- 21 มิ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
กลุ่มส่งเสริมอาชีพสตรีเจ๊ะบิลัง (บ้านขนมผูกรัก) ต้องเร่งทำขนมผูกรักให้ทันออเดอร์ลูกค้าที่สั่งเข้ามาหลายร้อยกิโลกรัมในช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศิลอดของพี่น้องไทยมุสลิม และเมื่อใกล้จะสิ้นสุดเดือนรอมฎอน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างสั่งขนมดังกล่าวเพื่อใช้ในวันฮารีรายา หรือการเฉลิมฉลองหลังสิ้นสุดการถือศิลอด ทำให้กลุ่มต้องเร่งทำเพื่อให้ทันส่งลูกค้าที่สั่งเข้ามามากและตอนนี้ก็ปิดรับออเดอร์แล้วหวั่นจะผลิตให้ไม่ทัน
นางชไมพร หมันสง่า ประธานกลุ่มส่งเสริมอาชีพสตรีเจ๊ะบิลัง(บ้านขนมผูกรัก) กล่าวว่า กลุ่มนี้ได้ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 57 ตลอดเวลาได้ทำการปรับปรุงสูตรมาตลอดเพื่อให้ถูกปากลูกค้าและพัฒนาให้เก็บไว้ได้นานจนถึงตอนนี้ขนมผูกรักสามารถเก็บได้นานถึง 1 เดือนด้วยการผัดไส้ให้แห้งมากที่สุด และเทคนิคการใช้ไฟแรงทำให้ขนมกรอบและไม่เหม็นหืนและเน้นความสะอาด แต่ส่วนใหญ่แล้วขนมดังกล่าวจะเก็บได้ไม่นานเพราะความอร่อย กินเพลินทำให้ขนมแต่ละถุงหมดเร็วโดยไม่รู้ตัว จุดเด่นของขนมผูกรักนอกจากความกรอบอร่อยชื่อขนมที่ฟังง่ายติดตลาดและเป็นมงคลแล้ว ยังอยู่ที่ไส้ ซึ่งกลุ่มจะใช้ปลาทูแขกที่พ่อบ้านหามาได้มาทำเป็นไส้รสชาดหวานมันเผ็ดเล็กน้อยวัตถุดิบจะใช้ของสดจริงๆขึ้นมาจากทะเลก็นำมาต้มและผัดไส้ทันที นอกจากนี้ยังมีไส้กุ้งและไส้ถั่วเหลืองซึ่งเป็นไส้หวานสำหรับคนที่ไม่กินอาหารทะเล เราก็มีทางเลือกให้แต่ที่นิยมส่วนใหญ่คือไส้ปลา ราคาที่ขายขายส่งก.ก.ละ200 บาท
หากใส่เป็นกล่องจะอยู่ที่กล่อง 35 บาท หรือ3 กล่อง100 หากซื้อเป็นของฝากก็จะนิยมซื้อแบบถุงละ 50 บาท ขณะนี้ขนมผูกรักได้คัดสรรเป็นสินค้าโอท็อประดับ 4 ดาว และเป็นขนมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจ.สตูลไปแล้วเนื่องจากทุกเทศกาลขนมชนิดนี้จะได้รับความนิยมมาก อย่างเช่นเทศกาลฮารีรายาที่จะมาถึงในปลายเดือนนี้ก็มีการสั่งมากมากจนกลุ่มต้องปิดรับออเดอร์เพราะเกรงว่าทำให้ไม่ทัน เนื่องจากเราต้องใช้คนทำและสามารถผลิตได้สูงสุดวันละ 60-70 ก.ก.เท่านั้นซึ่งหมายถึงว่าต้องทำตั้งแต่เช้าไปจนถึงตี3 ของแต่ละวัน เท่ากับว่าเฉพาะเดือนมิ.ย.60นี้เรามีรายได้วันละ 14,000 บาท หากเป็นวันธรรมดากลุ่มจะทำวันละ 30 ก.ก.ทำแค่ตอนเที่ยงก็เสร็จ เฉลี่ยรายได้เดือนละ180,000-200,000 บาท ซึ่งถือเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้ชุมชนบ่อหลวงแห่งนี้ด้วย
ซึ่งนอกจากคนในกลุ่มที่มีสมาชิก 15 คนช่วยกันทำแล้วยังสร้างอาชีพให้กับแม่บ้าน นักเรียนนักศึกษาที่รับของเอาไปทำที่บ้านโดยจะให้ค่าทำ 9 กรัม 30 บาท แต่ละคนจะมีรายได้วันละหลายร้อยบาทหากผูกขนมได้เร็ว นางชไมพร ยังบอกด้วยว่าไม่เฉพาะเทศกาลฮารีรายาเท่านั้นแต่ทุกเทศกาลไม่ว่าปีใหม่ สงกรานต์ เทศกาลต่างๆ แม้นแต่งานแต่งก็จะใช้ขนมชนิดนี้ใส่ในขันหมากเนื่องจากชื่อที่เป็นมงคล ซึ่งตลาดนอกจากลูกค้าภายในจังหวัดแล้วยังมีลูกค้าต่างจังหวัดทั่วประเทศและลูกค้าจากประเทศมาเลเซียก็มีการสั่งซื้อ ซึ่งนอกจากขนมผูกรักแล้วยังทำปอเปี๊ยะจิ๋วซึ่งใช้แป้งและไส้เดียวกัน สิ่งที่กังวลในตอนนี้คือแป้งห่อซึ่งเป็นแป้งปอเปี๊ยะที่สั่งมาจากมาเลเซีย และในช่วงเทศกาลแป้งมักจะขาดตลาด ซึ่งตนเคยนำแป้งปอเปี๊ยะของไทยมาทำแล้วแต่ไม่ยืดหยุ่น มันหนาและขาดหักไม่สามารถพับหรือผูกเป็นขนมผูกรักได้ จึงอยากให้มีการพัฒนาแป้งปอเปี๊ยะที่มีความยืดหยุ่นสามารถผูกเป็นขนมได้
ภาพ /ข่าว นิตยา แสงมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ประจำจ.สตูล




