เปิดความหมาย..ไสยศาสตร์-มนตร์ดำ..“วิบากกรรมของพวกกระทำเดรัจฉานวิชา”กับผู้ถูกกระทำ!! ทำไมต้องโคจรมาพบกัน?

วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง”ไสยศาสตร์ ความหมายและประวัติไสยศาสตร์ ไสยเวทย์ ลัทธิไสยศาสตร์”และผลกรรมของผู้กระทำ”คุณไสย”ใส่ตัวคน (ฝ่ายตรงข้าม) หรือ เรียกว่าผู้ถูกกระทำ ด้วยเดรัจฉานวิชา!!กันค่ะท่านผู้ชม แต่อย่าเพิ่งรีบพากันโต้แย้งว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่งมงายไร้สาระนะคะลองอ่านกันให้จบเสียก่อน” รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าหาม “ค่ะ ไม่แน่นะเผื่อว่าอาจจะมีสักวันที่ความรู้เหล่านี้อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆคนก็เป็นได้ 

เปิดความหมาย..ไสยศาสตร์-มนตร์ดำ..“วิบากกรรมของพวกกระทำเดรัจฉานวิชา”กับผู้ถูกกระทำ!! ทำไมต้องโคจรมาพบกัน?

อ่านข่าวอื่นๆเพิ่มเติม..

รีบเซฟให้ไวเลย!! เลขเด็ด วังนาคินทร์ คำชะโนด บารมีปู่สุทโธ สรุปเลขเด็ดออกมาแล้ว งวด 17 ม.ค. 2561 นี้ คอหวยห้ามพลาด..รีบหาซื้อก่อนเกลี้ยงแผง!

เช็คด่วน!! "เปิดดวงชะตา 5 ราศี" ที่ "พญานาค" คุ้มครอง ดลบันดาลให้พบเจอแต่สิ่งดีๆทั้งเรื่องการเงิน การงาน และโชคลาภ!!

อยากปลดหนี้ลองวิธีนี้เลย!! สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เลื่องชื่อในเรื่องการบนบาน แก้เรื่องหนี้สินล้นพ้นตัว ขอโชคขอลาภ หรือแม้แต่ขอให้หายจากอาการป่วยได้!!

จากการสืบค้นผู้เขียนพบว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไกลตัวพวกเราทุกคนเลยแม้แต่น้อยค่ะ เนื่องจากประเพณีไทยเราหลายๆอย่างล้วนแต่แทรกเข้าด้วยกันกับไสยศาสตร์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยถึงแม่ว่าวิทยาศาสตร์จะเจริญรุดหน้าไปมากมายสักแค่ไหน และวิวัฒนาการด้านวิทยาการอินฟอเมชั่นเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปสักเพียงใดขยายตัวกว้างขนาดไหน แต่ทว่าความเชื่อทางไสยศาสตร์ไม่มีวันที่จะหมดสิ้นไปจาก
หมู่มวลมนุษย์ชาติได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า ไสยศาสตร์ เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่ดำรงอยู่ควบคู่เกี่ยวเนื่องผูกพันกับมนุษย์โลกมาเนิ่นนานแล้ว และไม่ใช่จะแค่เพียงแต่เมืองไทยเราเท่านั้นนะคะที่มีความเชื่อในด้านไสยศาสตร์หลายๆประเทศที่เจริญและพัฒนาแล้วก็ยังมีความเชื่อในด้านไสยศาสตร์ของประเทศนั้นนั้นอยู่

เปิดความหมาย..ไสยศาสตร์-มนตร์ดำ..“วิบากกรรมของพวกกระทำเดรัจฉานวิชา”กับผู้ถูกกระทำ!! ทำไมต้องโคจรมาพบกัน?

