สรุปข่าวเด่นรอบวัน 26 ก.ย. 2561

 

กลับมาพบกับการสรุปข่าวเด่นรอบวัน ประจำวันพุธ ที่ 26 ก.ย. 2561 กันอีกแล้ว ในวันนี้ มีหลายประเด็นที่น่าสนใจเช่นเคยซึ่งสำนักข่าวทีนิวส์ได้รวบรวมมา 5 ประเด็นหลักใหญ่ด้วยกันดังนี้

 

    
    มาเริ่มกันที่ข่าวแรก กับกรณีคลิปพยาบาลกระชากคอผู้ป่วยนอนติดเตียงจนโด่งดังไปทั่ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2561 เกี่ยวกับประเด็นนี้ ผศ.อังคณา สริยาภรณ์ เลขาธิการสภาการพยาบาล ก็ได้แถลงข่าวถึงประเด็นคลิปวิดีโอพยาบาลโรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก กระชากคนไข้สูงอายุด้วยความรุนแรง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์และมีการร้องเรียนให้ปลดพยาบาลคนดังกล่าวออกจากการทำงาน ซึ่ง ผศ.อังคณา กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติและสังคมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับว่ารู้สึกตกใจอย่างมากกับภาพที่ได้เห็นจากคลิปวิดีโอ

 

 

     โดย ผศ.อังคณา กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบถามหัวหน้าหอผู้ป่วยวิกฤติบอกว่าพยาบาลคนนี้ทำงานดีมาตลอด รวดเร็ว ไม่มีกิริยารุนแรง ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ช่วงขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่พยาบาลเห็นคนไข้ขอบเตียง เกรงว่าจะตกจึงใช้แรงกระชากเพราะปกติการขยับคนไข้ต้องใช้พยาบาลช่วยกันถึง 2 คน และยังมีความเป็นห่วงจึงใช้หมอนรองศีรษะ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ขอให้รอผลการตรวจสอบเพื่อหามูลเหตุที่แน่ชัด

 

      สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ทางรพ.ต้นสังกัดอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนสภาการพยาบาลเองก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมภายในวันศุกร์ที่ 28 ก.ย.นี้ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะต้องใช้เวลาในการสอบจริยธรรมนานแค่ไหน ซึ่งการลงโทษมีตั้งแต่การว่ากล่าวตักเตือน ภาคฑัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาตซึ่งสูงสุดนานถึง 2 ปี หรือหากรุนแรงสุดคือการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะเข้าข่ายเป็นความผิดแบบใดเพราะต้องพิจารณาข้อมูลอีกมากตามกระบวนการ อย่างไรก็ตาม ทุกการลงโทษมีผลต่อคนที่ถูกลงโทษทั้งสิ้นทั้งเรื่องเงินเดือน บำเหน็จบำนาญ และมีประวัติ  (  อ่านข่าวเพิ่มเติม สภาการพยาบาลแถลงด่วน ตกใจคลิปพยาบาลกระชากผู้ป่วย สั่งสอบพิจารณาโทษ วอนเห็นใจภาระหนัก )

 

 

      ถัดมากับข่าวที่สอง เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2561 ศาลอาญา รัชดาภิเษก พิพากษาประหารชีวิตนายไซซะนะ แก้วพิมพา และนายชุมพล พนมไพร จำเลยที่ 1-2 สมคบกันค้ายาเสพติด 1 ล้านเม็ดเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2559 หลังจากมีพยานหลักฐานข้อมูลการใช้โทรศัพท์ติดต่อกันให้จัดหารถกระบะมือสองซุกยาบ้ารับจาก สปป.ลาวไปส่ง ซึ่งคำให้การชั้นสอบสวนและคำเบิกความบางส่วนของจำเลยที่ 1-2 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกทั้งสองไว้ตลอดชีวิต และให้นับโทษนายไซซะนะต่อจากยาบ้าคดีแรกจำนวน 1.2 ล้านเม็ดที่ศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตไปแล้วด้วย

   

