“ยิ่งลักษณ์” ไม่ทิ้งลาย “นางโพย” จากนายกหญิงของไทย จนนาทีสุดท้าย (เจอดี - มีคลิป)

“ยิ่งลักษณ์” ไม่ทิ้งลาย “นางโพย” จากนายกหญิงของไทย จนนาทีสุดท้าย

        ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยกับการแถลงปิดคดีด้วยวาจาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดี  ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุกจริตในโครงการจำนำข้าว ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้ที่แห่กันมาให้กำลังใจ ซึ่งเธอเองก็ได้กล่าวขอบคุณขอบอก ขอบใจซาบซึ้งกันไปเรียบร้อย 

     ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ใช้เวลาในการแถลงถึง 1 ชั่วโมงเต็ม เริ่มตั้งแต่ 09.30-10.30 น. และคำแถลงมีเนื้อหายาวกว่า 19 หน้า ซึ่งการแถลงปิดคดีด้วยวาจานั้น   น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้อ่านจากเอกสารต่อหน้าศาล โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ย้ำ และยืนยันตลอดการแถลงว่า ไม่ได้ละเลยหรือเพิกเฉยในการตรวจสอบเมื่อเกิดปัญหาโครงการจำนำข้าว ยืนยันความบริสุทธิ์ ของตัวเองเสมอๆ อีกทั้งยังตอบโต้ด้วยการกล่าวหา ป.ป.ช.ทำสำนวนอย่างมีพิรุธ และได้พยายามเชื่อมโยงคดีดังกว่า ให้ไปเกี่ยวของกับทางการเมือง ซึ่งได้วาทะกรรม ที่จะจำจนตาย “ดิฉันเป็นเหยื่อของเกมการเมืองที่ลึกซึ้ง”

        หากจะมองถึงการแถลงปิดคดีครั้งนี้เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งของคดีและเป็นสิทธิที่จำเลยพึงได้รับนั้น ก็ว่าได้ แต่หากดูดีดี แล้วการพูดในครั้งก็ดูเหมือนว่า  จะเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ เมื่อครั้งขณะที่เธอดำรงตำแหน่งผู้บริหารใหญ่ของประเทศ กับภาพลักษณ์นางโพย เมื่อมีคนตั้งข้อสังเกตไปถึงเอกสารคำแถลงการณ์ที่เธออ่านนั้นก็ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นทางทนายความหรือทีมงานร่างให้เป็นหนังสือมาอ่าน เหมือนเช่นที่ผ่านๆมาหรือไม่ มิใช่การแถลงด้วยวาจาหรือเธอเองที่เป็นผู้ร่างถ้อยแถลงนี้ขึ้นมาเองกับมือ   เหมือนอย่างที่ได้เคยปรากฏให้เห็นมาหลายต่อหลายครั้งเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอันดูจะเป็นเหมือนสิ่งที่เป็นของควบคู่กันของคุณยิ่งลักษณ์  จนได้ฉายา “นางโพย”  หรือไม่ อันนี้ก็ไม่อาจทราบได้  และก็ดูเหมือนว่าถ้อยคำแถลงนั้นก็มิได้มีอะไรที่ใหม่ไปกว่าจากที่ได้เคย แถลงต่อสภา ซึ่งถูกสภานิติบัญญัติถอดถอนไปเสีย คงมีก็เพียงแต่คำออดอ้อนรำพึงรำพัน ค่อนแคะคนอื่นเท่านั้นที่เป็นเรื่องใหม่ อันไม่เป็นสาระแก่การพิจารณาคดี

            อย่างไรก็ดีนี่เป็นเพียงข้อสังเกตเศษเสี้ยวเดียวเท่านั้นในการแถลงครั้งนี้  ต่อไปในขั้นตัดสินในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ก็คงต้องคอยติดตามดูว่า เอกสารคำแถลงครั้งนี้จะช่วยให้เธอหลุดพ้นตราบาป ที่บอกว่าไม่ได้ก่อ ไปได้หรือไม่ ต้องคอยติดตาม