อัยการตีกลับสำนวนสอบสวน 9 ข้อหา เปรมชัย และ พวก เหตุพบข้อสงสัยประเด็นสำคัญ ไหน ผบ.ตร. บอกว่า พล.ต.อ. ศรีวราห์ เก่งงานสอบสวน ทำไมผลถึงเป็นแบบนี้?

จากรณีที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาของสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ให้กับสำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ โดย นางสมศรี อธิบดีอัยการภาค 7 และนายทะนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นผู้รับสำนวน


สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหารวม 4 คน คือนายเปรมชัย กรรณสูตร ผู้ต้องหาที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 โดยมีข้อกล่าวหารวม 9 ข้อ ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.34/2561 ในความผิดดังนี้
 

1. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่  2. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3. ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 5. ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่า อันได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย 6. ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 7. ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 8. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 9. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุอันสมควร

สำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า ชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาที่ 1 ถึง 9 แก่ผู้ต้องหาทั้ง 4 แล้ว ผู้ต้องหาทุกคนให้การปฏิเสธ ส่วนประเด็นเรื่องร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 4

โดยพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนเสนอพนักงานอัยการ ดังนี้

1. เสนอเห็นควรสั่งฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหาที่ 1 ถึง 8 และเห็นควรสั่งฟ้องในข้อหาที่ 9 เฉพาะข้อหา พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควรส่วนข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากอาวุธปืนของกลาง เป็นของนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 ที่ได้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย และเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง นายเปรมชัยฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหา ร่วมกันกระทำการอันเป็นทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพราะเห็นว่า การกระทำไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย

2. เห็นควรสั่งฟ้อง นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 ตามข้อกล่าวหาที่ 1 ถึง 9 ทุกข้อกล่าวหา และเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 2 ถึง 4 ในข้อหาร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพราะเห็นว่า การกระทำไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังระบุรายละเอียดว่า จากความสนใจของสาธารณชนและหน่วยงานต่างๆ นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณาดำเนินคดีนี้ ประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน นายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงาน, พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัย รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี คณะทำงาน และนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงานและเลขานุการ

เมื่อคณะทำงานพิจารณาและมีความเห็น เสนออธิบดีอัยการภาค 7 มีคำสั่งทางคดีเรียบร้อยแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดจะได้แถลงให้ทราบในโอกาสต่อไป

ล่าสุดวันนี้ 20 มี.ค.  นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 พร้อมคณะ แถลงความคืบหน้า ดังนี้ ได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมในบางประเด็นที่ยังไม่สิ้นกระแสความแต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และให้พนักงานสอบสวนรายงานผลการสอบสวนเพิ่มเติมดังกล่าวแก่พนักงานสอบสวน ภายในวันที่ 26 มีนาคมนี้
 

อย่างไรก็ตามจึงเกิดข้อสงสัยตามมาว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ. ศรีวราห์ มีความมั่นใจในสำนวนคดีมาตลอดว่าสามารถเอาผิดนายเปรมชัยและพวกได้ และยังได้รับความไว้วางใจจากพล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่เชื่อมั่นในตัวรองผบ.ตร. ว่ามีความเชี่ยวชาญในงานสอบสวน