ระอุอีกครั้ง!! เมื่อ"สหรัฐฯ" ซ้อมรบร่วมเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ พร้อมจัดการขั้นเด็ดขาด ขณะที่จีน รัสเซีย จับมือ ต้านติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ

การซ้อมรบครั้งใหญ่ประจำปีระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้เปิดฉากขึ้นแล้วในวันที่ 1 มีนาคม 2560 ขณะที่ผู้นำ คิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือได้มีคำสั่งไปยังทหารเกาหลีเหนือทุกกรมกองให้พร้อมยิงทำลายกองกำลังของศัตรู โดยไม่ต้องปรานี

การซ้อมรบภายใต้รหัส คีย์ รีโซล์ฟ และ โฟล อีเกิล ซึ่งกินเวลาประมาณ 2 เดือนทำให้คาบสมุทรเกาหลีร้อนระอุขึ้นเป็นประจำทุกปี และสำหรับปีนี้สถานการณ์ดูเหมือนจะล่อแหลมเป็นพิเศษ เนื่องจากเกาหลีเหนือเพิ่งทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่ โฆษกกองกำลังสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ ระบุว่า กำลังพลที่เข้าร่วมภารกิจฝึกซ้อมในปีนี้ไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา โดยการซ้อมรบในปี 2016 มีทหารเกาหลีใต้เข้าร่วมถึง 300,000 นาย และทหารอเมริกันอีกราว 17,000 นาย รวมไปถึงหมู่เรือรบทางยุทธศาสตร์ และเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ

ภารกิจซ้อมรบ โฟล อีเกิล จะใช้ทหารอเมริกันประมาณ 3,600 นาย แต่ไม่ยืนยันตัวเลขที่ชัดเจน โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พลเอกเจมส์ แม็ตทิส โดย เน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการฝึกซ้อม ให้เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม ซึ่ง ทางสหรัฐฯ พร้อมที่จะตอบโต้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมหากเกิดการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์
 

ขณะที่มีผู้ประท้วงหลายสิบคนได้ไปชุมนุมที่ด้านหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงโซล เพื่อคัดค้านปฏิบัติการซ้อมรบร่วม ซึ่งพวกเขามองว่า จะยิ่งทำให้คาบสมุทรเกาหลีเสี่ยงต่อการเกิดสงครามนิวเคลียร์

 

ทางด้านเกาหลีเหนือกล่าวหามาโดยตลอดว่าการซ้อมรบประจำปีระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้มีเจตนาเพื่อรุกราน เกาหลีเหนือ ขณะที่เกาหลีใต้และสหัฐฯ ยืนยันในวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตนเอง

ขณะที่ผู้นำ คิม จอง อึน ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกองบัญชาการทหารแห่งหนึ่ง และสดุดีเหล่าทหารที่ คอยจัดการพวกศัตรูจากสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ซึ่งพยายามทุกวิถีทางที่จะรุกรานเกาหลีเหนือ โดยผู้นำเกาหลีเหนือสั่งให้กองทัพ เตรียมมาตรการตอบโต้ที่สมบูรณ์แบบและไร้ความปรานี หากถูกกองกำลังของศัตรูโจมตีทางอากาศอย่างไม่คาดฝัน

 

 

ด้านฮวาง เคียว อันห์ นายกรัฐมนตรีและรักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันครบรอบการประกาศอิสรภาพจากญี่ปุ่น 1 มีนาคม โดยยืนยันว่า กองทัพเกาหลีใต้พร้อมที่จะตอบโต้พฤติกรรมยั่วยุของเกาหลีเหนืออย่างเจ็บแสบ และเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีบทลงโทษที่หนักหน่วงยิ่งขึ้นต่อเกาหลีเหนือ และจะยกระดับความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รวมถึงนำระบบป้องกันขีปนาวุธล้ำสมัยเข้ามาติดตั้งในประเทศ

 

 

 

 

สหรัฐฯ และเกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงเมื่อปีที่แล้วว่าจะนำระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (THAAD) เข้าไปติดตั้งบนคาบสมุทรเกาหลี เพื่อสกัดภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์และจรวดของเกาหลีเหนือ ทว่าเรื่องนี้ก็สร้างความไม่พอใจต่อรัฐบาลจีน ซึ่งเกรงว่าระบบเรดาร์อันทรงพลังของ THAAD อาจสอดแนมเข้าไปถึงดินแดนของตน และเป็นภัยต่อความมั่นคงของปักกิ่ง โดยกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ได้เซ็นสัญญาแลกที่ดินกับบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ ล็อตเต้ เมื่อวันอังคาร ที่ผ่านมา โดยจะใช้ที่ดินผืนดังกล่าวติดตั้งระบบ THAAD ที่สหรัฐฯ จะส่งเข้ามายังเกาหลีใต้ภายในปีนี้

กระทรวงการต่างประเทศจีนเตือนว่า ระบบ THAAD เป็นภัยต่อความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ ของภูมิภาค และขอให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ระวัง ผลที่จะติดตามมา
 

จีนและรัสเซีย มีความเห็นตรงกันที่จะช่วยกันยกระดับการร่วมมือกันกันคัดค้านการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธชั้นบรรยากาศระดับสูง หรือว่า THAAD ของสหรัฐฯในเกาหลีใต้ โดยทางด้านเกาหลีใต้ นั้นบอกว่าระบบดังกล่าวนั้น เพื่อไว้ป้องกันภัยคุกคามจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ แต่ทางด้าน จีน และรัสเซีย นั้นมีความกังวลว่า ระบบดังกล่าว ที่มีเรดาห์ ตรวจจับที่มีประสิทธิภาพสูง จะสามารถสอดแนมเข้าไปในประเทศของเขาได้ และจะทำให้เกิดบ่อนทำลายความมั่นคง และที่สำคัญจะยิ่งทำให้ความตึงเครียดบนคามบสมุทรเกาหลี ยิ่งสูงขึ้น และอาจจะนำไปสู่สงครามเกาหลีรอบใหม่

 

 

 

ล่าสุด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ของจีน และ รัสเซีย ก็เห็นตรงกัน ว่าทั้งสองฝ่ายจะช่วยกันยกระดับความร่วมเมือเพื่อคัดค้าน การติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธชั้นบรรยากาศระดับสูง หรือว่า THAAD ของสหรัฐฯในเกาหลีใต้ โดยทั้งสองนั้น จะใช้มาตรการ ตอบโต้ แต่ก็ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดว่า การตอบโต้ นั้นจะกระทำด้วยวิธีการใด

ด้านกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงในสัปดาห์นี้กับเครือข่ายของกลุ่มบริษัท ล็อตเต้ กรุ๊ป ในการขอที่ดินทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซลเพื่อติดตั้งระบบขีปนาวุธนี้ ข้อตกลงดังกล่าวนำมาซึ่งเสียงประท้วงจากสื่อทางการจีนที่เรียกร้องให้คว่ำบาตรรถยนต์และโทรศัพท์เกาหลีใต้และให้ประชาชนเลี่ยงสินค้าบันเทิงส่งออกจากประเทศนี้ โดยทางด้านหน่วยงานความมั่นคงของเกาหลีใต้ ให้ข้อมูลว่า ระบบขีปนาวุธนี้จะถูกติดตั้งและพร้อมใช้งานในปีนี้

 

Sathaporn Tnews.