"สนธิญาณ" ชี้!! กรณี "โรลส์-รอยซ์" ไม่ใช่แค่สินบน แต่กำหนดเส้นทางบินขาดทุนยับเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย ?

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 25  มกราคม 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : ก็ถือว่าเป็นกระแสต่อเนื่องกันมาหลายวันแล้ว กรณีสินบนโรลส์-รอยซ์ อยากจะเรียนว่างานนี้เป็นข่าวโด่งดังข้ามโลก แต่สำหรับการเอาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ผมคิดว่าไม่หมู เรารู้กันในสมัยที่ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น สินบนการทุจริตคอร์รัปชั่นในเชิงนโยบายต้องถือว่าเป็นไปอย่างกว้างขวาง และภายใต้สถานการณ์นั้นผมจะเรียนว่าได้มีการทำงานกันอย่างเป็นระบบ ความหมายคือจะมีตัวกวาดหรือตัวทำงานในการติดต่อเจรจากับผู้ที่ต้องจ่ายสินบน ผมเรียนว่าตัวรัฐมนตรีเองเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีสิทธิ์ตัดสินใจในการที่จะเรียกรับเท่าไร จะมีกระบวนการที่เรียกว่าตัวกวาดหรือตัวรับผิดชอบเป็นคนเจรจาหมด และเมื่อได้เงินมาเงินส่วนใหญ่จะถูกส่งเข้ากองกลาง รัฐมนตรีก็จะมีส่วนหนึ่งเป็นเพียงค่าน้ำจิ้มเท่านั้น ฉะนั้นกระบวนการทำงานจึงสลับซับซ้อน ข่าวลือในเรื่องคดีสินบนโรลส์-รอยซ์ จึงไปอยู่ที่ผู้หญิงผู้หนึ่งซึ่งเป็นผู้ทรงอำนาจอยู่ในขณะนั้น สื่อเอามาเขียนตัวย่อ พยายามที่จะเฉลยแต่ก็มีการหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้อง แต่ถ้าให้ชัดหนังสือผู้จัดการได้ล้อเลียนเป็นการ์ตูนก็ค่อนข้างที่จะชัดว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทรงอำนาจอยู่ในขณะนั้น มีกระบังลมหรือผมที่ทำเป็นกระบังลมอยู่ข้างหน้า ถ้าท่านผู้ชมสนใจก็เข้าไปเปิดดูในหนังสือพิมพ์หรือเว็บไซต์ของผู้จัดการได้ นั่นคือวิธีการการทำงานที่ผมเอามาเรียนให้ทราบ เราจะเห็นได้ว่าความเลวร้ายในการตัดสินใจเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นนั้นไม่ได้เอาประโยชน์ของประเทศชาติหรือองค์กรรัฐวิสาหกิจมาเป็นตัวตั้ง เราจะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงแผนรัฐวิสาหกิจจากเดิมซึ่งจะต้องซื้อเครื่องบินมือสอง มาสู่การพิจารณาครั้งใหม่ก็คือ วันที่ 23 พ.ย. 2547 การบินตรงทุกคนรู้ว่ามีความสุ่มเสี่ยงในการที่จะขาดทุน เพราะต้นทุนสูงในการใช้น้ำมันมาก แต่เวลาจะทำการอนุมัติ ได้มีการสร้างกระแสการตลาดว่าต่อไปเส้นทางนี้จะประสบความสำเร็จ คนไทยจะบินตรงไปสู่สหรัฐอเมริกา ไม่ต้องแวะกลางทาง ไม่ต้องต่อเครื่องบิน ความหมายตรงนี้ผมเรียนนะครับ ว่าการบินในเส้นทางไกล บางครั้งจะต้องบินแล้วพักเป็นช่วงแล้วบินต่อ ก็มาสร้างกระแสการตลาดขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดเอาเข้าจริงๆ แล้วเป็นเรื่องของการสร้างการตลาดของกระบวนการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลในสมัยนั้น ทุกโครงการเวลาจะทุจริตคอร์รัปชั่นในเชิงนโยบายก็จะทำกันแบบนี้ ที่สุดงานนี้ไม่หมูในการที่จะหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามที่ผมได้เรียนไปแล้วเมื่อสักครู่ ก็เนื่องจากว่าการกระทำซับซ้อน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรี , นายทนง พิทยะ เป็นประธานบอร์ด, นายกนก อภิรดี เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของการบินไทยจริงออกมาท้าทายว่าให้ตรวจสอบได้เลย ผมว่ายาก จะแตกต่างจากกรณีใกล้เคียงครับ กรณีสินบนของผู้ว่า ททท. ของคุณจุฑามาศ ศิริวรรณ กับลูกสาวซึ่งได้มีการจ่ายในการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ระหว่างปี 2546 และ 2550 ตรงนั้นชัดเจนเลย เพราะได้มีการจ่ายมาที่ตัวลูกสาวและมีพยานหลักฐานในการเชื่อมโยงไปสู่อดีตผู้ว่า ททท. ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นในเดือน มกราคม พ.ศ. 2553 สหรัฐอเมริกาเขาฟ้องไปที่คุณจุฑามาศ ศิริวรรณ โดยตรงเลย ทีนี้ผมเอาเรื่องนี้มาเปรียบเทียบเนื่องจากว่าทั้งสองกรณีคล้ายกัน ในเรื่องการมาเปิดเผยสินบนมาจากต่างประเทศแบบเดียวกัน แต่แบบคุณจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่า ททท. ซึ่งมาจากสหรัฐอเมริกาได้เปิดตัวมาเลยว่าคุณจุฑามาศโดยลูกสาวได้มีการเชื่อมโยงเกี่ยวข้องแบบนี้ รับสินบน คดีคุณจุฑามาศ ศิริวรรณ จึงทำให้ ปปช. มาทำการสอบสวนและมีมติชี้มูลความผิดจนสามารถที่จะส่งฟ้องศาลได้ ดำเนินการมานานแล้วก็เพิ่งมาฟ้องศาลกันปี พ.ศ. 2558 เรามาดูต่อว่าจากกรณีของโรลส์-รอยซ์ ตามข่าวที่เปิดเผยออกมากว่า 200 ล้านบาทในการจ่ายสินบน นั่นเป็นการจ่ายครั้งที่ 3 นะครับ จำนวน 254 ล้านบาท คือ 72 ล้านเหรียฐสหรัฐฯ ที่เปิดเผยมาก็จ่ายกันหลายครั้ง แต่รับรองได้ว่าไม่มีข้อมูลตรงไหนเลยจะเชื่อมโยงมายังนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายทนง พิทยะ หรือนายกนก อภิรดี ซึ่งเป็น 3 ผู้บริหาร ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ฉะนั้นก็ต้องกลับมาดูสิ่งที่ต้องมาหา วันนี้ ปปช. ลงมาแล้ว การอนุมัติครั้งนั้นขาดทุนเป็นหมื่นล้านบาท ทำให้การบินไทยทรุดมีปัญหา ก็ต้องกลับมาดูว่าตอนที่เสนอกรรมชี้มาที่เจตนาหรือไม่ หนทางที่จะหาตัวผู้กระทำความผิดมาได้ เป็นประเด็นที่ผมหยิบยกมาให้ท่านผู้ชมได้เห็นภาพว่า ในยุคสมัยนั้นการทุจริตคอร์รัปชั่นทำงานกันอย่างไร