"เจอดี-มีคลิป"กองทัพเรือ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต

"เจอดี-มีคลิป"กองทัพเรือ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต

วันนี้(18 กรกฎาคม 2560) เวลา 10.00 น. พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต ครอบรอบปีที่ 22 

และมีหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล รวมทั้งหัวหน้าหน่วยงานในพื้นที่เขต พระโขนง - บางนา  ร่วมพิธีฯ ณ อาคารกองบังคับการ กรมอุทกศาสตร์ ถนนริมทางรถไฟเก่า แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร

    กองทัพเรือ โดยกรมอุทกศาสตร์ เคยถวายการรับใช้เบื้องพระยุคลบาท สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในการจัด เรือหลวงจันทร และ เรือหลวงศุกร์ ถวายเป็นพระราชพาหนะเสด็จประพาสหัวเมืองชายทะเลติดต่อกันถึง 6 ครั้ง ตั้งแต่ พ.ศ.2507 – พ.ศ.2526

ซึ่งพระองค์ทรงมีพระเมตตา ต่อผู้ร่วมรับเสด็จทุกคน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ด้วยความรัก ความอาลัย และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อกองทัพเรือมาโดยตลอด

กองทัพเรือ โดยกรมอุทกศาสตร์ จึงได้จัดพิธีทางศาสนา เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายเป็นพระราชกุศล ณ เรือหลวงจันทร เนื่องในโอกาส ครบรอบ 100 วันการเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2538 และต่อจากนั้น กองทัพเรือได้มอบหมายให้ กรมอุทกศาสตร์

จัดพิธีบำเพ็ญกุศลในวันที่ 18 กรกฎาคม เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ท่าน เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 เป็นต้นมา จนถึงปีนี้ นับเป็นปีที่ 22 ที่ได้จัดให้มีพิธีทางศาสนาขึ้น โดยระยะแรกได้จัดบนเรือหลวงจันทร และเรือหลวงศุกร์

จนเมื่อกรมอุทกศาสตร์ ได้ย้ายที่ทำการจากกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม มาอยู่ที่ตั้งแห่งใหม่ที่บางนา จึงได้มีการย้ายสถานที่ประกอบพิธี มาเป็นอาคารกองบังคับการกรมอุทกศาสตร์ จนถึงปัจจุบัน

โดยวันดังกล่าวทหารเรือทุกนายพร้อมเพรียงกันแต่งกายชุดขาวแขนสั้น เพื่อเป็นการน้อมระลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีแก่ทหารเรือทุกนาย

    นอกจากนี้กรมอุทกศาสตร์ได้จัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติแด่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ดังนี้

    - เมื่อวันพุธที่ 5 กรกฎาคม 2560 จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้

    - เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2560 จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต

     จากลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ปรากฏบนงานศิลปะกล่าวว่า

“ขอบใจกองทัพเรือที่ให้ใช้  ร.ล.จันทร  เพื่อเดินทางและอยู่ในการไปเยี่ยมจังหวัดต่าง ๆ ของภาคตะวันออก

สำหรับพวกเรือ  ฉันขอขอบใจมาก  ที่ได้เลี้ยงดูพวกเราเป็นอย่างดีจริง ๆ ขอให้ทุกท่านจงมีความสุข  ความเจริญ  ทั้งกายและใจ  ทุกคนก็ได้รับส่วนกุศลที่ฉันได้ทำไปด้วย

ซึ่งทรงพระราชทานพรให้แก่กำลังพลเรือหลวงจันทร (อ่านว่า จัน-ทะ-ระ) และข้าราชการกองทัพเรือ ที่ได้ รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ในโอกาสเสด็จประพาสทางทะเลเพื่อทรงเยี่ยม

 

"เจอดี-มีคลิป"กองทัพเรือ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต

ราษฎร ทหาร  ตำรวจตระเวนชานแดน  และพอ.สว. (แพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี)  ในพื้นที่ภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม - 22  พฤศจิกายน 2522 

ยังความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่สมเด็จย่า  ทรงมีแก่ผู้ตามเสด็จฯ และ เหล่าทหารเรือทุกนาย ครั้งนั้นไม่ใช่เป็นครั้งแรก  เพราะก่อนหน้านี้กองทัพเรือ ได้มีโอกาส รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ในการเสด็จประพาสทางทะเล ของสมเด็จย่า โดยเรือหลวงจันทรมาแล้วถึง 4 ครั้ง

 พระราชกรณียกิจประการหนึ่งของสมเด็จย่า นอกเหนือพระราชกรณียกิจอันมากมายนั้นก็คือการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรตามถิ่นทุรกันดาร  ตามหัวเมืองชายทะเลของประเทศไทยที่ประสบอัคคีภัย  ภัยธรรมชาติทั้ง อุทกภัย วาตภัย 

รวมไปถึงราษฎรที่ยากไร้ เด็กอนาถา และคนชรา ด้วยน้ำพระทัยที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา  ทรงอุทิศพระวรกายโดยไม่ทรงเห็นแก่เหน็ดเหนื่อย

ในครั้งแรก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กองทัพเรือ จัดเรือหลวงจันทร เป็นเรือพระที่นั่ง เสด็จประพาสทางทะเลเพื่อทอดพระเนตรการเปลี่ยนก๊าซกระโจมไฟ และทรงเยี่ยมราษฎรทางฝั่งตะวันตกของอ่าวไทย  ระหว่างวันที่ 11 กรกฎาคม ถึง วันที่ 2  สิงหาคม 2507  

โดยเรือหลวงจันทรนั้น เป็นเรือสำรวจแผนที่ทะเล ที่กองทัพเรือสั่งต่อจากเยอรมนี ตัวเรือมีความยาวตลอดลำ 69.85 เมตร กินน้ำลึก 3.2 เมตร ระวางขับน้ำ 900  ตัน  บริเวณพระราชฐานภายในเรือที่จัดแบ่งเป็นห้องประทับ 