ส่วน พิธีกรรม ไสยกรรมนั้นอาจไม่เหมือนกัน ในเมืองไทยในแต่ละภาคนั้นการประกอบพิธีกรรมต่างๆในแต่ละภาคนั้นก็ไม่เหมือนกัน สรุปแล้วไสยศาสตร์และไสยเวทย์มิใช่สิ่งที่ เลวร้ายขึ้นอยู่กับผู้ที่นำไปใช้เช่นการสกยันต์หากสักแล้วไม่ไปเป็นโจรผู้ร้ายไม่ไปปลิ้นชิงรบราฆ่าฟันเบียดเบียนเขาและตั้งตนอยู่ในศีลธรรมของนั้นก็จะคงทนถาวรไม่เสื่อม และยิ่งเข้มขลังยิ่งนัก และเป็นไสยศาสตร์ที่ประดับบารมีชายชาตรีมาแต่โบราณกาล


         ไสยศาสตร์ถือเป็นศาสตร์ที่ลี้ลับมีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ และมีทั่วโลกแม้กระทั่งในเวลาปัจจุบัน แม้รูปแบบจะแตกต่างกัน แต่ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การทำอันตรายต่อผู้คนด้วยวิธีที่ลี้ลับลัทธิไสยศาสตร์ คือการรวมอำนาจจิต รวมพลังงานทางจิตซึ่งได้ทำการอบรมจิตใจให้มีความยึดมั่น เชื่อถือ อย่างจริงจัง ดำเนินไปตามหลักทางไสยศาสตร์ ตามวิธีการนั้น ๆ ก็จะสามารถแสดงฤทธิ์ปาฎิหารย์ได้ด้วยกระแสคลื่นแห่งพลังอำนาจจิตอันแรงกล้า ของ มโนภาพ สมาธิ จิตตานุภาพ ทั้งสามประการนี้ จึงเป็นบ่อเกิดแห่งอำนาจที่ประหลาดมหัศจรรย์ขึ้นได้ลัทธิไสยศาสตร์ ได้เกิดขึ้นมาก่อนพุทธกาล ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ไตรเพท ในลัทธิของพราหมณ์ ได้แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ
         ฤคเวทย์ เป็นคำฉันท์ใช้สำหรับสวดมนต์และสรรเสริญพระเจ้า 
         ยชุรเวทย์ เป็นคำร้อยแก้วให้สำหรับท่องบ่นเวลาบวงสรวงบูชาพระเจ้า          
         สามเวทย์ เป็นคำฉันท์ใช้สำหรับสวดมนต์ทำพิธีถวายน้ำโสม 
         อาถรรพเวทย์ เป็นคัมภีร์ประกอบด้วยเวทยมนต์คาถาเรียกผีสาง เทวดาให้ช่วยป้องกันอันตรายให้ และให้มีการแก้อาถรรพ์ ทำพิธีสาปแช่งให้เป็นอันตรายได้ด้วยค่ะ


ไสยศาสตร์เป็นลัทธิความเชื่อ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ที่เกิดขึ้น และดำรงอยู่จริง คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ในโลกใบนี้ไร้มนุษย์ที่เชื่อไสยศาสตร์ บุคคลที่มีญาณทัศนะลึกล้ำ เข้า ใจเหตุปัจจัยแห่งการก่อเกิดสรรพสิ่ง ทั้งชีวิต สังคม และจิตวิญญาณ จะไม่มองเหตุที่เกิดขึ้นเพียงด้านใดด้านหนึ่งแล้วปฏิเสธโดยสิ้นเชิง หากไสยศาสตร์แล้วที่ทำให้ผู้เชื่อมั่น นั้นสามารถคลายทุกข์ไปได้ มีความสุข ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เวทย์มนต์ไสยศาสตร์ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ความงมงายในสิ่งที่ดีงามทำแล้วให้ตนเองสมหวังมีความสุขย่อมไม่ใช่สิ่งที่ ไม่มีเหตุผล (แต่ทั้งนี้ผู้เขียนไม่ไม่มีเจตนาที่สนับสนุนให้ผู้ใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเดรัจฉานวิชานะคะ!!โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมอย่างละเอียดด้วยค่ะ!)

เปิดความหมาย..ไสยศาสตร์-มนตร์ดำ..“วิบากกรรมของพวกกระทำเดรัจฉานวิชา”กับผู้ถูกกระทำ!! ทำไมต้องโคจรมาพบกัน?

