เบื้องหลังชีวิตด.ช.ถูกครูเขียนประจานทวงค่าเทอม รันทดครอบครัวแตกแยกพ่อ-แม่เลิกรา ทุกภาพโดนตราหน้ายังฝังใจ หลอนกลัวคนล้อเลียน!??

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

สืบเนื่องจากประเด็นที่โลกโซเซียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ หลังมีภาพส่งต่อกันว่าครูโรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ เอาสติกเกอร์ใส เขียนตัวอักษรตัวทวงค่าเทอมไว้ที่ตัวเด็กนักเรียน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น (อ่านข่าวก่อนหน้า : นึกถึงใจเด็กบ้างนะ!! หัวอกแม่เดือดสุด ลูกกลับจากร.ร.งอแงบอกเพื่อนไม่เล่นด้วย มองเสื้อนักเรียนรู้คำตอบ..ครูเขียนข้อความประจานทวงค่าเทอม? )

 

โดยในเวลาต่อมา ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ได้ลงนามคำสั่งวันที่ 22 มิถุนายน ย้ายครู ไปประจำที่โรงเรียนเทศบาล 4 มีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน จนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ (อ่านข่าวก่อนหน้า : อืดอาดเหลือเกิน!!ผอ.โรงเรียนเพิ่งขยับตัว..จ่อสอบวินัย"ครูใจโหด"เขียนบนเสื้อทวงหนี้ค่าเทอม ล่าสุดฉาวกว่านั้นพ่อแฉมีตบหน้าลูกร้องไห้โฮ!? )

 

เบื้องหลังชีวิตด.ช.ถูกครูเขียนประจานทวงค่าเทอม รันทดครอบครัวแตกแยกพ่อ-แม่เลิกรา ทุกภาพโดนตราหน้ายังฝังใจ หลอนกลัวคนล้อเลียน!??

 

ขณะที่ สามีของครูคนดังกล่าว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายหนึ่ง ของ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ภรรยาเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจทำงานสอนหนังสือมานานหลายสิบปี ครอบครัวตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่คิดว่าจะลุกลามบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้ภรรยาเครียดมาก 

 

เบื้องหลังชีวิตด.ช.ถูกครูเขียนประจานทวงค่าเทอม รันทดครอบครัวแตกแยกพ่อ-แม่เลิกรา ทุกภาพโดนตราหน้ายังฝังใจ หลอนกลัวคนล้อเลียน!??

 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบชีวิตครอบครัวของเด็กนักเรียนชายพบว่า ซึ่งเด็กพักอาศัยอยู่กับมารดาอายุ 30 ปี ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และน้องชายอายุ 4 ขวบ และพบว่าน้องชายคนเล็กมีการพัฒนาการช้ากว่าเด็กทั่วไป และเป็นคนไข้ประจำของโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ในการกระตุ้นพัฒนาการ แต่ห่างหายไปนานเพราะบิดาของเด็กได้แยกทางไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับมีรายได้น้อยจึงส่งเงินให้ใช้เป็นครั้งคราว

 

เบื้องหลังชีวิตด.ช.ถูกครูเขียนประจานทวงค่าเทอม รันทดครอบครัวแตกแยกพ่อ-แม่เลิกรา ทุกภาพโดนตราหน้ายังฝังใจ หลอนกลัวคนล้อเลียน!??

 

ภายหลังจากการตรวจสอบพบเด็กมีผลกระทบด้านจิตใจจากการเกิดกระแสข่าว โดยพบว่าเด็กไม่อยากเจอคนทั่วไปที่ไม่คุ้นเคย หรือลักษณะมีอาการตื่นตระหนกคนแปลกหน้า เจ้าหน้าที่จึงเร่งหาวิธีเยียวยาให้เร็วที่สุด

 

 

 

*****ภาพเด็กเสื้อสีฟ้าข้างต้นใช้เพื่อประกอบเนื้อหาข่าวเพียงเท่านั้น ไม่ใช่เด็กที่ถูกกล่าวถึงแต่อย่างใด