ได้จัดแบ่งพื้นที่ย่อยเป็นห้องทรงพระสำราญ  ห้องทรงงาน ห้องบรรทม  มีหน้าต่างช่องกระจกรอบห้อง และมีฝาทึบบังแสง  เลื่อนปิด – เปิดได้  ซึ่งครั้งแรกที่เสด็จ ประพาสหัวเมืองชายทะเลนั้น ได้เสด็จฯ โดยใช้เส้นทาง โรงเรียนนายเรือ – ประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร – สุราษฏร์ธานี – นครศรีธรรมราช – สงขลา – ปัตตานี – ฐานทัพเรือสัตหีบ – โรงเรียนนายเรือ 

   หลังจากนั้น กองทัพเรือ ได้มีโอกาสรับใช้ใต้เบื้องพระ  ยุคลบาท  สมเด็จย่า ในการเสด็จประพาสทางทะเลอีก 5 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 2  เสด็จทอดพระเนตรการเปลี่ยนก๊าซกระโจมไฟฝั่งทะเลอันดามัน ระหว่างวันที่  12 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 18 มีนาคม 2510

โดยมีเรือหลวงจันทร เป็นเรือพระที่นั่ง  ครั้งที่ 3 เสด็จประพาสอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ประกอบด้วย จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2514

โดยมีเรือหลวงจันทร เป็นเรือพระที่นั่ง  ซึ่งการเสด็จประพาสในครั้งนี้ นับเป็นปีแรกที่หน่วยแพทย์ พอ.สว. ได้ร่วมตามเสด็จฯ ในการเยี่ยมเยียนราษฎรด้วย  ครั้งที่ 4   เสด็จประพาสจังหวัดชายทะเลฝั่งตะวันออก ประกอบด้วยจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี  ระยอง และตราด ระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2518

โดยมีเรือหลวงจันทร เป็นเรือพระที่นั่ง   ครั้งที่ 5 เสด็จฯ ทรงเยี่ยมราษฎร  ทหาร ตำรวจ และหน่วยแพทย์ พอ.สว. ในจังหวัดภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม ถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2522 โดยมีเรือหลวงจันทร เป็นเรือพระที่นั่ง และครั้งสุดท้าย คือ  ครั้งที่ 6 เสด็จฯพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา  กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์  ทรงเยี่ยมราษฎร ทหาร ตำรวจ และหน่วยแพทย์ พอ.สว. ในจังหวัดภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 20  ตุลาคม ถึงวันที่ 25  พฤศจิกายน  2526

 

"เจอดี-มีคลิป"กองทัพเรือ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต

โดยมีเรือหลวงศุกร์ เป็นเรือพระที่นั่ง ในโอกาสเสด็จประพาสทางทะเล โดยเรือของกองทัพเรือทั้ง 6  ครั้งนั้น  ข้าราชการและกำลังพลของกองทัพเรือทุกนายที่ตามเสด็จ  ต่างชื่นชมในพระราชจริยาวัตรอันงดงามของพระองค์ท่าน ที่ทรงห่วงใย ไต่ถามทุกข์สุขของราษฎรที่มาเฝ้ามาเข้าเฝ้าฯ ด้วยพระพักตร์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใสไม่ถือพระองค์

ตลอดการปฏิบัติพระราชภารกิจเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรตามหัวเมืองชายทะเล การเสด็จประทับบนเรือพระราชพาหนะ สมเด็จย่าทรงปฏิบัติพระองค์เรียบง่ายทรงสนพระราชหฤทัยที่จะสอบถามถึงเรื่องที่เกี่ยวกับทหารเรืออยู่เสมอ เช่นการเดินเรือและดาราศาสตร์ รวมทั้งเข้าร่วมในกิจกรรมและประเพณีทหารเรือดังจะเห็นได้จากการที่พระองค์

ทรงเป็นประธานในการทำพิธีข้ามเส้นศูนย์สูตร เมื่อครั้งที่เสด็จประพาสทางทะเล ในภาคใต้ด้านฝั่งตะวันตกของประเทศไทย ในปี พ.ศ.2510 นอกจากพระราชภารกิจที่ทรงปฏิบัติแล้ว สมเด็จย่ายังทรงพระเมตตา ห่วงใยทุกข์สุข  ในเรื่องอาหารการกิน และสภาพความเป็นอยู่ของทหารชั้นผู้น้อยอยู่เสมอ นายทหารประจำเรือหลายนาย

เมื่อถึงวาระได้รับการเลื่อนชั้นยศสูงขึ้น พระองค์ก็ทรงรับเป็นประธานพิธีประดับยศให้ สมเด็จย่าได้พระราชทานพระบรมสาทิสลักษณ์ของที่ระลึกที่ทรงประดิษฐ์ด้วยพระองค์เอง และเงินพระราชทานเพื่อใช้เป็นสวัสดิการแก่เรือพระราชพาหนะที่รับเสด็จ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น และเป็นความปลาบปลื้มแก่ผู้ที่ได้มีโอกาสรับใช้ ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท อย่างมิรู้ลืม

     ถึงแม้จะเป็นระยะเวลา 22  ปีมาแล้ว ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  ได้เสด็จสวรรคต  ซึ่งนับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่ยังความโศกเศร้ามาสู่พสกนิกรทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่เคยได้รับใช้ใกล้ชิด  ซึ่งแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าใด สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า องปวงชนชาวไทย ก็จะยังสถิตอยู่ในดวงใจ

 

"เจอดี-มีคลิป"กองทัพเรือ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต

กองประชาสัมพันธ์ : สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