"สนธิญาณ" ฟันธง!! ขู่ฆ่า "บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่" แค่ "แดงหมิ่นข้ามโขง" หวังเลี้ยงกระแสคนเสื้อแดงไม่ให้หนีหาย-เรื่องนี้หวังผลทางการเมือง

"สนธิญาณ" ฟันธง!! ขู่ฆ่า "บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่" แค่ "แดงหมิ่นข้ามโขง" หวังเลี้ยงกระแสคนเสื้อแดงไม่ให้หนีหาย-เรื่องนี้หวังผลทางการเมือง ยันชัดคนพวกนี้ไม่มีเลิกรา แต่ราคาไม่มี

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการบริษัท ทีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สนธิญาณ : เชื่อไหมครับ เรื่องข่าวขู่ฆ่าพลเอกประยุทธกับพลเอกประวิตรเนี่ย คิดว่าฝ่ายรัฐบาลสร้างข่าวขึ้นมาเองเพื่อกลบเกลื่อน เหมือนกับที่คนบางกลุ่มว่า หรือว่ามันมีการขู่ฆ่าจริง คุณยุคลเชื่อข้างไหน

 

ยุคล : ไม่เชื่อว่ารัฐบาลกุขึ้นมานะครับ แต่จะเป็นอีกฝั่งนึง จะขู่ฆ่าจริงหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจครับ

 

