ทรภ 1 ตรวจศูนย์เรือประมงฯ หวังปลดใบเหลือง EU บังเกิดผลการประมงไทยให้ยั่งยืนถาวร (คลิป)

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2560 พลเรือโท สุรศักดิ์ เมธยาภา ผอ.ศรชล.เขต 1/ ผบ.ทรภ.1 จังหวัดชลบุรี มอบหมายให้ พลเรือตรี เดชดล ภู่สาระรอง ผอ.ศรชล.เขต 1/รอง ผบ.ทรภ.1 และคณะฯ เข้าตรวจเยี่ยมศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า – ออก(Pi-Po) เรือประมงหลังสวน อ.หลังสวนจ.ชุมพร เพื่อตรวจและรับฟังผลการปฏิบัติงานที่ผ่าน มาตลอดจนปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้อง และข้อเสนอแนะ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่องการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม โดยมี ร.อ.มานะ พิมพ์งาม ผช.หน.ศูนย์ Pipo หลังสวน นำเจ้าหน้าที่ภายในศูนย์ฯ ร่วมให้การต้อนรับและนำเข้ารับฟังการบรรยายสรุป

พลเรือตรี เดชดลฯ กล่าวว่าผลการตรวจทราบว่าในพื้นที่มีการแจ้งเรือประมงหายออกไปจากสารบบ 28 ลำ เจ้าของเรืออ้างว่าได้มีการนำทะเบียนเรือแจ้งและคืนต่อกรมเจ้าท่าแล้ว เพื่อยกเลิกการทำประมงส่วนตัวเรือได้จมลงไปแล้วบางส่วน มีบางส่วนที่ไม่มาแจ้งและไม่ทราบว่าเรือไปอยู่ที่ใด จึงให้เร่งรัดติดตามตรวจสอบเรือในส่วนที่เหลือมาดำเนินการให้ถูกต้องต่อไปส่วนผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาสองปีถึงแม้ว่าการปฏิบัติงานจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยก็ตาม แต่หลังจากนี้การปฏิบัติงานจะต้องเข้นข้นขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้เป็นมาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้ EU ได้เห็นถึงความตั้งใจจริงของการแก้ไขปัญหาทำการประมงของไทย เช่น การตรวจการแจ้งเรือออก (po) ควรให้รวมการอยู่ในท่าเดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ประหยัดเวลาประหยัดคน ประหยัดค่าใข้จ่าย ให้สามารถตรวจสอบเรือได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเรือกลุ่มเสี่ยงให้ได้ 100 % จนบรรลุถึงวัตถุประสงค์ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ส่วนการแจ้งเรือเข้า (pi) ก็ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งการปฏิบัติจะต้องชี้แจงและทำความเข้าใจกับชาวประมงให้เห็นว่าเราทำเพื่อชาวประมงอย่างแท้จริง จนเขาเต็มใจให้ความร่วมมือและเข้าใจว่าการฏิบัติต่างๆ เหล่านี้ผลประโยชน์จะตกกับชาวประมงนั่นเอง

สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนเมษายน 2558 ที่ผ่านมา กลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ได้ให้ใบเหลืองเตือนไทยอย่างเป็นทางการ เนื่องจากไทยไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องการทำประมงผิดกฎหมายหรือ Iuu Fishing ที่สอดคล้องกับหลักกฎหมายสากล โดยประเด็นที่ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษคือ การทำประมงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือใช้เครื่องมือจับปลาที่ผิดกฎหมาย และปัญหาการใช้แรงงานทาสจากการได้รับใบเหลืองจาก EU ในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ไทยต้องเร่งแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรมประมง มิฉะนั้นอาจต้องเผชิญกับการถูกระงับการนำเข้าอาหารทะเลของไทยจาก EU โดย อีไอซี มองว่า ในกรณีที่ EU ระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากไทย อุตสาหกรรมประมงไทยจะสูญเสียรายได้จากการส่งออกประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือในกรณีเลวร้าย มูลค่าดังกล่าวอาจสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท/ปี เลยทีเดียว ดังนั้นรัฐบาลไทย โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพเรือ ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อปลดใบเหลืองจาก EU และประการสำคัญจะบังเกิดผลให้การทำประมงของไทยเกิดความมั่นคงถาวรตลอดไป

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล/นันทพล ทิพย์ศรี   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.ชลบุรี