- 10 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 พ.ย. 60 ที่ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกร ได้ลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรอยุธยา จากนโยบายปฏิรูปภาคการเกษตรโดย พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องการให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดต้นทุนการผลิต ผลผลิตมีคุณภาพมากขึ้นนำไปสู่การบริหารจัดการสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ และแสดงผลงานอย่างเป็นรูปประธรรมโดยการแสดงให้เห็นถึงพลังความเข้มแข็งของเกษตรกรโดยเฉพาะศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สินค้าเกษตร 882 ศูนย์ ทั่วประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น ศพก. ทุกอำเภอ หรือแม้ ศพก. เครือข่ายก็ต่อยอดความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกร กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2557 ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรหรือ ศพก. 882 แห่งทั่วประเทศ ได้เกิดขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเกษตรกรในพื้นที่มีเกษตรกรผู้นำหรือประธาน ศพก. ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเกษตรเฉพาะด้าน ปัจจุบันเป็นข้าว 450 ศูนย์ พืชไร่ 78 ศูนย์ พืชผัก 31 ศูนย์ และอื่นๆ 10 ศูนย์ และได้มีการพัฒนา ศพก. ให้มีความเข้มแข็งด้วยมา ทั้งการอบรมประธาน ศพก. หรือการพัฒนาสถานที่ ที่สำหรับใช้เป็นสถานที่ในการฝึกอบรมได้รับการยอมรับในระดับพื้นที่ก็สามารถเป็นผู้วางแผนและกำหนดทิศทางนโยบายด้านการเกษตรที่สำคัญในระดับพื้นที่ได้
ต่อมาเมื่อรัฐบาลมีนโยบายดำเนินโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่หลายพื้นที่สามารถดำเนินการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากเกษตรกรผ่านการอบรมของ ศพก. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงวางทิศทางเพื่อให้ ศพก. เป็นกลไกหลักในการปฏิรูปภาคการเกษตรและรับฟังเสียงสะท้อนจากการทำงานของเกษตรกร ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากการทำงานของเกษตรกรมากกว่าที่ผ่านมาเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกิดเครือข่ายการทำงานการช่วยเหลือกันอย่างเป็นระบบทั้งในระดับทิศทางการทำงานระดับประเทศหรือการทำงานในระดับพื้นที่
เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการช่วยเหลือเกษตรกรเป็นสิ่งที่เกษตรกรต้องการมาโดยตลอดซึ่งวันนี้นับเป็นโอกาสที่ดี ศพก. ทั้งหมด จะรวมพลังให้เห็นว่าการเดินขึ้นของ ศพก. ไม่ได้สูญเปล่า ทั้งในระดับพื้นที่มีเวทีให้เราได้แสดงความคิดเห็นหรือแม้ระดับประเทศก็ยังมีเวทีให้เราได้แสดงความคิดเห็นและสะท้อนการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดงวดนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายเกษตรกรทุกคนจำเป็นที่จะต้องปรับตัว รวมกลุ่มการผลิต รวมกลุ่มกันขายเพื่อความเข้มแข็ง ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนด้านต่างๆ หากเรายังทำการเกษตรรายย่อยหรือแม้กระทั่งโครงการสำคัญต่างๆของรัฐบาลก็จะไม่สูญเปล่า เนื่องจากเราเกิดความเข้มแข็งในระดับพื้นที่เราก็คิดจากความต้องการของเราจริงๆ ศพก. เสมือนเป็นจิ๊กซอในพื้นที่เกษตรซึ่งยังคงต้องปรับปรุงเพื่อให้มันสวยงามมากและทำให้เกิดการปฏิรูปภาคการเกษตรอย่างสมบูรณ์ต่อไป
สำหรับพื้นที่ ศพก.อำเภอบางไทร โดยมี นายประมาณ สว่างญาติ เป็นประธานกลุ่ม เป็นตัวอย่างความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงภายใต้โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อฯ ได้ดำเนินการในรูปแบบฟาร์มชุมชนมีการทำการเกษตรหลากหลายทั้ง ทำนา ปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ไข่ เป็ดไข่ โดยเฉพาะการเพาะเลี้ยงเห็ดของกลุ่มนี้มีความโดดเด่นมีสมาชิกจำนวน 100 รายทุกกิจกรรมมีความเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เกษตรกรที่รับผิดชอบสามารถทำงานแต่ละด้านตามความถนัด ความชำนาญของตนเองได้ สามารถนำไปจำหน่ายภายใต้ผลิตภัณฑ์ของชุมชนได้และผลจากการดำเนินโครงการฯ เกษตรกรเครือข่าย ศพก. ได้เป็นอย่างดี.
ภาพ/ข่าว : ธัชนนท์ พิริยะกุลชัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ปทุมธานี