สนธิญาณ : ข่าวขู่ฆ่าเนี่ยนะครับต้องเรียนแบบนี้ ทันทีที่เกิดขึ้นเนี่ยนะครับ แสดงว่ามันไม่ได้คิดจะฆ่าจริงๆ ต้องเรียนแบบนี้ เพราะถ้าคิดจะฆ่า มันต้องไม่ขู่ นึกออกไหมครับ ถ้าคิดจะฆ่าต้องวางแผนฆ่าเลย เพราะฉะนั้นถ้าขู่ขึ้นมาเนี่ย ก็แสดงว่ามีประเด็นที่ต้องการให้เกิดผลจากการขู่ ดังนั้นข่าวขู่ฆ่าเนี่ยเป็นจริง เพียงแต่มาจากใครนะครับ อันแรก มาจากพวกต้องการความมันนะครับ ต้องการความเว่อร์ ก็ขู่ให้มันรู้สึกว่ามีเรื่องตื่นเต้นขึ้น นะครับ สนุก อีกพวกนึงก็จะมาจากคนที่ต้องการวัตถุประสงค์ทางการเมือง หรือมีวัตถุประสงค์ทางการเมือง คุณยุคล โดยข้อสรุปจากของเรื่องนี้นะครับ อยู่ในประเด็นหลัง คือมีข้อสรุปทางการเมือง ทำไมมีข้อสรุป ว่าเป็นเรื่องทางการเมืองล่ะครับ ก็ดูจากคำให้สัมภาษณ์ของพลเอกประยุทธ จันทรโอชาได้ นะครับ ก็อยู่ในโซเชียลมีเดีย กำลังหาตัวอยู่ ต้องถามว่า เอาข้อมูลมาจากไหน มาโพส เพราะว่า มีพวกละเมิดสถาบันอยู่ต่างประเทศ คนพวกนั้นแหละ พูดก่อน พวกเธอจะไม่ดูแลชั้นรึ ผมเองก็ไม่ได้ประมาทและท้าทายใคร แต่คิดว่าผมทำแต่ความดี ฉะนั้นใครไม่เห็นความดีของผมก็ช่วยไม่ได้ ชะตาชีวิตทุกคนมีอยู่แล้ว แต่ผมเห็นแต่ชะตากรรมของประเทศมากกว่าชีวิตผม นี่เป็นคำให้สัมภาษณ์ของพลเอกประยุทธที่ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ข้อสรุปอยู่ในตอนต้นของคำให้สัมภาษณ์ มีจริง กระบวนการเรื่องนี้เนี่ยเชื่อมโยงมาจากฝั่งลาว คุณยุคล ใครที่แอบแฝงอยู่ฝั่งลาวทำวิทยุ ส่งข้ามแม่น้ำโขงมาก่อกวน ที่เป็นประเด็นจนพลเอกประวิตรจะต้องส่งนายทหารระดับสูง ส่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติไปเจรจาก็ทีมของโกตี๋ คงจะจำและก็คุ้นชื่อนี้กันอย่างดีนะครับ อยู่ที่ฝั่งลาว ประเด็นต่อมาก็คือว่า จะใช่โกตี๋หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาโดยพฤติกรรมเนี่ย คือโกตี๋ก็ชอบแบบประเภทถึงลูกถึงคน ชนอยู่แล้ว ได้แสดงแอคชั่น ได้แสดงความอหังการของตัวเองเนี่ย ชอบมาก ที่นี้เราก็มาดูต่อว่าการที่เอาข่าวมาทำและหวังผลทางการเมืองเนี่ย หวังอย่างไรนะครับ โอกาสที่จะทำได้ มีมากน้อยไหม ย้ำเลยนะ โอกาสที่จะทำได้เนี่ย น้อย คือการรักษาความปลอดภัยนะครับ บุคคลสำคัญของ คสช. นายกรัฐมนตรีเนี่ยค่อนข้างจะเข้มงวดอยู่แล้ว ลองออกข่าวก่อนแบบนี้มันขู่แน่นอน ไม่ได้คิดจะทำ แต่ก็ต้องเรียนนะครับ เราทำความเข้าใจมันขู่สนุกไหม ไม่หรอกครับ หวังผลทางการเมือง เพื่ออะไร ก็เพื่อพรรคพวกให้เครือข่ายของตัวเองนะ เชื่อว่า ยังไม่ตาย การต่อสู้ของอีกฝากฝั่งนึงเนี่ย ยังมีลมหายใจ ยังมีชีวิตอยู่ นะครับ ทีนี้ก็ต้องกลับมาดูว่า ไอ้ลมหายใจยังมีชีวิตอยู่เนี่ย นะครับ ของขบวนการก่อกวน ก่อเหตุ ก่อการร้าย ให้กับประเทศไทยเนี่ย มันมีและดำรงคงอยู่จริงหรือไม่ อันนี้ท่านผู้ชมจะต้องไตร่ตรองข้อที่ 1 เราพูดถึงเรื่องชายชุดดำต่อเนื่องมาจากปี 53 นะ คดีที่ศาลเพิ่งพิพากษาไปใช่ไหม คุณยุคล ชายชุดดำ ก่อนหน้านั้นเนี่ย ก่อนหน้าจะมีปฏิบัติการเนี่ย ได้มีการโพสภาพก่อน จำได้ไหมครับ ว่ามีการฝึกนักรบพระเจ้าตาก มีการฝึกโน่นฝึกนี่ ไม่ได้ใช้อาวุธจริงใส่ชุดดำแต่ก็พรางหน้า ทำหน้าไม้โน่นนี่นั่น โดยหลักการเนี่ยมันไม่ควรจะมาโพสก่อน แต่ตอนนั้นเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ก่อนที่จะมีการชุมนุมใหญ่ในปี 53 ให้สอดคล้องกับสิ่งที่อริสมันต์ พงศ์เรืองรองมาพูดไว้ว่าจะมีกองกำลังชายไม่ทราบฝ่ายเนี่ยนะครับ ออกมาช่วยการชุมนุมของคนเสื้อแดง ข้อสรุปที่ผมกำลังจะเรียนท่านผู้ชม คุณยุคลก็คือ เวลาจะปฏิบัติการใช้ความรุนแรงหรือใช้กำลังอย่างใดอย่างนึง มันมีการฝึกฝน และการฝึกฝนอย่างเดียวไม่ได้ครับ มันต้องมีสายโยงใยการจัดตั้ง การบังคับบัญชาที่จะวางแผนและก่อยุทธการให้เกิดการปฏิบัติการขึ้น ดังนั้นกระบวนการเหล่านี้เนี่ยนะครับ เป็นกระบวนการที่อยู่บนการปฏิบัติการความรุนแรงได้ตลอดเวลา ขบวนการนี้มีจริงในประเทศไทย ดังนั้นการปฏิบัติการในปี พ.