ย้อนดูนยโบายโดนัล ทรัมป์กันชัดๆ!! หากได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป อะไรจะเกิดขึ้น ??

ย้อนดูนยโบายโดนัล ทรัมป์กันชัดๆ

ทรัมป์ 1: ปฏิรูปนโยบายภาษีเพื่อคนรวย
ในขณะที่คลินตันต้องการชึ้นภาษีเพื่อเพิ่มกำลังทุนในการลงทุนในโปรเจกต์ใหม่ๆ ของรัฐบาล จากการแถลงนโยบายภาษีเมื่อวันที่ 15 กันยายน ทรัมป์ต้องการ “หั่น” ภาษีเงินได้ให้กับชาวอเมริกันทุกชนชั้นและลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลง ซึ่งสถาบันวิจัยเชิงนโยบาย Tax Foundation คำนวณว่า หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง รายได้ของชาวอเมริกันที่ยากจนที่สุด 80 เปอร์เซ็นต์ จะเพิ่มขึ้นราว 0.8 ถึง 1.9 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่กลุ่มคนมหารวยทอป 1 เปอร์เซ็นต์ จะได้รับเงินหลังภาษีเพิ่มขึ้นราว 10 ถึง 16 เปอร์เซ็นต์

ปัญหาอยู่ที่ว่า หากไม่มีเงินภาษีที่เคยเข้าไปหล่อเลี้ยงโครงการที่มีความจำเป็นต่อการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในระยะยาว เช่น การศึกษาหรือ infrastructure ผลผลิตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะลดลงอย่างแน่นอน

แต่หากทรัมป์ไม่ยอมลดรายจ่ายเหล่านี้ทั้งๆ ที่ก็ต้องการลดภาษี (ด้วยความกังวลว่าจะกระทบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ) จะมีโอกาสที่ภาวะการขาดดุลการคลัง (fiscal deficit) ของสหรัฐฯ จะทะยานทะลุเมฆขึ้นไปอีกที่ระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจสร้างความผันผวนในตลาดบอนด์ และเราอาจได้เห็นอัตราดอกเบี้ยที่เด้งสูงขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อเจ้าหนี้

นั่นก็คือ จากการลดภาษีครั้งนี้ ทรัมป์จะต้องเลือกระหว่างการขยายตัวที่ติดขัดไปหลายปีเพราะรายจ่ายรายการสำคัญลดลง หรือเลือกภาวะความตื่นตระหนกในตลาดบอนด์ที่ยังไม่มีใครทราบว่าจะกลายพันธุ์ไปเป็นอะไรต่อ

 

ทรัมป์ 2: ปิดรับแรงงานต่างถิ่น
ในขณะที่คลินตันต้องการดึงดูดแรงงานต่างถิ่นเข้ามาเสริมทัพเศรษฐกิจ ทรัมป์ต้องการปิดกั้นและลดจำนวนแรงงานต่างถิ่นผ่านทางสองช่องทางหลัก หนึ่ง คือ มาตรการ “ไม้แข็ง” ตรวจจับแรงงานผิดกฎหมายเพื่อส่งกลับประเทศ สอง คือ ทำให้ภาคเอกชนจ้างแรงงานต่างถิ่นถูกกฎหมาย (เช่น ผู้ถือวีซ่า H-1B) ได้ลำบากขึ้น โดยการเพิ่มความยากในการพิสูจน์ให้ได้ว่าบริษัทอเมริกันหาชาวอเมริกันมาทำงานนี้ไม่ได้จริงๆ ก่อนเปิดตำแหน่งให้แรงงานต่างถิ่น

สถาบันวิจัยเชิงนโยบาย American Action Forum คำนวนไว้ว่า นโยบายแบบนี้มีค่าใช้จ่ายสูงมากในการไล่จับและขับไล่แรงงานนอกระบบกว่าสิบล้านคน ยิ่งไปกว่านั้น สหรัฐฯ จะสูญเสียแรงงานไปในจำนวนมาก ซึ่งสถาบันวิจัยนี้คาดว่าในระยะ 20 ปีจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ สูญเสียแรงงานไปราว 11 ล้านคนและลด GDP ลงถึงกว่า 5.7 เปอร์เซ็นต์

