สนธิญาณ ชี้!! ทุกปีประเพณีสงกรานต์ ผู้นำประเทศและ ผบ.เห่ล่าทัพจึงต้องมาขอพร"พลเอกเปรม" เพราะคุณความดี ซื่อสัตย์ สุจริต ถวายชีวิต ชาติ ศาสนา

รายการ "ยุคลถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 11 เมษายน 2560 ออกอากาศทางช่อง ไบรท์ทีวี หมายเลข 20 ดำเนินรายการโดย คุณยุคล วิเศษสังข์ (หนึ่ง) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) บรรณาธิการอำนวยการ สำนักข่าวทีนิวส์ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

 

สนธิญาณ ชี้!! ทุกปีประเพณีสงกรานต์ ผู้นำประเทศและ ผบ.เห่ล่าทัพจึงต้องมาขอพร"พลเอกเปรม" เพราะคุณความดี ซื่อสัตย์ สุจริต ถวายชีวิต ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

สนธิญาณ : มันเป็นคำถามอย่างหนึ่งนะในสังคมไทย ที่ควรจะต้องมีคำตอบ ว่าทำไมนะประเพณีสงกรานต์หรือวันเกิดของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ทุกปีคุณยุคล ทำไมบรรดาผู้บริหารประเทศและบรรดานายทหารทั้งหลายจึงต้องไปคารวะและขอพรต่อพลเอกเปรม จะบอกว่าเพราะท่านเป็นประธานองคมนตรีก็ไม่น่าจะใช่ เพราะประธานองคมนตรีก่อนท่านคือท่านอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์นะครับ ก็ไม่เคยมีประเพณีอย่างนี้ คำตอบเหรอครับ เพราะพลเอกเปรมเป็นพลเอกเปรม เป็นนายทหารผู้ซื่อสัตย์ มีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อันนี้ชัดเจนครับ ดังนั้น คำตอบนี้เนี่ยนะครับก็ต้องไปไล่เรียงดูว่าในประวัติชีวิตของพลเอกเปรมเป็นมาอย่างไร แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นเนี่ยนะครับ เห็นหรือเปล่าครับว่าเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา พลเอกเปรมได้นำคณะองคมนตรีเข้าถวายสัตย์ต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 วันนั้นเนี่ยนะครับ คนไทยทั้งประเทศได้ยินว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 มีพระราชดำรัสกับคณะองคมนตรีที่เข้าเฝ้าว่าอย่างไร ผมจะขอ ...
 ยุคล : คุณสนธิญาณครับ สายน่าจะหลุดไปนะครับ เมื่อซักครู่เหมือนมีเสียงช็อตนิดนึงครับ เดี๋ยวรออีกแปปนึงครับ กำลังพูดถึงการตั้งคำถามแรกเริ่มนะครับว่า ทำไมแต่ละปี พอถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือในวาระสำคัญ บรรดาผู้นำรัฐบาลหรือว่าผู้นำเหล่าทัพก็จะตบเท้ากันเข้าไปขอพรจากผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองคนหนึ่งเลยนะครับก็คือพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนะครับ ก็หลังจากที่เมื่อวันที่ผ่านมานะครับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะ คสช.ได้นำ ครม.และก็บรรดาคณะผู้นำเหล่าทัพนะครับเดินทางไปขอคำอวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์จากพลเอกเปรมนะครับ ก็เป็นภาพบรรยากาศแห่งความชื่นมื่น ภาพบรรยากาศแห่งความสุข ความเคารพที่มีต่อผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองนะครับ เอาล่ะครับตอนนี้คุณสนธิญาณกลับมาแล้ว เชิญต่อเลยครับ คุณสนธิญาณครับ
 สนธิญาณ : ครับผม ก็ต้องอัญเชิญพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งได้มีให้กับบรรดาคณะองคมนตรีที่พลเอกเปรมได้นำเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณในวันนั้น 
