่อยๆหายไป และดีขึ้นครับ ก็เป็นเรื่องที่แปลกครับ จนทำให้รู้สึกศรัทธาในหลวงปู่มาก

Cr. BlueBlur

กระผมศรัทธาหลวงปู่หมุนเช่นกันครับ เรื่องมีอยู่ว่าได้ไปเช่าเหรียญด้านหลังเป็นหนุมานวัดบ้านจาน ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่เต็มองค์ จากวัดหัวลำโพง พอกลับมาหาดใหญ่ให้เพื่อนไปหนึ่งเหรียญ เพื่อนบอกว่า ถ้าแน่จริงเลขบนเหรียญให้ถูกเบอร์(ถูกล็อตเตอร์รี่) ปรากฏว่า เหรียญของเพื่อนออกตรงเผง ผมรีบกลับไปหาเพื่อนเขาหัวเราะบอกว่ามันฟลุ๊ค ถ้าแน่ของนายงวดหน้าให้ออกอีกที ปรากฏว่าตรงเผง ผมยังนึกขำเหมือนกันฟลุ๊ค ๒ที

Cr. เมฆจิต

ประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงปู่หมุน ล่าสุดเกิดขึ้นสดๆร้อนๆครับ

เกิดขึ้นกับพี่ชายผมเอง สองวันก่อนพี่ชายผมมาธุระในกรุงเทพกับเพื่อน มากัน๒คน มาดูพระแถวสนามพระบางกะปิครับ เสร็จธุระก็กลับ ขับรถกลับบ้านที่ชลบุรี เพื่อนพี่ชายผมขับ ส่วนพี่ชายผมนั่งกับคนขับด้านหน้าครับ พี่ชายผมเล่าให้ฟังว่า ขับรถมาเรื่อยๆใกล้ถึงชานเมือง โดนตำรวจจราจรเรียกครับ เพราะว่า เพื่อนพี่ชายดันขับปาดแซงรถอีกคัน พอดีตำรวจเห็น เลยเรียกให้จอด ตำรวจเรียกให้จอดรถ แล้วเรียกพี่ชายผมเข้าไปคุยในป้อมตำรวจ ขณะที่พี่ชายผมกำลังเดินไปที่ป้อมตำรวจ ได้ขอหลวงปู่ ซึ่งในคอห้อยหลวงปู่หมุนเพียงองค์เดียว ว่าขอให้หลวงปู่ดลใจ อย่าโดนจับหรือโดนปรับเลย เพราะเงินมีน้อย ต้องไว้ใช้ตอนปีใหม่ พอไปถึงในป้อมยาม ตำรวจถามว่า รีบร้อนจะไปไหน พี่ชายผมบอกว่า ไปทำธุระมาครับ จะกลับบ้านที่ชลบุรี (พร้อมกับบอกตำรวจว่าช่วยหน่อยนะครับ พร้อมยื่นแบงก์๑๐๐ให้ ) ตำรวจก็เก็บเงินใส่กระเป๋าครับ เรียบร้อย โดนไป๑๐๐นึง ตำรวจเลยถามว่า ไปไหนมากันล่ะ พี่ชายผมบอกไปดูพระ ไปหาเช่าพระมาครับ

ตำรวจมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ถามว่า อ้าวน้องเป็นเซียนพระหรอ ดูพระเป็นมั้ย ดูพระให้พี่หน่อยสิ ตำรวจเลยหยิบพระให้พี่ชายผมดู พี่ชายผมก็ดูให้ พร้อมทั้งบอกว่าแท้ เก๊ดูแบบไหน

ตำรวจชอบใจใหญ่เลยครับ ดูพระ คุยเรื่องพระ อีกพักใหญ่ๆเลย ตำรวจบอกว่าอยากได้พระองค์นึง หายาก หาให้ได้มั้ย พี่ชายผมเลยโทรหาเพื่อนอีกคน ที่ไม่ได้มาด้วย บอกว่าให้หาให้องค์นึง แล้วถ้าผ่านทางนี้ จะเอามาฝาก ไม่คิดตังค์ครับ

รู้มั้ยครับ เกิดอะไรขึ้น เงิน๑๐๐ที่ตำรวจได้ไป พี่ชายผมให้ไปครั้งแรก ตำรวจควักจากกระเป๋ากางเกง ส่งคืนให้พี่ชายผม บอกว่า เอาคืนไป อั๊วไม่เอา ทีหลังขับรถดีๆล่ะ

พี่ชายผมอึ้งเลยครับ เดินกลับมาที่รถ เพื่อนพี่ชายผม ถามว่า โดนเยอะมั้ย เคลียร์อะไร นานจังวะ พี่ชายผมเลยเล่าให้ฟังครับ เพื่อนพี่ชายผมอึ้งด้วยสิทีนี้ บอกพี่ชายผมว่า สงสัยต้องหาขึ้นคอบ้างซะแล้ว พี่ชายผมบอกว่า อธิษฐานขอหลวงปู่ ไม่นึกว่าจะได้ผลดี อย่างนี้ อธิฐานขอ อย่าให้เสียเงิน กับตำรวจ ทั้งที่เราโดนเรียกเข้าป้อมตำรวจ ยังไง ร้อยทั้งร้อย ก็ต้องเสียค่าปรับแน่ๆครับ แต่นี่ตำรวจควักคืน โห เล่าให้ผมฟัง ผมยังงง นี่ถ้าไม่ใช่พี่ชายผมเล่า ผมยังคงเชื่อยากครับ แต่เป็นเพราะพี่ชายผม ห้อยวัตถุมงคลหลวงปู่หมุนอยู่ที่คอนี่เอง ทำให้ผมเชื่อได้สนิทใจครับ

แล้วที่พี่ชายผมห้อยคออยู่ ไม่ได้เป็นวัตถุมงคลหลักๆของหลวงปู่เลยครับ เป็นรุ่นที่พวกศิษย์พี่ ศิษย์น้องทั้งหลาย อาจจะมองข้ามไปเลยด้วยซ้ำไป

รุ่นนั้นคือ พระผงรูปไข่ รุ่นดวงเศรษฐี ครับ ประสบการณ์พี่ชายผม มีเท่านี้ แต่ก่อนหน้านี้ มีอีกหลายอย่างครับ ไว้หลังปีใหม่ จะมาเล่าให้ฟังใหม่ครับ

ปีใหม่ ขอให้ศิษย์พี่ ศิษย์น้องทั้งหลาย มีความสุข สมหวังทุกๆท่านนะครับ หวังอะไร ขอพรหลวงปู่ ขอให้สมหวังทุกอย่างนะครับ

จากศิษย์หางแถวครับ

Cr. จ่าแจ้

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

พรหมประสิทธิ์ , ทุเรียนทอด , seng-ping , BlueBlur , เมฆจิต , จ่าแจ้

ศิษย์มีครู

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา