- 16 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
หลัง "นายเอกภพ เหลือรา" หรือ "ตั้ง อาชีวะ" แดงหมิ่นสายช่างกลฯ ผู้ระเห็จหนีคดี ม.112 ไปอยู่ต่างแดงซึ่งก็คือนิวซีแลนด์ ออกมาโอดโอยกรณีที่บ้านของเขาถูกโจรงัดถึง 10 ครั้งในระยะเวลาแค่ปีเดียว จนเจ้าตัวถึงกับต้องลงทุนติดกล้องวงจรปิด 4 ตัวไว้ที่บ้าน แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้...กระทั่งเมียสาวของเขาถึงกับผวาในครั้งดังกล่าว
เรื่องนี้หากมองเป็นเรื่อง "มิจฉาชีพต่างแดนปกติธรรมดาๆ" ก็ย่อมได้...หรือใครจะมองว่า...เป็นเพราะกรรมชั่วในอดีตตามไล่ล่า "ตั้ง อาชีวะ" นั่นก็แล้วแต่มุมมอง...ทว่า สิ่งที่น่าสนใจที่ซ่อนอยู่อีกชั้น...กลับเป็นพฤติการณ์ในอดีตที่ทำให้เขา...กลายเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กระทั่งเกิดเหตุการณ์ "สวรรค์ล่มที่นิวซีแลนด์" จากเหตุที่บ้านของเขาถูกงัดถึง 10 ครั้งในปีเดียว ตามที่สื่อท้องถิ่นแดนกีวี่ได้นำเสนอ
ใครจะเชื่อว่า "ตั้ง อาชีวะ" เด็กหนุ่มชาวหนองจอก กรุงเทพฯ ที่ขณะนั้นมีอายุแค่ 22 ปี จะเหิมเกริมถึงขั้นกล้าก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูงที่คนไทยเคารพด้วยคำพูดที่รุนแรง...ในวันที่ เขาโดดขึ้นเวที "ม็อบเสื้อแดงที่นัดชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมก กรุงเทพฯ" เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2556 เช่นนั้น กระทั่งศาลอาญาอนุมัติหมายจับตัวเขา ตามคำร้องของ "พ.ต.ท.โกเมน สุภาพ" พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือ แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และเป็นเหตุให้เจ้าตัวต้องหลบหนี...ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้สร้างความคลางแคลงใจให้กับผู้ที่สนใจการบ้านการเมืองอยู่ไม่น้อยว่า...เหตุใดเด็กหนุ่มที่เพิ่งโต และฐานะทางบ้านไม่ได้ดีเด่อะไร...จะหลบหนีเงื้อมมือตำรวจไทยไปได้ง่ายดายเช่นนั้น
เรื่องนี้หากปะติดปะต่อภาพการเคลื่อนไหวของเขาจะพบคำตอบได้ไม่ยาก เพราะ "ตั้ง อาชีวะ" นั้นแท้แล้วไม่ใช่ใครที่ไหน เขาเป็นเด็กปั้นที่พรรคนายใหญ่ชุบเลี้ยงมากับมือ (โปรดดูภาพที่เคยเผยแพร่ในโซเชี่ยลประกอบ) เหตุเพราะเห็นว่ายังอยู่ในวัยชักจูงได้ง่าย และผลักดันหลังให้เขาช่วยหาเสียงการเมืองท้องถิ่นของพรรคให้ด้วยซ้ำ...นั่นเองจึงเป็นเหตุให้เขา...เชื่อมต่อกับ "แกนนำเสื้อแดง" ซึ่งส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่อยู่ในพรรคเพื่อไทย...และเป็นองคาพยพหนึ่งของ "ระบอบทักษิณ" ได้ไม่ยากนัก
กระทั่งนำไปสู่การขึ้นปราศรัยบนเวทีเล็กของคนเสื้อแดง ที่จัดขึ้นที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2556 เพื่อเรียกน้ำย่อยระหว่างที่รอจะมีการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 30 พ.ย. หรืออีก 2 - 3 วันข้างหน้า ณ ที่เดียวกันนั้น
การปราศัยของ "ตั้ง อาชีวะ" ในค่ำคืนวันที่ 27 พ.ย. 2556 นั้นหยาบคายและไร้ข้อเท็จจริงจนไม่อาจรับฟังได้ กระทั่ง "พ.ต.ท.โกเมน สุภาพ" พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ยังทนไม่ไหวต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเขาจากกรณีนี้...ซึ่งค่ำคืนนั้นหลังฉากคำปราศัยของ "ตั้ง อาชีวะ" ล้วนเบียดแน่นไปด้วย "แกนนำเสื้อแดง" และสมาชิกพรรคเพื่อไทยให้พรึ่บเต็มเวทีไปหมด ก่อนการเรียกน้ำย่อยของม็อบจะดำเนินต่อไปจนถึงวันชุึมนุมใหญ่ใน 30 พ.ย. ซึ่งค่ำคืนนั้นเอง...ที่ม็อบเสื้อแดงบางส่วน...แตกฮืออกมาปิดล้อม และยกพวกเข้าทำร้าย และระดมยิงใส่กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงอย่างบ้าคลั่ง...ราวบ้านเมืองไม่มีขื่อแป โดยเฉพาะถนนบริเวณหลังรามคำแหงนั้น...กลุ่มคนเสื้อแดงล้วนแต่อาวุธครบมือ และระดมยิงเพื่อเปิดทางจะเข้าทำร่ยนักศีกษารามคำแหงหลายต่อหลายครั้ง (เรื่องนี้เป็นความจริงเชิงประจักษ์ที่สื่อที่เป็นกลางทุกสำนักยืนยันตรงกัน)
ก่อนที่ทหารจากกรมทหารราบที่ 11จะเข้าเคลียร์พื้นที่ และช่วยนักศึกษาฯ ที่อกสั่นขวัญแขวนจากค่ำคืนอันโหดร้าย..ที่ยังตกค้างอยู่ภายในอาคารออกมาได้อย่างทุลักทุเล...ขณะที่ทางฝั่งเสื้อแดง...ที่ชุมนุมใหญ่อยู่ที่สนามราชมังคลาต่างก็เริ่มทยอยกลับภูมิลำเนา...ที่พวกเขาถูกกวาดต้อนมา เพื่อแสดงพลังปกป้อง "นายใหญ่และนายหญิงปู"
...ห้วงเวลาเดียวกันนั้นเอง...ที่ชื่อของ "ตั้ง อาชีวะ" เริ่มเงียบหายไป ก่อนจะมีข่าวอีกครั้ง...ว่าพบบุคคลชายหญิง ขณะขี่รถมอเตอร์ไซด์อยู่ในเมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา หน้าตาคล้าย "ตั้งและแฟนสาว" ก่อนที่ทางการกัมพูชา จะออกมายอมรับว่า เป็นภาพของ "ตั้ง อาชีวะและแฟนสาว" จริง และเขาได้รับความคุ้มครองจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ก่อนที่เขาจะได้พาสปอร์ตนิวซีแลนด์ และพำนักอยู่ที่นั่นตามระบบโควตาผู้ลี้ภัย UNHCR....ทั้งหลายทั้งปวงนั่น...ต่างลือกันให่แซ่ด และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า..."คนของนายใหญ่บางปีก" จัดให้...เพราะลำพังเด็กที่เพิ่งโต...และงู ๆ ปลา ๆ ภาษาอังกฤษเช่นนั้น...ไม่มีวันทำได้