"ขอบใจ และแสดงความยินดี ขอบใจที่มีน้ำใจช่วยงาน ที่ว่าคณะองคมนตรีในยุคนี้ ปัจจุบันนี้ก็จะได้รับการมอบภารกิจ ตลอดจนได้รับโอกาส หรือหน้าที่ที่จะให้คำแนะนำ ตลอดจนช่วยกันดำรงความมั่นคงสถาบันของประเทศชาติ ตลอดจนแบ่งงานกันให้ละเอียดอีกครั้งว่าใคร ทำอะไร เรื่องทำงานก็จะให้ขอคำแนะนำ ตลอดจนปรับความสำคัญในการทำงานของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายเกี่ยวกับสถาบันและประเทศชาติ เป็นเรื่องของแผ่นดิน มีเรื่องต่าง ๆ ที่จะมอบให้ก็มาก ดังที่ได้คุยกันนอกรอบแล้ว ขอขอบคุณ และได้ป๋ามาเป็นประธาน ก็อุ่นใจแล้ว ทุกคนก็เคยทำหน้าที่ถวายรัชกาลก่อน หลายคนก็เชื่อมือกัน มีความสุข ตั้งใจทำงานได้ ขอบคุณ" 
 สนธิญาณ : ผมอยากจะตอกย้ำว่าพระราชดำรัสที่อัญเชิญมาเพียงประโยคเดียวสั้นๆว่า ได้ป๋ามาเป็นประธาน ก็อุ่นใจแล้วนั้น ผมคิดว่าเป็นคำตอบทุกสิ่งทุกอย่างครับ ที่วันนี้นายกรัฐมนตรี คสช.และผู้นำเหล่าทัพในปัจจุบันและในอดีตที่ผ่านมาได้แสดงประเพณีอันงดงามในการเข้าคารวะและขอพรจากพลเอกเปรมเสมอมา คุณยุคลครับ พลเอกเปรมนะครับ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้ที่นำแนวคิดในการจัดการแก้ไขปัญหาความแตกแยกทางความคิดกับพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย โดยจะออกคำสั่งที่ 66/23 ทำให้เรื่องราวจบลงด้วยดี การฆ่าฟันระหว่างคนไทยต้องยุติลง มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ของประเทศนะครับ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2523 จนถึง 2531 แปดปีเต็มครับคุณยุคล ท่านผู้ชมครับ เลือกตั้งเสร็จ พรรคร่วมรัฐบาลไปเชิญพลเอกเปรมมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก คำตอบคือ ผมพอแล้ว จะมีใครซักกี่คนครับอยู่ในอำนาจแล้วเอ่ยถ้อยคำแบบนี้ออกมา มีแต่แสวงหาอำนาจไม่จบสิ้น เพราะอะไรครับ เพราะส่วนใหญ่ต้องการประโยชน์ให้กับตัวเอง ชื่อเสียง วงศ์ตระกูล ทรัพย์สินเงินทอง โดยเฉพาะบรรดานักการเมืองทั้งหลายเนี่ยนะครับ ไปเล่นการเมืองตั้งแต่ยากจน จนร่ำรวยน่ะ ส่วนใหญ่เป็นแบบนั้น เราก็มาดูซิครับหลังจากพลเอกเปรมบอกว่า ผมพอแล้ว นะครับ ในวันที่ 23 สิงหาคม ไม่กี่วันนะครับหลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ก็ได้มีพระบรมราชโองการในวันที่ 23 สิงหาคม 2531 โปรดเกล้าพลเอกเปรมเป็นองคมนตรีครับ และจากนั้นอีก 6 วันในวันที่ 29 สิงหาคม 2531 ก็ได้รับโปรดเกล้ายกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ อีก 10 ปีถัดมา หลังจากที่สิ้นอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ในฐานะประธานองคมนตรี พลเอกเปรมก็ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ให้เป็นประธานองคมนตรี และที่สำคัญย้ำนะครับ เมื่อคนไทยสูญเสียพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงขึ้นครองราชย์ พระองค์ท่านก็โปรดเกล้าให้พลเอกเปรมเป็นประธานองคมนตรีอีกครั้ง ซึ่งเพียงพอที่จะมีคำตอบให้คนไทยทั้งประเทศ ทั้งที่ชอบหรือไม่ชอบพลเอกเปรมให้เข้าใจซักทีนึงนะครับว่าทำไมพลเอกเปรมจึงมีสถานะที่บรรดากองทัพ ผู้บริหารประเทศให้ความเคารพเชื่อถือ เกียรติภูมิ ผลงาน ความซื่อสัตย์สุจริต เป็นเรื่องเฉพาะตัวที่ท่านได้ทำให้กับบ้านเมืองในฐานะธรรมดาสามัญชน คนหนึ่งครับผม สวัสดีครับ