     โดยพิพากษายกฟ้องนายรัชพล จำเลยที่ 3 ที่ถูกกล่าวหารับโอนเงินค้ายา เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร และศาลพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสามในส่วนที่ถูกกล่าวหาสมคบค้ายาบ้าจำนวน 2,381,400 เม็ด ด้วยเนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 มี.ค.61 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิตนายไซซะนะ ฐานนำเข้าเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 จำนวน 1.2 ล้านเม็ด เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตามชั้นสอบสวนนายไซซะนะ ให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ตลอดชีวิต
     

       ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อระหว่างวันที่ 24 ก.ค.- 16 ก.ย 2558 จำเลยที่ 1-2 กับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง บังอาจสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปโดยแบ่งหน้าที่กันทำในรูปขบวนการเครือข่ายยาเสพติดโดยจำเลยที่ 1กับพวกที่อยู่ใน สปป.ลาว ร่วมกันจัดหาเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า และจัดหาเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลักลอบขนส่งลำเลียงยาเสพติดและจัดหารถยนต์สำหรับซุกซ่อนยาเสพติดจำนวน 2,381,400 เม็ดไปส่งให้กับเครือข่ายทางภาคใต้ของไทย และมาเลเซีย

 

     ต่อมาระหว่างวันที่ 17 – 22 ส.ค. 2558 จำเลยทั้งสาม ร่วมกันสมคบลักลอบส่งยาบ้าจำนวน 1 ล้านเม็ดส่งให้เครือข่ายทางภาคใต้โดยติดต่อกับนายไซนุเด็ง มะ ที่ประเทศมาเลเซียโดยจำเลยที่ 3 ทำหน้าที่ธุรกรรม ในการรับโอนเงินค่ายาเสพติดจากนายไซนุเด็ง หลายครั้งหลายหนจำนวน 144  ล้านบาท ไปส่งมอบให้เพื่อนของจำเลยที่ 1 ที่ สปป.ลาว เพื่อสะดวกในการกระทำผิด  (อ่านข่าวเพิ่มเติม  ด่วน! ศาลพิพากษาประหารชีวิต "ไซซะนะ แก้วพิมพา" เจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ )

 

 

 

      ต่อมากับข่าวที่สาม กับข่าวของร็อคเกอร์เลือดร้อนอย่าง เสก โลโซ ที่ออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2561 หลังจากเข้ารักษาตัวด้วยอาการไบโพลาร์ จากความช่วยเหลือของครอบครัวและคนใกล้ชิดอย่างอดีตภรรยา กานต์ วิภากร น้องเสือ และแฟนสาวคนปัจจุบัน อีฟ อภิสร์ญา ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊กเสก โลโซ ได้ออกมาโพสต์ภาพครอบครัวอบอุ่นเป็นภาพของเสกกับกานต์ และลูกๆ อยู่พร้อมหน้ากันในบ้านหลังใหม่ พร้อมข้อความระบุว่า  "@บ้านหลังใหม่ของกานต์และลูกๆ..."

 

 

      โดยภาพดังกล่าวก็ทำให้แฟนคลับต่างเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมายว่าเป็นภาพที่อบอุ่นน่ารัก และอยากเห็นมาโดยตลอดที่ทั้งสองคนจะอยู่ข้างๆ กัน แม้ในวันนี้จะไม่ได้อยู่ในฐานะสามีภรรยากันแล้วก็ตาม ขณะเดียวกัน กานต์ วิภากร ก็ถ่ายภาพร่วมกับเสก โลโซ พร้อมระบุข้อความหวานๆ ว่า... "ไม่ต้องไปหาไหนหรอก หัวใจของเธอมันหล่นอยู่ที่นี่มา 20 กว่าปีแล้ว!!"