ทรัมป์ 3: เปิดสงครามการค้า สั่งสอนจีนและเม็กซิโก
ในมิติของการค้าระหว่างประเทศ ค่อนข้างมีความชัดเจนว่าทรัมป์ต่อต้านการเจรจา NAFTA และ TPP มากกว่าคลินตัน (แม้ว่าเธอจะกล่าวอยู่เสมอว่าเธอไม่เห็นด้วยกับ TPP ในลักษณะที่มันเป็นอยู่ในขณะนี้) และต้องการปกป้องแรงงานอเมริกันด้วยการสั่งสอนประเทศจีนหรือประเทศคู่ค้าอื่นๆ ที่เคยดำเนินนโยบายการค้าแบบตุกติก

“การสั่งสอน” นั้นมีตั้งแต่การเจรจา NAFTA ใหม่เพื่อขึ้นภาษีนำเข้ากับประเทศเม็กซิโกไปที่ 35 เปอร์เซ็นต์ กดดันประเทศจีนไม่ให้ทำให้เงินหยวนอ่อนค่าเกินจริง เพิ่มกำลังพลทหารในน่านน้ำทะเลจีนใต้ และขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศจีนไปที่ 45 เปอร์เซ็นต์

จริงอยู่ที่งานวิจัยล่าสุดพบว่า การค้ากับประเทศจีนเคยทำให้แรงงานในอุตสาหกรรมการผลิตตกงานไปกว่าหนึ่งล้านคนภายในแค่ระหว่าง ค.ศ. 2000 กับ ค.ศ. 2007 แต่สิ่งที่ทรัมป์คิดจะทำนั้นผ่าเหล่าเกินไป และจะย้อนศรมาทำร้ายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลต่อไปนี้

หนึ่ง คือ เมื่อทรัมป์เริ่มเปิดสงครามการค้า ประเทศจีนและเม็กซิโกจะโต้กลับด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เหมือนกัน บริษัทอเมริกันทั้งหลายที่ทำการค้ากับสองประเทศนี้จะถูกกระทบเพราะขาด access ต่อตลาดส่งออกสำคัญ อาจถึงขั้นต้องโละแรงงานชาวอเมริกันที่ทรัมป์ต้องการจะช่วย เศรษฐกิจคู่ค้าของสหรัฐฯ เองก็จะถูกกระทบ จึงไม่แปลกที่เงินเปโซเม็กซิกันและแคนาดาดอลลาร์ถึงอ่อนไหวต่อทุกความเคลื่อนไหวที่สะท้อนถึงโอกาสที่ทรัมป์จะเอาชนะคลินตันได้

สอง คือ เศรษฐกิจภาคอื่นๆ ที่ไม่ได้ส่งออกเลยสักนิดก็ยังสามารถถูกกระทบอีกต่อหนึ่งได้ด้วย เพราะการนำเข้าวัตถุดิบจะมีราคาสูงขึ้น อีกทั้งแรงงานในภาคส่งออกก็จะเริ่มไม่มีรายได้ไปอุดหนุนธุรกิจอื่นๆ ในประเทศ อุปสงค์ก็จะแผ่วลงในหลายๆ ส่วนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

Peterson Institute for International Economics พบว่า การใส่นโยบายการค้าของทรัมป์เข้าไปในโมเดลเศรษฐกิจจำลองทำให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้นถึงเกือบ 9 เปอร์เซ็นต์ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย โตแค่ -0.1 เปอร์เซ็นต์ภายในแค่สามปีหลังการเลือกตั้ง

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม: วาทกรรมสุดเดือดพล่าน ของโดนัล ทรัมป์ "ห้ามมุสลิมเข้าประเทศ" เหยียดเชื้อชาติแบบสุดโต่ง (คลิป+รายละเอียด)

สื่อสหรัฐปูด !! ปธน.โดนัล ทรัมป์ เตรียมลงนาม ระงับวีซ่ามุสลิม 7 ประเทศ พร้อมเผยรายชื่อประเทศที่เป็นภัยคุกคามก่อการร้าย งานนี้ลุกเป็นไฟ !!

CR.ข้อมูล ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์