รวบอดีตแฟนสาวผมแดง!!!ผบช.น.ลุยเค้นสอบ เจอกล้องวงจรปิดขณะกำลังลากกระเป๋าซุกอวัยวะศพโดนชำแหละ!??

จากกรณีเจ้าหน้าที่พบศพหญิงผมแดงอายุประมาณ 30-35ปี  ถูกฆ่าหั่นศพเป็น14  ชิ้น แต่พบในจุดเกิดเหตุ13 ชิ้นอยู่ในถุงปุ๋ยโดยส่วนศีรษะถูกแยกอยู่ในกระเป๋าเป้สีดำ ห่ออยู่ในถุงดำและผ้าสีแดงอีกชั้นแยกต่างหาก โดยศพถูกทิ้งไว้ประมาณ 3-4วัน   จนมีคนสงสัยจึงเปิดดูถึงกับผงะเรียกตำรวจมาตรวจสอบทันที ที่เกิดเหตุอยู่ในป่ารกชัฏทางเปลี่ยว ซอยสามวา แขวงบางขัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ    เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกของวันที่22มิ.ย. ท้องที่สน.มีนบุรีตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ : สุดสยองไม่ใช่แค่เหี้ยม...พบหลักฐานชิ้นสำคัญระบุเหยื่อมาจากไหน??? สาวลึกทำไม่มีแขนขวา!!! ตัดประเด็นสัตว์กินศพ(คลิป)
 

 

 

ล่าสุดที่กก.บก.น.3   ฝ่ายสืบสวนสน.มีนบุรี ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นแฟนผู้เสียชีวิตมาสอบสวน  โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวได้บริเวณถนนเลียบคลอง2 ซ.29 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.  และทางเด้าน   พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น.  และพ.ต.อ.พรเทพ สูติปัญญา ผกก.สน.มีนบุรี เดินทางร่วมสอบสวนปากคำ

 

 

 

 

 

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่าผู้เสียชีวิตเป็นอดีตพนักงานบัญชีบริษัท พริ้นท์ วิท มี จำกัด ซ.เลียบคลองสอง 29 ถ.เลียบคลองสอง แขวง บางชัน เขตคลองสามวา กทม.  ก่อนลาออกไปตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา    โดยบริษัทดังกล่าวประกอบกิจการเกี่ยวกับป้ายโฆษณา  และเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายธนกฤษ หรือวุธ ประกอบ ช่างเทคนิคตัดสติ๊กเกอร์และส่งเอกสารของร้านดังกล่าว  และเป็นอดีตแฟนหนุ่มมาสอบปากคำหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย เนื่องจากพบภาพกล้องวงจรปิดขณะกำลังลากเป้หรือกระเป๋าใบ่ใหญ่ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับถุงหรือกระเป๋าที่ใช้ซุกอวัยวะศพสาวผมแดงภายในที่พักอาศัย

 

 

 

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เรียกเพื่อนร่วมงานของทั้งคู่มาสอบปากคำ จำนวน 7 ปาก โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช. ได้เดินทางกลับโดยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใดๆ  

 

 

 

 

 

 

 

ที่พนักงานสืบสวนได้นำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น  จีที สีดำ หมายเลขทะเบียน 5กบ 3173 กรุงเทพมหานคร ของผู้ต้องสงสัยมาให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจและเก็บลายนิ้วมือแฝง  

 

 

พร้อมกับพาตัวผู้ต้องสงสัยมาตรวจหลักฐานที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง  ย่านแขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ  เพื่อนำมาประกอบผลการสืบสวนเหตุฆาตกรรมโหดที่เกิดขึ้น  

 

 

 

หลังจากล่าสุด นายธนกฤษ ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ  หลังจากเลิกรากับผู้ตาย   แล้วเกิดมีปากเสียงขณะฝ่ายหญิงกลับมาเอาของที่ห้องของนายธนกฤษ  จนเกิดบันดาลโทสะใช้ผ้าคลุมแล้วใช้ของแข็งทุบจนเสียชีวิต ก่อนชำแหละศพแยกชิ้นส่วนแล้วนำไปทิ้งที่บริเวณจุดเกิดเหตุ