 

 

      ก่อนหน้านั้น เสก โลโซ ร็อคเกอร์ชื่อดัง ก็ได้ออกมาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก SEK LOSO โดยช่วงท้ายของไลฟ์สด นาทีที่ 31.54 เสก โลโซ นั้นได้ฝากข้อความถึง สมรักษ์ คำสิงห์ พร้อมเป็นกำลังใจให้กับเจ้าตัวว่า "ผมอยากเปิดเพลงต่อไปนี้นะครับ เพื่อเป็น แรงใจให้กับ สมรักษ์ คำสิงห์ และครอบครัว ขอให้ต่อสู้ต่อไป ขอให้เข้มแข็ง ขอให้รู้ว่าผมนั้นเป็นเพื่อนและเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอนะครับ ขอมอบเพลงนี้นะครับ รอยยิ้มนักสู้"  (อ่านข่าวเพิ่มเติม ครอบครัวสุขสันต์ "เสก โลโซ" แชะภาพร่วมอย่างอบอุ่นในบ้านหลังใหม่ของ "กานต์" และลูกๆ)

 

 

 

 

         สำหรับข่าวที่สี่ กับกรณีเจดีย์ถล่มเมื่อเวลา 12.00น. ของวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังศูนย์ข้อมูลสาธารณภัย ปภ. รับแจ้งเหตุเจดีย์วัดพระยาทำ ถล่มทับคนงานขณะคนงานกำลังเข้าไปบูรณะหอระฆัง ภายในวัดพระยาทำแขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ถนนอรุณอมรินทร์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บ 11 ราย ผู้เสียชีวิต 1 รายคือนายสายันต์ ทองสาย คนงานก่อสร้าง 

 

 

    ความคืบหน้าล่าสุดของวันที่ 26 ก.ย. 2561 นางสนัย ทองสาย ภรรยาของนายสายันต์ นิมนต์พระที่วัดพระยาทำ ที่เกิดเหตุมาทำพิธีเชิญวิญญาณของนายสายันต์ ที่จุดพบศพใต้ฐานเจดีย์ โดยมีการจุดธูปทั้ง 4 ทิศ ของประตูเจดีย์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้ามีบรรดาเพื่อนร่วมงานของผู้เสียชีวิตร่วมทำพิธีด้วย ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจเกิดจากปัญหาของอุปกรณ์ที่ใช้ในระหว่างการยกฐานเจดีย์เกิดทรุดตัวลงในเวลาต่อมา ทั้งนี้แม้จะตรวจสอบอยู่ตลอดเวลาแต่ก็อาจมีเรื่องผิดพลาดได้เสมอกับเรื่องอุปกรณ์ช่างแต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังต้องหาข้อสรุปต่อไปว่าสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นจากสาเหตุใดกันแน่ 

 

 

       เดินทางมายังข่าวสุดท้ายกับคอหวยที่รอเลขนำโชคเพื่อนำไปซื้อสลากินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 ต.ค. 2561 อยู่ขณะนี้ ต่างเข้าไปชมเหตุการณ์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ขับรถอยู่ดีๆ เกิดมีงูเหลือมขนาดใหญ่เลื้อยออกมาจากหน้ากระโปรงรถสร้างเสียงกริ๊ด แตกตื่นให้กับหญิงผู้ขับรถ ก่อนคุมสติได้บีบแตรขอความช่วยเหลือจากป้อมยามด้านหน้า หลังจากคลิปของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้เผยแพร่ออกไปได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านอื่นเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมบอกว่าเธอนั้นมีสติมาก 

 

 

  
      ทั้งนี้ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้าไปสอบถามและตรวจสอบเลขทะเบียนรถของหญิงคนดังกล่าวว่ามีเลขทะเบียนอะไร โดยหญิงสาวเจ้าของรถคันดังกล่าวได้ตอบคอมเม้นต์ว่าเลขทะเบียนของเธอนั้นคือเลข 82 , 59 (ทะเบียนเต็ม 5928 กรุงเทพมหานคร)  ( อ่านข่าวเพิ่มเติม  วาร์ปด่วน "เลขทะเบียนสาวที่เจองูเหลือมตัวเขื่องโผล่หน้ารถ"  )

 

 

สรุปข่าวเด่นประจำวันขอจบไว้เพียงเท่านี้ สำหรับพรุ่งนี้จะมีประเด็นใดน่าสนใจก็ต้องติดตามกันต่อไป