ช่วยกันเพื่ออนาคตเด็กๆ!!! โซเชียลเเชร์เรื่องราว"ครูถึงวัยเกษียณ" แต่ยังห่วงชะตากรรมโรงเรียนห่างไกล จะทำอย่างไร "ห้องเรียน8ห้องกับครู2คน??

บนโลกออนไลน์ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Phongsathon Chankaew" ได้เปิดเผยข้อความจากการ์ดที่พ่อ ซึ่งเป็นครูโรงเรียนอ่าวมะขาม ม.8 ต.คลองเลียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา โดยเป็นเรื่อง "ห้องเรียน 8 ห้อง กับครูที่เหลือสอน 2 คน"

โดยระบุข้อความพร้อมรายละเอียดดังนี้ " ห้องเรียน 8 ห้อง กับครูที่เหลือสอน 2 คนสองปีที่แล้วเราได้ไปเหยียบโรงเรียนของพ่อครั้งแรก ที่นี่มีเด็กตั้งแต่เตรียมอนุบาลจนถึงป.6 รวมกัน 73 คน ทั้งหมด 8 ห้องเรียน พ่อเรารับหน้าที่เป็นทั้งผู้บริหารและครูผู้สอนไปด้วย ครูคนอื่นก็เหมือนกันมีทั้งงานสอนและงานธุรการให้ต้องทำ ดังนั้นเวลาที่อยู่กับเด็กๆ จึงเหลือน้อยเต็มที่เรายังจำความรู้สึกหลังจากกลับจากโรงเรียนพ่อได้ว่าในใจเรามันหดหู่และอึมครึมมากขนาดไหน

 

 

 

 

โรงเรียนแห่งนี้เปิดประสบการณ์ของเราเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่ทำให้เราได้รู้จักกับ "ครูตู้"ที่เป็นการถ่ายทอดสดการสอนจากร.ร.วังไกลกังวลเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีในการแก้ปัญหาครูขาดแคลนแต่สำหรับเรามันล้มเหลวและน่าเศร้าเพราะครูตู้คือโทรทัศน์มันไม่มีความเป็นมนุษย์การเรียนการสอนแบบนั้นสำหรับเรามันคือการลดทอนความเป็นมนุษย์ของผู้เรียนด้วยเราได้เจอกับภาพของห้องเรียนของพ่อที่มีสองชั้นเรียนโดยแบ่งชั้นเรียนโดยใช้ผนังกั้น และมีเสียงครูตู้ตีกันไปมาที่ตอนแรกเราคิดว่ามันมีแค่ในหนัง "คิดถึงวิทยา"แต่พอเห็นแล้วแบบ เหี้ยยยยยย มันมีจริงๆ โรงเรียนพ่อกูด้วยแล้วเด็กในประเทศกูต้องมาเรียนในสภาพแวดล้อมแบบนี้เหรอวะ

 

 

พ่อบอกเสมอว่า "ถ้าว่างๆ ไปสอนเด็กที่โรงเรียนพ่อสิ"เรากับพี่เลยถือโอกาสเข้าไปสอนเรายังจำแววตาของความโหยหาอันนั้นได้ดีอยากให้ทุกคนนึกภาพ"เด็กแอฟฟริกาผู้หิวโหย ที่กำลังแย่งชิงถุงยังชีพที่โปรยจากฟ้า"ตอนนั้นเราเห็นภาพนั้นภาพที่เด็กๆ สนุกสนานกับการเรียน เต็มที่กับทุกกิจกรรมแย่งกันตอบคำถาม วิ่งเคลื่อนไหวไปมาในเกมที่เราจัดให้มีขึ้นอย่างบ้าคลั่งเรารู้สึกได้ถึงการไล่ตะครุบการเรียนรู้ ตะครุบครูที่มีชีวิตจากเด็กเหมือนคนอดอยากที่ได้กินอาหารทำให้เรารู้ว่าเด็กๆ ของเราเขาโหยหาและรอสิ่งนี้มานานมากขนาดไหนเรายังจำหน้าน้องเด็กผู้หญิงที่โคตรหัวไว สอนครั้งเกียวตอบได้หมดน้องเด็กผู้ชายจอมแก่นที่ตอบผิดตลอดแต่ชอบตอบมากๆ ได้อยู่เลย

