ที่พึ่งสุดท้าย!! ทายาทโอเอ เข้าซบกองปราบฯหวังพึ่ง ฟ้องทีม"บิ๊กโจ๊ก" ทำครอบครัวกลายเป็นจำเลยสังคม เสียชื่อเสียง(คลิป)

   วันนี้ เวลา 14.00 นนายสุรัตน์โรจน์รุ่งรังสีได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามพร้อมทนายความเข้าแจ้งดำเนินคดีกับพันตำรวจเอกสุรศักดิ์สุรินทร์แก้วและพันตำรวจโทธรรมรักษ์เรืองศิษธิ์ 2 นายตำรวจเจ้าของคดีทัวร์ศูนย์เหรียญกรณีนำเอาความเท็จมาดำเนินคดีกับตนและพวกเมื่อวันที่ 29กรกฎาคมคม 59แจ้งความต่อพันตำรวจโทธรรมรักษ์เรืองเดชพนักงานสอบสวนสถานีนครบาลพญาไทในข้อหาร่วมกันเป็นสมาชิกอั้งยี่และวันที่ 23 สิงหาคม 59ได้ร้องขอต่อศาลอ้างว่านายวสุรัตน์กับนางนิสาโรจน์รุ่งรังสี ร่วมและทำความผิดเกี่ยวข้องกับบริษัทนำเที่ยว2 บริษัทที่มาเช่ารถจากบริษัทโอเอทรานสปอร์ตจำกัดแม่ข้อหาอั้งยี่เป็นเหตุให้ศาลออกหมายจับตนและมารดารวมพนักงานสืบสวนทั้งหมด 69 คน

     คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนดังกล่าวได้ร่วมกันสืบสวนและมีความเห็นเสนอสั่งฟ้องผู้ต้องหา 13 คนโดยมีตนเป็นผู้ต้องหาคนหนึ่งด้วยในข้อหาความผิดต่อภาษีพรบธุรกิจนำเที่ยวและแม็กมัคคุเทศก์พ. ศ. 2551อั้งยี่และฟอกเงินทั้งที่ข้าพเจ้ากับพวกไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกข้อกล่าวหาแต่อย่างใดทำให้ข้าพเจ้ากับพวกได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียอิสระภาพชื่อเสียงและเป็นจำเลยของสังคม ต่อมาศาลอาญาในคดีมีการฟ้องร้องดังกล่าวมีคำพิพากษาว่าตนกับพวกหรือจำเลยอื่นไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้องและพิพากษายกฟ้องข้าพเจ้าจึงมาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานแจ้งความเท็จเบิกความเท็จเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ข้าพเจ้าหรือผู้หนึ่งผู้ใดร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตกับพันตำรวจเอกสุรศักดิ์สุรินทร์แก้วและพันตำรวจโทธรรมรักษ์เรืองดิษฐ์และดำเนินคดีกับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้ร่วมกระทำความผิดหรือสนับสนุนการกระทำความผิดทุกคนทุกฐานความผิดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เครื่องเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไทแขวงพญาไทเขตราชเทวีกรุงเทพมหานครกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวและท้องที่อื่นที่เกี่ยวข้อง

   นายวสุรัตน์ยังกล่าวอีกว่าตนและครอบครัวอดทนอดกลั้นมานานถูกดำเนินคดีในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรถูกคุมขังในเรือนจำมีคำสั่งห้ามประกันตัวเกิดทั้งครอบครัวนะร่วม 5 เดือนตกเป็นจำเลยสังคมถูกดูหมิ่นเกลียดชังธุรกิจครอบครัวสร้างขึ้นมานานกว่า 30 ปีต้องพังทลายลงตกเป็นหนี้สินหลายพันล้านพนักงานนับพันชีวิตถูกลอยแพแต่ในที่สุดศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องซึ่งยังไม่รู้ว่าตนและครอบครัวจะถูกกระทำอะไรอีกชีวิตของตนและครอบครัวจะเดินสิ้นสุดตรงจุดไหนจึงต้องตัดใจทั้งๆที่ไม่เคยคิดจะต่อความยาวสาวความยืดอยากให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมและสิ่งที่หวังไว้กับตรงกันข้ามครอบครัวเวย์ยังคงถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีคุกคามอย่างต่อเนื่องจึงต้องตัดสินใจมันร้องขอความเป็นธรรมจากตำรวจกองปราบที่เป็นเสมือนที่พึ่งสุดท้ายของครอบครัวแล้ว