"สนธิญาณ" หนุน!! แนวทางปรองดองของนายกฯ ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง ต้องดูเรื่องความเหลื่อมล้ำและความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย !!

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 18 มกราคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : แน่นอนครับทุกองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดี กองทัพในช่วงในบางระยะก็เป็นเผด็จการทหารที่มุ่งมาดเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว เอาแต่ตระกูลพวกพ้องกอบโกย เหลิงอำนาจก็มีครับ แต่ภาพรวมของกองทัพไทยตลอดมาคือสถาบันที่รักชาติไว้ แม้แต่ในปัจจุบันนี้ หากไม่เกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจเมื่อคราว พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ไม่รู้ว่าตอนนี้บ้านจะเป็นอย่างไรแล้ว ในขณะที่ประชาชนเผชิญหน้า ฝ่ายหนึ่งเตรียมอาวุธสงครามอย่างมากมาย เตรียมที่จะกระหน่ำอีกฝ่ายหนึ่ง มีประชาชนนับล้านให้การสนับสนุนออกมาชุมนุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจนำพากองทัพทั้ง 3 เหล่าทัพ และตำรวจ รวมเป็น 4 เหล่า ทำการยึดอำนาจ วันนี้รัฐบาลและ คสช. ซึ่งเป็นผู้ยึดอำนาจเดินหน้าเต็มที่ เราได้ยินชื่อใหม่ๆ ออกมาล่าสุดคือ ปยป. (คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง) เรื่องการปรองดองเอามาพูดสุดท้าย แต่ถ้าจะทำเรื่องอะไรก็ตามแต่ก็เป็นเรื่องแรกในการดำเนินการ ต้องทำให้เสร็จไม่เช่นนั้นแผนยุทธศาสตร์ก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้  งานปฏิรูปก็ทำต่อไปไม่ได้หรอกครับ ถ้าสังคมยังแตกแยกอยู่ ทีนี้เราต้องกลับมาดูว่าเวลาเราพูด หรือความหมายของการปรองดองในครั้งนี้ จะเริ่มต้นในการเตรียมการหรือการทำแผนเรียกทุกฝ่ายเชิญมาพบปะพูดคุย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ ให้เวลา 3 เดือนในการที่จะเก็บรวบรวมดำเนินการ ซึ่งไม่ใช่เป็นเวลาให้ปรองดองนะครับ พล.อ.ประวิตร ออกแอ็คชันอย่างเต็มที่ก็เกิดปฏิกิริยาต่อเนื่องกันมา ลุงกำนันก็บอกว่ายินดีมากและเชื่อว่ารัฐบาลจะทำได้สำเร็จ พร้อมให้การสนับสนุนการปรองดองอย่างเต็มที่ เชิญมาไปแลกเปลี่ยนพูดคุยก็พร้อมที่จะไป แต่ลุงกำนันบอกว่าถ้าให้เซ็น เอ็มโอยู(MOU) ไม่เซ็นนะครับ แต่ให้ความร่วมมือทุกที่ เหตุผลเพราะต้องการตอกย้ำว่าการปรองดองนั้นไม่ได้อยู่ที่การเซ็นเอกสาร แต่อยู่ที่เนื้อหาที่เป็นจริง และที่สำคัญได้ตอกย้ำว่า จะต้องไม่มีการนิรโทษกรรมในความผิดเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นและความผิดตามมาตรา 112 ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่คิดเห็นตรงกันกับคนไทยทั้งประเทศ เรื่องอื่นๆ อาจจะมาพูดคุยกันได้ ดูแลได้ แต่เรื่องกระทำความผิดตามมาตรา 112 และคดีทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ได้ แน่นอนครับเมื่อได้รับการตอบโต้จากนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. บอกว่า "เริ่มต้นลุงกำนันก็ออกมาตั้งเงื่อนไขแล้ว ผมคิดว่าอันนี้ไม่ได้เป็นเงื่อนไข" ต้องกลับไปดูครับคนสำคัญเวลาพูดเรื่องการปรองดอง และผมคิดว่าทิศทางนี้เป็นทิศทางที่ชี้จริงๆ ในเรื่องการปรองดอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดถึงเรื่องการปรองดองชัดเจนมาก บอกว่า จะต้องมาพูดมาคุยกันและการปรองดองนั้นไม่ใช่