เปิดจุดยืน "พุทธะอิสระ" ต่อปัญหา "วงการสงฆ์" - คดีรถเบนซ์ - ข้อหารับของโจรของ "ธัมมชโย" !?

 

นอกเหนือจากประเด็นของร่างรัฐธรรมนูญ แล้ว อีกหนึ่งที่ร้อนแรงไม่แพ้กันคือ ปัญหาในวงการสงฆ์ ล่าสุดภาคีเครือข่ายองค์กรชาวพุทธประชุมร่วมกันเดินหน้าชนกับพระพุทธอิสระ และถอดถอน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ออกจากตำแหน่ง โดยยืนยันไม่หยุดเคลื่อนไหวหากฝ่ายพุทธะอิสระไม่หยุดเคลื่อนไหว

 

 

 

ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่ร้อนแรง ที่พร้อมปะทุ ในช่วงเวลาสำคัญ และต้องดูว่า รัฐบาลจะรับมืออย่างไร

 

ก่อนหน้านี้ เครือข่ายพระสังฆาธิการแห่งคณะสงฆ์ไทย ได้ออกหนังสือ เรื่อง ขอนิมนต์พระสงฆ์ทั่วสังฆมณฑลลงอุกเขปนียกรรมพระพุทธะอิสระ ใจความว่า “ด้วยเป็นที่ปรากฏชัดเจนต่อสาธารณะว่า พระพุทธะอิสระ แม้อาศัยคณะสงฆ์ในสังมณฑลไทย อุปสมบทในพระพุทธศาสนา เป็นผู้หัวดื้อ ว่ายากสอนยาก ได้สมคบคฤหัสถ์ ด้วยการสมคบอันไม่สมควร ตะเกียกตะกายทำลายสงฆ์ เป็นผู้ก่อความบาดหมาง ก่อการทะเลาะ ก่อการวิวาท ทำความอื้อฉาว และก่ออธิกรณ์ในสงฆ์ เป็นภิกษุพาล สันดานหยาบ รุกรานพระเถระ ไม่ฉลาดในธรรม มีอาบัติมาก มีมารยาทไม่สมควร มีความประพฤติเป็นที่รังเกียจต่อคณะสงฆ์

 

 

ดังนั้น เห็นควรให้ใช้หลักพระธรรมวินัยตามที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตไว้ ลงอุกเขปนียกรรม ยกภิกษุผู้เช่นนั้นออกจากหมู่สงฆ์จนกว่าจะละทิฐิกลับตัวกลับใจ อันจะยังความสุขสงบกลับคืนสู่สังฆมณฑลและพุทธบริษัท

 

ก่อนหน้านี้ ก็เป็นทางด้าน คณะสงฆ์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ประกาศ เรื่องลงอุกเขปนียกรรมพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม โดยเรียกร้องให้ คณะสงฆ์ จ.นครปฐม พิจารณาจริยาพระสังฆาธิการ แก่พระอธิการสิริชัย สิริโสภโณ เจ้าอาวาส วัดอ้อน้อย เพราะปล่อยปละละเลย ไม่ตักเตือนพร่ำสอนพระพุทธะอิสระ ในฐานะพระลูกวัด ให้อยู่ในพระธรรมวินัย จารีต ประเพณี อันดีงาม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่คณะสงฆ์หมู่ใหญ่

 

ขณะเดียวกัน  เมื่อวันที่ 30 มีนาคม คณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี ประชุมพระสังฆาธิการสัญจร ระดับเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ และเลขานุการในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี ณ วัดป่าก้าว ต.โนนสมบูรณ์ อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่วมกันให้ออกแถลงการณ์ประกาศลงอุกเขปนียกรรม พระพุทธะอิสระ และมีมติให้คณะสงฆ์แต่ละอำเภอสวดประกาศญัตติจตุตถกรรมในเขตสีมา เพื่อประกาศลงอุกเขปนียกรรมต่อพระพุทธะอิสระตามพระวินัยต่อไป

 

กับกระแสที่เกิดขึ้นเกิดจากความไม่พอใจหลังจากที่พระพุทธอิสระ ออกมาเคลื่อนไหว ตรวจสอบ  เรื่องมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม ที่ไม่พิจารณา กรณีอาบัติปาราชิก ของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และ  คัดค้านแต่งตั้งสมเด็จมหาราชมังคลาจารย์ "เป็นพระสังฆราชองค์ใหม่  หรือไม่

 

ก่อนหน้านี้ พระพุทธะอิสระได้ยื่นเรื่อง ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ  เพื่อขอหารือแนวทางและความเป็นไปได้ในการรื้อฟื้นคดี พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และขอให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ

 

พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดพระธรรมกาย ที่เชื่อมโยงไปถึงมหาเถรสมาคม ว่ามีที่มาอย่างไรและปลายของเงินอยู่กับผู้ใด และยังได้สอบถามความคืบหน้า คดีเงินบริจาค 700 ล้านบาทของสหกรณ์เครดิตยูเนียน จำกัด

 

รวมถึง ความคืบหน้าการตรวจสอบรถหรูที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ที่พระพุทธะอิสระอ้างว่า มีพระชั้นผู้ใหญ่ ในกรรมการ มส. หลายรูป ถือครองรถหรู จำนวนมาก

 

จนทำให้ ล่าสุด พนักงานสอบสวนดีเอสไอออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโยเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในฐานะผู้ต้องหาคดีข้อหาสมคบฟอกเงินร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร กรณีมีชื่อรับเช็คจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น  โดยกำหนดนัดรับทราบข้อหาวันที่ 8 เมษายน

 

อย่างไรก็ตาม นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย ได้ส่งหนังสือมาขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาไปก่อน เนื่องจากพระธัมมชโยติดภารกิจหลายอย่างของวัด เพราะเดือน เม.ย.นี้ เป็นเดือนเกิดของพระธัมมชโย จึงต้องมีการจัดเตรียมการทำบุญวันเกิดในวันที่ 22 เม.ย.นี้ จึงไม่สะดวกที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวนตามที่กำหนด

 

และเพื่อให้เกิดความชัดเจน เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวเครือข่ายพระสังฆาธิการ เราจะไปพูดคุยกับ พระพุทธอิสระวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม