พระราชดำรัส "ในหลวง ร.๙" แม้ผ่านมาแล้ว ๔๐ ปี แต่ยังมีความหมายให้คนไทยต้องคิดและทบทวน(รายละเอียด+คลิป)

พระราชดำรัส "ในหลวง ร.๙" แม้ผ่านมาแล้ว ๔๐ ปี แต่ยังมีความหมายให้คนไทยต้องคิดและทบทวน(รายละเอียด+คลิป)

มิวสิควิดิโอ "เพลงสรรเสริญพระบารมี" ที่มีผู้ร่วมขับร้องเป็นประชาชนกว่า 3 แสน คนบริเวณท้องสนามหลวง และโดยรอบพระบรมมหาราชวัง  เมื่อวันที่ 22  ตุลาคม 2559 โดยมิวสิควิดิโอดังกล่าว ประกอบวิดีทัศน์พระสุรเสียงพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2519 มีความยาว รวม 9 นาที 10 วินาที กำกับโดยหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล วาทยากร โดยอาจารย์สมเถา สุจริตกุล และทีมงานพลังของแผ่นดิน

 พระราชดำรัส องค์ที่ ม.จ.ชาตรีเฉลิม  หรือท่านมุ้ย อัญเชิญมาประกอบในมิวสิควิดิโอเพลงสรรเสริญพระบารมี มีใจความดังนี้...

 

พระราชดำรัส "ในหลวง ร.๙" แม้ผ่านมาแล้ว ๔๐ ปี แต่ยังมีความหมายให้คนไทยต้องคิดและทบทวน(รายละเอียด+คลิป)

 

 พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 31 ธ.ค. 2519

"ประชาชนชาวไทยทั้งหลายขอขอบใจท่านที่ได้แสดงน้ำใจไมตรีต่อข้าพเจ้าและพระราชินีกับลูกๆทุกคน ทั้งได้ร่วมมือสนับสนุนในกิจทุกอย่างทำให้เกิดกำลังใจแก่เราอย่างมาก   ประชาชนคนไทยมีการแสดงออกชัดเจนขึ้น ว่าต้องการอะไร เมื่อแสดงออกมาเช่นนี้ก็ทำให้รู้ใจกันและสามารถช่วยกันทำช่วยกันสร้างสิ่งที่ต้องการ แม้จะมีอุปสรรคหรือความยากลำบากขัดขวางอยู่ก็ทำได้ ขอเพียงให้ร่วมมือร่วมใจกันจริงๆ แต่ทั้งนี้ควรจะต้องเข้าใจด้วยว่าสถานการณ์ของประเทศโดยส่วนรวมยังไม่แจ่มใสนัก

ข้าพเจ้าปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้ทุกคนเข้าใจและเล็งเห็นสถานการณ์บ้านเมืองตามความเป็นจริง เวลานี้บ้านเมืองของเรากำลังต้องการการปรับปรุง และการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมอย่างรีบด่วน เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากทรัพยากร จากพื้นภูมิประเทศ และจากกำลังงาน กำลังปัญญาของคนไทยเราทุกคน ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จะได้นำไปสร้างเสริมการเจริญก้าวหน้าทุกๆด้านให้เพิ่มพูนมั่นคงยิ่งขึ้นโดยเร็ว เพื่อการนี้เราจะต้องวางโครงการพัฒนาอีกหลายอย่างโดยรีบด่วนทั้งจะต้องดำเนินโครงการนั้นๆให้สำเร็จผลโดยฉับพลันจะลังเล หน่วงเหนี่ยวให้ชักช้าด้วยเหตุใดๆไม่ได้ เพราะจะทำให้เสียประโยชน์ที่จะพึงได้ไปเปล่าๆ ซึ่งในยามนี้จะต้องถือเป็นความเสียหาย ทางที่เราจะช่วยกันได้ ก็คือการทำความคิดให้ถูกและแน่วแน่ ในอันที่จะยึดถือชาติบ้านเมืองเป็นที่หมาย ต้องเพลาการคิดถึงประโยชน์เฉพาะตัว และความขัดแย้งกันในสิ่งที่มิใช่สาระเลย ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใดอยู่ ก็เริ่มกระทำทำให้สำเร็จลุล่วงไป โดยเต็มกำลังความสามารถด้วยความบริสุทธ์ใจ ด้วยความเมตตา ด้วยความปรองดองกัน และด้วยความปรารถนาดีต่อกัน ที่สุดผลงานของทุกคนนั้น จะรวมกันเข้าเป็นความสำเร็จ และความพัฒนาถาวรของประเทศชาติได้ไม่นานเกินคอย

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวไทยจงปกปักรักษาท่านทั้งหลาย ให้ปราศจากภัยอันตรายและเหตุชั่วร้ายทุกสิ่งบันดาลให้แต่ละคนมีกำลังกายกำลังใจ กำลังปัญญา และกำลังสามัคคีอันแข็งแกร่ง พร้อมเพรียง สามารถที่จะประกอบกรณียกิจนำพาประเทศชาติให้ดำเนินต่อไป โดยสวัสดีและสามารถที่จะธำรงอิสรภาพ อธิปไตยพร้อมทั้งค.เจริญร่มเย็นเป็นผาสุขของบ้านเมืองให้ถาวรอยู่ตลอดไป ขอทุกท่านจงประสพแต่ความสุข. สิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล และสิ่งที่พึงปรารถนาตลอดปีใหม่นี้ทั่วหน้ากัน"

 

 

 

 

 

 

รายงานโดย   นาตยา   เอนกธนะเศรษฐ์     สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณ      เฟซบุ๊ก  "Wassana Nanuam"