 

 

 

แม่งงงง เสียดายโคตรๆ เสียดายโอกาสของเด็กที่ถูกตัดสินเพียงเพราะเขาเกิดในพื้นที่ที่ห่างไกลเพียงเพราะพ่อแม่เขาไม่มีเงินส่งไปเรียนโรงเรียนในเมืองเพียงเพราะนโยบายของรัฐที่มอบครูและงบประมาณมาให้เท่านี้ ที่ทำให้เขาไม่ถูกพัฒนาได้เต็มศักยภาพที่เขามีเด็กตรงนี้หลายคนอาจเป็นหมอ พยาบาล เป็นครูเป็นอาชีพอะไรก็ตามที่สังคมนี้มันเชิดชูได้เลยแต่เขาอาจเป็นไม่ได้ เพราะชีวิตเขาถูกตัดสินด้วยอะไรไม่รู้และคนที่เสียโอกาสมากที่สุดถ้าประชากรเด็กพวกนี้ไม่ได้ถูกพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพที่เขามีก็คือ รัฐ และ ประชาชนอย่างเราๆ นี่แหละที่จะขาดทรัพยากรบุคคลคุณภาพที่จะมาดูแลและขับเคลื่อนประเทศต่อ

แม้เราจะเห็นความพยายามของครูที่จะสอนด้วยตัวเองให้มากที่สุดแต่มันก็ทำให้เห็นว่าด้วยจำนวนบุคลากรเท่านี้"มันไม่สามารถเพียงพอต่อความต้องการและมาตรฐานขั้นต่ำในการเรียนรู้ที่เด็กในวัยนี้ควรได้รับเลย""บัดนี้ข้าพเจ้าเกษียณอายุราชการ และมีครูลาคลอดบุตร 1 คน จึงเหลือครูแค่ 2 คน (กับห้องเรียน 8 ห้อง) ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่า อาการหนัก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"หลังจากอ่านการ์ดที่พ่อส่งมาให้ถึงบรรทัดนี้เราหลุดขำก๊ากกกก คือพ่อตลก 5555 เขียนตรงจนตลก คือมันเป็นตลกที่โคตรเศร้า

 

 

 

พล่ามมาถึงตรงนี้ก็คงอยากให้ทุกคนช่วยแหละใครช่วยได้ก็ช่วย แม้รู้ว่ามันเป็นการช่วยเหลือที่ไม่ยืดยาวแต่อย่างน้อยก็สามารถต่อชีวิตทางการเรียนรู้ไม่ให้เด็กขาดโอกาสไปได้ช่วงหนึ่งก็ยังดีแต่มากไปกว่านั้น อยากให้เห็นจริงๆ ว่านโยบายการศึกษาประเทศนี้มันเฮงซวยและเหลื่อมล้ำขนาดไหนอยากรู้เหมือนกันว่าตอนเราตายไปแล้วโรงเรียนที่ดีที่สุดของเด็กๆ ในประเทศของเราจะเป็น "โรงเรียนที่ใกล้บ้านที่สุด" อย่างเด็กๆ ที่ฟินแลนด์ได้หรือยังทำไรได้บ้างอ่ะ นอกจากพนมมือแล้วไหว้ขอพรให้มันเกิดขึ้นเร็วๆ เนี่ยทำไรได้บ้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ปล. เงินบริจาคทางโรงเรียนสามารถออกใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้"

 

 

 

ขอบคุณที่มา : เฟซบุ๊ก Phongsathon Chankaew