แถลงใหย่ สตม.แถลงจับกุมคดีสำคัญ ชาวปากีสถานลักลอบผลิตและขายยาเคตามีน,

ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่เข้ามาก่ออาชญากรรมในประเทศไทย ตลอดจนบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีการกระทำความผิดมาพำนักอยู่ในประเทศไทย เป็นภัยต่อความมั่นคงและชื่อเสียงของประเทศชาติ โดยสั่งการให้ดำเนินคดีถึงที่สุด หรือดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร หากพบว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ โดยให้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อเป็นการสร้างพื้นฐานความร่วมมือต่างตอบแทนระหว่างกัน ในการติดตามจับกุมคนร้ายหนีคดีระหว่างประเทศ

ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.(มค), พลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พลตำรวจตรี อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ปป) และ พลตำรวจตรี ชูฉัตร ธารีฉัตร ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วย พลตำรวจตรี กิตติกร บุญสม ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง ๔ และ พันตำรวจเอก พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง ๔ เร่งรัดการดำเนินการจนเป็นผลสัมฤทธิ์ และนำผลการปฏิบัติมาแถลงผลในวันนี้  ๒๓ มี.ค.๖๑

กรณีที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๒ มี.ค.๖๑ บก.สส.สตม.ร่วมกับ ศรภ., ปปส.และ สุนัขตำรวจ ทำการขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญา เข้าตรวจค้นเป้าหมายขบวนการค้ายาเสพติดชาวปากีสถาน จำนวน ๒ จุด ได้แก่ ๑) บ้านเลขที่ ๙ หมู่บ้านเสรี ๒ ซอย ๘ (ซอยรามคำแหง ๒๔ แยก ๒๘) และ ๒) ร้านอาหาร กุลโมลาส ค็อฟฟี่ แอนด์ ฟู๊ด ซอยรามคำแหง ๒๔ แยก ๒๐ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โดยจากการสืบสวนทราบว่า นายไรส์ อาหมัด บัคช์ หรือ จิมมี่ ราอิส อายุ ๔๙ ปี สัญชาติปากีสถาน เป็นหัวหน้าขบวนการผลิตและลักลอบขายยาเสพติดประเภทเคตามีนให้ลูกค้าทั่วไป ผลการตรวจค้นสามารถจับกุมนายจิมมี่ฯ ได้พร้อมกับภรรยา และลูกชาย สัญชาติไทย อีกทั้งยังสามารถตรวจยึดยาเคตามีน ลักษณะเป็นเกร็ดสีขาว น้ำหนักประมาณ ๖๒๘ กรัม(มูลค่าประมาณ ๑.๓ ล้านบาท), แก้วบิ๊กเกอร์สำหรับแปลงยาเคตามีนให้เป็นเกร็ด, เตาไฟฟ้า จำนวน ๓ อัน, ถาดพลาสติกที่มีคราบยาเคตามีนติดอยู่, ซองพลาสติกและแผ่นรองที่มีเศษยาเคตามีน, ไดร์เป่าผม, เครื่องชั่งน้ำหนัก และอื่นๆ พร้อมทั้งได้ยึดทรัพย์สิน เงิดสด ๑๐๐,๐๐๐ บาท, กำไลทอง จำนวน ๔ วง, ต่างหูทอง จำนวน ๑ คู่, บัตร ATM จำนวน ๙ ใบ, รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีดำ ทะเบียน กต ๗๘๔๙ เชียงราย, รถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นเคบติว่า สีเงิน ทะเบียน ฎอ ๘๕๖๖ กรุงเทพ และ บ้านเลขที่ ๙ หมู่บ้านเสรี ๒ ซอย ๘ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังตรวจพบ อุปกรณ์เกี่ยวกับปลอมแปลงบัตรเครดิตและทราเวลเช็คคือ เครื่องพิมพ์สัญลักษณ์ของบัตรเครดิตอเมริกันเอ็กเพลส (ลัษณะฮอโรแกรม), เครื่องอ่านและบันทึกข้อมูลบัตรเครดิต, เครื่องคอมพิวเตอร์ และเอกสารอื่นๆ  ทั้งนี้ยังพบอีกว่า มีรถยนต์อยู่ในความครอบครองอีกจำนวน ๔ คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน ๑ คัน ซึ่งจะได้ทำการตรวจยึดตามมาตรการป้องกันปราบปรามยาเสพติดต่อไป โดยกล่าวหาทั้ง ๓ คน ว่า ร่วมกันผลิตวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท ๒ (เคตามีน) และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท ๒ (เคตามีน) ไว้ในครอบครอง เพื่อขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่ง พงส.บช.ปส และจำทำการสืบสวนขยายผลต่อไป