ศ.2553 ต่อเนื่องถึงเมษา พฤษภาก็ได้แสดงศักยภาพให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น จบไหม ไม่จบหรอกครับ การชุมนุมของ กปปส.นะครับ ขบวนการติดอาวุธ ขบวนการสร้างความรุนแรงเนี่ยนะครับยังปฏิบัติการต่อเนื่อง นะครับ อยู่วันดีคืนดีนะครับก็มาขว้างระเบิดตรงโน้นตรงนี้ยิงใส่ เหมือนที่อนุสาวรีย์ชัยนะครับโยนระเบิด อำมหิตนะครับ โยน โยน ทำแบบนี้เนี่ย คนธรรมดาไม่ได้รับการฝึกฝน ไม่ได้หรอกครับ การจะมาปฏิบัติการก่อความรุนแรงอย่างเป็นระบบเป็นกระบวนการเนี่ย เหมือนผมเรียน ไม่ใช่มา เฮ้ยชวนๆกันแล้วไปกินขนมกันในห้างสรรพสินค้า หรือมาๆๆๆ แล้วก็ไปเที่ยวกัน ไม่ใช่แบบนั้น มันมีการฝึก นั่นคือเหตุที่ก่อเนี่ยนะครับ ในปี 58 นะครับ ในปี 58 เดือนมีนาคม เกิดเหตุอะไรขึ้น 7 มีนา 58 เกิดเหตุ ขว้างระเบิด ที่ศาลอาญา คงจำกันได้ นายมหาหิน ขุนทอง เป็นการปฏิบัติการในวันนั้นเค้าบอกว่าไล่ยิงกันอย่างกับในหนัง พูดให้เห็นเหตุการณ์ ผมทบทวนให้ท่านผู้ชมได้เห็นสถานการณ์ หลังจากนั้นจับนายมหาหินได้ นายมหาหินบอกว่าไง นายมหาหินบอกว่า พวกผมรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ 9 คน 10 คน มาศึกษาประชาธิปไตยใหม่กัน และวางแผนที่จะก่อเหตุโดยการเชื่อมโยงติดต่อจะไม่รู้จักกัน ตั้งใจว่า จะวางระเบิด 100 จุด เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ต่างชาติเข้ามา กองกำลังต่างชาติเข้ามา นายมหาหิน ซึ่งเป็นคนหาเช้ากินค่ำโดยปกติเนี่ย จะพูดเรื่องยุทธศาสตร์แบบนี้ได้ไหม ถ้าไม่ได้รับการฝึกฝน ไม่ได้รับการสั่งสอนให้เกิดกระบวนการแบบนี้ จบคดีนายมหาหิน ไม่จบอะ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อปีที่แล้วเนี่ยเป็นไงล่ะครับ ปีที่แล้ว 7 จังหวัดทั้งระเบิดและวางเพลิง ระหว่างวันที่ 10-12 สิงหาคม ชัดไหมฮะ ปฏิบัติการได้ขนาดนั้นไม่ธรรมดาล่ะครับ เป็นขบวนการแน่นอน แม้จะมีเสียงโยงใยไปที่ใต้ นะครับ ก่อนหน้านั้น มีระเบิดอีกไหมฮะ ระเบิดอีกครับที่พระพรหมเอราวัณ ขบวนการเหล่านี้ เห็นไหมฮะ ยังทำต่อเนื่อง มีนา สิงหา สิงหาอีกปีนึง เดินต่อเนื่อง มาโดยตลอด 58 59 เพราะฉะนั้นเนี่ยนะครับ การปลุกขวัญกำลังใจให้รู้ว่าเรายังสู้กันต่อในทุกระดับเนี่ย พวกนี้ยังพยายามอยู่ จะทำได้จริงไม่ได้จริง ศักยภาพน่ะต่ำต้อยแน่นอนครับ ณ นาทีนี้ ผมเรียนได้ว่า โอกาสก่อให้เกิดผลสำเร็จเนี่ย น้อย แต่จะบอกให้รู้ว่าเชื้อชั่วยังไม่ตายนะครับ เชื้อชั่วยังไม่ตาย ยังจะต้องติดตามและก็เฝ้าดูกันต่อไปนะครับ ประมาทไม่ได้ เพราะนาทีนี้เวลานี้นะครับ ไอ้ขบวนการต่อสู้ นะครับ ที่เริ่มตั้งแต่ต้นเพื่อจะเอาทักษิณกลับบ้าน ตอนนี้สำหรับทักษิณ ชินวัตร ผมเรียนได้ว่า ปิดประตูตาย เพราะฉะนั้น ความพยายามของทักษิณที่ทุ่มเททั้งหมดในการที่จะกลับประเทศไทยโดยไม่ต้องรับโทษเนี่ย มีทางเลือกอยู่เวลานี้สองทางคือ เลิก เห็นแล้วไม่ไหว กับสอง เป็นไปตามที่ทักษิณว่า ถ้าชั้นอยู่ไม่เป็นสุข ก็อย่าอยู่กันเป็นสุขเลย เพราะฉะนั้นข่าวนี้นะครับ ไม่ใช่ไม่มีมูลนะครับ มีมูล แต่ไม่ได้หวังผลในการที่จะเปิดปฏิบัติการหรอก ก็แค่สร้างกระแสทางการเมือง แต่ผมมาตอกย้ำและเรียบเรียงให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนเหล่านี้ยังทำเป็นกระบวนการอยู่    

 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม   "สนธิญาณ" ชี้ !! 10 เมย. 53 กับคดีชายชุดดำ ที่ศาลสั่งจำคุกต้องไม่มีการนิรโทษกรรม ต้องหาความจริงให้ได้ใครฆ่าทหารและประชาชน

 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม   "สนธิญาณ" ชี้ !! เรื่องรัฐประหารซ้ำ-รัฐประหารซ้อน ไม่น่ามีโอกาส กองทัพเป็นเอกภาพ เว้นแต่ปรองดองกันไม่ได้ตาม พล.อ.ประวิตร ว่า จะขู่หรือไม่โปรดติดตาม??