- 13 ส.ค. 2560
เผยภาพประวัติศาสตร์เมื่อครั้น"สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" เสด็จทอดพระเนตรคอนแชร์โต้มหาราชินี ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
เมื่อปี 2547 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ทรงมีพระบัญชาให้นายสมเถา สุจริตกุล ประพันธ์ ‘คอนแชร์โตมหาราชินี’ QUEEN SIRIKIT PIANO CONCERTO น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ บรรเลงรอบปฐมทัศน์โลกเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2547 ที่โรงแรมดุสิตธานี
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในรัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จเป็นประธาน โดยมีผู้เฝ้าทูลละอองพระบาท 72 คู่ บรรเลงซ้ำในวันที่ 12 13 และ 14 สิงหาคมในปีต่อมา ที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศบางไทร จังหวัดอยุธยา
โดย ดร.นฎาประไพ สุจริตกุล หรือคุณกีกี้ เกิดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2499 เป็นธิดาคนกลางของ ดร.สมปอง สุจริตกุล อดีตเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ กับคุณถ่ายเถา สุจริตกุล นักประพันธ์นวนิยายชื่อดังอย่าง มงกุฎดอกส้ม และดอกส้มสีทอง มีพี่ชายคือคุณสมเถา สุจริตกุล เป็นนักเขียนและนักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดัง ส่วนน้องสาวคนเล็กคือคุณเปรมิกา สุจริตกุล เป็นสาวคนเก่งของแวดวงสังคม ส่วนตัวคุณกีกี้เป็นสาวสุจริตกุลที่เลื่องลือด้านความงามและมีบทบาททางสังคม เธอสมรสกับคุณยศ เอื้อชูเกียรติ มีบุตร 3 คนคือ นายอภิทักข์ สิทธิสาริบุตร, นายภูมิ เอื้อชูเกียรติ, นายภัทร เอื้อชูเกียรติ
ไม่เพียงเท่านั้น ดร.นฎาพระไพ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ภาพประวัติศาสตร์ในครั้งนั้น ได้ถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดให้กับทีมข่าวเจอดี(สำนักข่าวทีนิวส์)ถึงภาพบรรยากาศเมื่อครั้นที่สมเด็จพระสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรคอนแชร์โต้มหาราชินี ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ซึ่งมีรายละเอียดของการแสดงดังนี้
"กระบวนที่หนึ่งเริ่มด้วยเปียโนและวงดุริยางค์ซึ่งร่วมกันสร้างบรรยากาศอันอึงอลด้วยลมพายุ แล้วเพิ่มความเข้มข้นด้วยเสียงแผดผิวของไวโอลิน ครั้นแล้ว...จากความอาเพทแห่งดินฟ้า...บังเกิดท่วงทำนอง ‘สิริกิติ์’ อันเปี่ยมล้นด้วยความรักและเมตตาอาทร เปรียบประดุจมนตร์ขลังที่ปัดเป่าความร้อนเร่าทั้งหลายทั้งปวงให้เลือนหายกลายเป็นความร่มเย็นเป็นสุข
กระบวนที่สองสื่อถึงความรักและผูกพันระหว่างเปียโนกับวงดุริยางค์ ท่วงทำนองที่อ่อนหวานแผ่วพริ้วประหนึ่งความฝัน เริ่มด้วยเปียโนในลีลาเพลงช้าเยือกเย็นดังสายฝนที่โปรยปราย บรรเลงรับโดยวงดุริยางค์ แสดงถึงความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งซึ่งคนรักพึงมีต่อกัน ดนตรีช่วงกลางแปรเปลี่ยนเป็นลีลา Presto ซึ่งนิยมใช้ในเพลงลาติน แสดงถึงความรื่นรมย์แห่งเมืองฟ้าราตรี กระบวนที่สองจบด้วยท่วงทำนองเดิมแต่พลิกผันเป็นลีลาพิสดาร
กระบวนสุดท้ายเป็นเพลงเร็ว Rondo แสดงถึงความฉับไวของกรุงเทพ มหานครร่วมสมัยอันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นระทึกใจเมื่อวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกมาบรรจบพบกัน ดนตรีในกระบวนนี้เป็นลีลาในท่วงทำนองไทยเดิมสอดแทรกผสมผสานกับดนตรีแจซแห่งตะวันตก
และนี่เป็นเรื่องราวบางส่วนเท่านั้นที่ ดร.นฎาประไพ สุจริตกุล นำมาถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้เห็นถึงพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในรัชกาลที่ 9 นับเป็นภาพประวัติศาสตร์และความทรงจำที่มิอาจลืมเลือนไปตราบนิจนิรันดร์
ขอขอบพระคุณภาพและข้อมูล : ดร.นฎาประไพ สุจริตกุล