- 23 พ.ย. 2560
"ใครๆก็ทำกัน" !?! โผล่แถ..ลงแล้ว "ศิษย์เก่ามือบอน" เขียนชื่อโรงเรียนบนหินสลัก2000ปีประเทศจอร์แดน เถียงขาดใจยังไงก็ไม่ผิด? (รายละเอียด)
งานนี้ทำเอาควีนแอดมินเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียวเมื่อมือบอนเจ้าของฝีมือขีดเขียนข้อความชื่อโรงเรียนและชื่อ-นามสกุลไว้บนหินสลักโบราณอายุกว่า2000ปีที่ประเทศจอร์แดนจนเกิดเป็นกระแสดราม่าข้ามประเทศติดต่อแสดงตัวกับทางเพจ และยังให้เหตุผลกับทางเพจว่า เป็นเรื่องปกตินักท่องเที่ยวที่ไปกันก็เขียนกันไว้เยอะแยะเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำเป็นที่ระลึก
โดยเมื่อคืนวันที่ 22 พ.ย. 2560 เพจแหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์รูปภาพกล่องข้อความพูดคุยกับคนคนหนึ่งและบรรยายข้อความว่า
คนมือบอนเขียนกำแพงหินที่จอร์แดนติดต่อมาแล้วจ้า สรุปคือศิษย์เก่า ไม่ใช่อาจารย์ ฮีบอกว่า ใครๆก็เขียนกันเป็นเรื่องปกติของนักท่องเที่ยวที่จะเขียนไว้เป็นที่ระลึก....ผมนี่อึ้งเลย ด่าไม่เป็นเลยตรู
ซึ่งชายคนที่ติดต่อเข้ามาได้ส่งรูปภาพกำแพงหินพร้อมวงกลมข้อความอื่นๆที่ถูกเขียนไว้มาใช้อ้างอิงว่า ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว นักท่องเที่ยวคนอื่นก็ทำ ไม่ว่าที่ไหนๆเขาก็ทำกันทั้งนั้น
งานนี้ชาวโซเชียลกระหน่ำจวกกันยกใหญ่เนื่องจากคำอธิบายของชายคนนี้ออกแนวอ้างเพื่อเอาตัวรอดมากกว่า นอกจากนี้ยังมีตรรกะแปลกๆที่ว่าใครๆก็ทำกันแต่ไม่คิดบ้างหรือว่าการขีดเขียนบนสถานที่สำคัญของผู้อื่นมันเหมือนเป็นการทำลาย และไม่ให้เกียรติหากใครมาทำเช่นนี้ที่บ้านเราเราเองก็ไม่พอใจเช่นกัน และถ้าหากเขาอนุญาตให้เขียนเหตุใดเจ้าหน้าที่จึงได้ฝากอ.เผ่าทองมาให้คนเขียนไปลบออก
ดราม่าข้ามประเทศนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 พ.ย. 2560 อ.เผ่าทอง ทองเจือ ได้โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นรูปภาพหลังจากไปเยี่ยมชมแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีภาพสลักหินและภาพลายเส้นในประเทศจอร์แดน แต่ทว่าสิ่งที่พบเห็นกลับทำให้เกิดความโมโหดสุดขีดเมื่อพบเห็นข้อความแปลกๆที่มีคนมือบอนมาเขียนไว้สดๆร้อนๆ และที่น่าเจ็บปวดไปกว่านั้นคือตัวหนังสือบนข้อความนั้นเป็น"ตัวหนังสือภาษาไทย"นั่นเอง
นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าทางเจ้าหน้าที่สั่งให้คนเขียนทำการลบออกซะไม่เช่นนั้นจะประจานการกระทำนี้ให้นักท่องเที่ยวประเทศต่างๆได้รู้ว่าประเทศไทยไม่ใส่ใจคุณภาพของคนในประเทศ สร้างความอับอายให้กับสังคมเป็นอย่างมาก และมีชาวเน็ตนำชื่อโรงเรียนที่ถูกเขียนไว้ไปค้นหาทางเฟซบุ๊กจนเจอเพจของทางโรงเรียน และนำรูปภาพที่ทางเพจโพสต์ไว้ว่าทางท่านผู้บริหารและคณะได้เดินทางไปดูงานยังประเทศจอร์แดนในวันเวลาดังกล่าวจริง
ต่อมาหลังจากที่ตกเป็นจำเลยสังคมเพจเฟซบุ๊กของโรงเรียนได้ออกชี้แจงข้อเท็จจริงว่าข้อความนั้นเป็นฝีมือของ"ศิษย์เก่า"ที่ไปศึกษาอยู่ที่ประเทศจอร์แดน ไม่ใช่ฝีมือของคณะผู้บริหารอย่างที่สังคมเข้าใจและได้พูดคุยกับศิษย์เก่าที่เขียนข้อความแล้ว ยืนยันว่าศิษย์เก่าพร้อมลบข้อความที่เขียนไว้
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้นเพราะคำอธิบายของศิษย์เก่าที่ดูเหมือนว่าตนไม่ได้ทำผิด นอกจากนี้ยังถูกโยงไปถึงว่าศิษย์เก่าคนนี้มีนามสกุลเดียวกับคณะผู้บริหารเลย เขาเกี่ยวข้องกันอย่างไรและบังเอิญไปหรือไม่ที่ศิษย์เก่านามสกุลเดียวกับผู้บริหารเดินทางไปเที่ยวสถานที่เดียวกันในวันเดียวกัน และถ้าบอกว่าศิษย์เก่าเดินทางไปเที่ยวด้วยแต่บอกว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคณะบริหารเช่นนี้ควรตรวจสอบงบประมาณหรือไม่เนื่องจากเขาเป็นคนนอก มาใช้งบเบิกของรัฐร่วมกันคงไม่ได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณ แหม่มโพธิ์ดำ , โรงเรียนซอลีฮียะห์ และ Paothong Thongchua