เอาล่ะเรามาดูด้านกรรมของพวกเล่นของ หรือที่เรียก ผู้ทำกระทำคุณไสย  ไสยศาสตร์ เดรัจฉานวิชา ดังต่อไปนี้ค่ะ

ไสยาสน์ ไสยศาสตร์ 

ไสยาสน์ แปลว่า นอน ในที่นี้คือ มีลักษณะขวาง หรือขนานไปกับพื้นต่างจากลักษณะที่ไม่ขวาง ตั้งตรงไม่ติดพื้น

ศาสตร์ คือ แขนงคือความรู้ ที่มีประโยชน์ก็มี ไม่มีประโยชน์ก็มี ศาสตร์ที่รู้แล้วให้คุณ บางศาสตร์รู้แล้วให้โทษ มีสาระ ไม่มีสาระ เมื่อได้มีการบัญญัติขึ้น และนำมาใช้เรียกกันแบบเฉพาะเจาะจง ก็เรียกว่าศาสตร์ หรือความรู้นั่นเองค่ะเมื่อนำเอาคำว่า ไสยาสน์ กับ คำว่า ไสยศาสตร์ รวมคำเข้าด้วยกัน ก็เป็นคำว่า ไสยศาสตร์  แปลว่า ศาตร์ของคนหลับ ศาสตร์ที่ขวางความสุข ความเจริญ ขวางสวรรค์ ขวางมรรคผลนิพพานนั่นเองค่ะ

กล่าวถึง ความทุกข์ นั้น ก็เปรียบเสมือนไฟ หากว่าคนถือไฟไม่ระวัง ก็มีสิทธิ์ที่จะโดนลมพัดหอบเอาเปลวไฟนั้นหวนคืนหันกลับเข้าหาตัวเองก็มีถมไปจริงไหมคะพอเอานำไฟไปวาง สร้างปัญหาให้คนอื่น บุคคลอื่น
ก็ต้องโกรธแค้น ชิงชัง อาฆาตพยาบาทผูกโกรธ ก็ต้องหาวิธี นำไฟ
นำความพินาศ ไปสู่ อริศัตรูเหมือนๆ กัน

เปิดความหมาย..ไสยศาสตร์-มนตร์ดำ..“วิบากกรรมของพวกกระทำเดรัจฉานวิชา”กับผู้ถูกกระทำ!! ทำไมต้องโคจรมาพบกัน?

ดังนั้นคนที่ ทำคุณไสย์ ก็คือคนที่ผูกเวร ก่อเวร ไม่ระงับเวร ผลที่ตามมาก็เหมือนคนที่โดนอริศัตรู ผูกใจเจ็บเปรียบเสมือนภูเขาไฟรอเวลาปะทุระเบิดขึ้นทำลายล้างให้วอดวายในพริบตา หรือรอโอกาสแก้แค้นนั่นเอง

เปิดความหมาย..ไสยศาสตร์-มนตร์ดำ..“วิบากกรรมของพวกกระทำเดรัจฉานวิชา”กับผู้ถูกกระทำ!! ทำไมต้องโคจรมาพบกัน?

โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่โดนกระทำคุณไสย ใส่ตัวจะไม่รู้ว่าตัวเองโดนของ ที่เป็นแบบนี้เพราะคำที่ว่า ไสยาศาตร์ มีความหมายว่า ขวาง นั่นเองค่ะ ซึ่งคำว่าขวางในที่นี้ก็คือ ขวางทางเจริญในโลกนี้ และในภพโลกหน้า อีกทั้งยังขวางสวรรค์ขวางการไปสู่นิพพานโดยไม่รู้ตัวคนที่โดนอาถรรพ์คุณไสย เดรัจฉานวิชาจะถูกกิเลสความโลภ ความโกรธ ความหลง ครอบงำ ไม่รู้สึกตัวไม่อาจแยกแยะชั่ว-ดีได้พฤติกรรมเปลี่ยนไปมุ่งทำอกุศลกรรมทั้งทางกายวาจาใจไปตลอดแม้กระทั่งทำสิ่งทุจริต คือมีการเบียดเบียนชีวิต ลักทรัพย์สิน ประพฤติผิดในกาม พูดจาโกหก ติดสุราของมึนเมาให้โทษผิดกฏหมายทุกชนิด เกียจคร้านการทำงาน ไม่เคารพพ่อแม่ ผู้มีอุปการะคุณ ไม่ให้ความเคารพต่อญาติผู้ใหญ่ ถูกว่าก็เคืองโกรธ ถูกตัดเตือนก็แค้น แตกคอจากจากกลุ่มมิตรใจออกห่างญาติพี่น้อง นอนไม่ค่อยหลับ ฝันร้ายประจำ มีแต่เรื่องกังวลใจ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวแขนขานิ้วมือนิ้วเท้าปวดศรีษะ ปวดคอ หลัง เอว หวาดระแวง ซึมเศร้าโมโหร้าย พูดจาหยาบคายด้วยโทสะ ทำมาค้าขายยากลำบาก รายรับน้อยกว่ารายจ่าย เป็นหนี้เป็นสิน หน้ามืดตาลาย เจ็บป่วยออดแอดสามวันดีสี่วันไข้ 

เปิดความหมาย..ไสยศาสตร์-มนตร์ดำ..“วิบากกรรมของพวกกระทำเดรัจฉานวิชา”กับผู้ถูกกระทำ!! ทำไมต้องโคจรมาพบกัน?

แบบนี้อย่าว่าแต่ถูกอาถรรพณ์คุณไสย์ ขวางสวรรค์และนิพพานเลย เราจะเห็นได้ว่าแม้แต่ ความสุขในปัจจุบันก็ถูก ขัดขวาง ให้ไม่มีความเจริญไปด้วยนี่ก็เพราะไม่รู้ตัวว่าตนเองนั้นขาดตกบกพร่องอะไร อีกทั้งขาดกัลยาณมิตร ขาดครูบาอาจารย์ชี้นำสั่งสอน จึงทำให้ยิ่งขาดศีลธรรมประจำตน ขาดความดีงามประจำใจไปโดยปริยาย

ด้วยเหตุที่เคยไปทำเขาไว้ จึงถูกคนมุ่งจ้องกระ ทำใส่ หรือไม่ก็มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างหวาดระแวงว่าจะโดนกระทำ นี่แหละที่เรียกว่า”กงเกวียนกำเกวียน”ให้นำผู้ถูกกระทำคุณไสย ใส่ตัวไปขอขมาต่อพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกลับตัวกลับใจขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวรขออโหสิกรรมต่อ พ่อและแม่ 

เปิดความหมาย..ไสยศาสตร์-มนตร์ดำ..“วิบากกรรมของพวกกระทำเดรัจฉานวิชา”กับผู้ถูกกระทำ!! ทำไมต้องโคจรมาพบกัน?

ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน ตลอดไปจนถึงศัตรูคู่อาฆาตในทุกชาติภพ ขอหยุดกรรมวิบาก ไม่ก่อเวร ก่อกรรม ถ้าจำต้องชดใช้ ก็ให้อาศัยความอดทน ความพากเพียร ไม่ต้องโทษใคร ไม่ว่าใคร เมื่อถึงเวลา ศีลจะรักษาธรรมจะคุ้มครองให้รอดปลอดภัย ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้เพราะมีธรรมแห่งพระพุทธองค์ประดับตัวมีศีลประดับใจไปไหนมาไหนให้พึงระลึกถึงคุณแห่งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นนิตย์ ภยันตรายต่างๆ ก็เข้าไม่ถึงตัวด้วยพระพุทธานุภาพนั้นมีอานุภาพคุ้มโทษคุ้มภัยต่อโลกและชีวิตแห่งสรรพสัตว์ ทุกรูปทุกนาม ผู้เชื่อและยึดมั่นต่อพระองค์อย่างแท้จริง ด้วยสติปัญญาอันชัดแจ้งเมื่อนั้นแม้ทั้งโลกนี้และโลกหน้าก็จะรอดพ้นภัยพิบัติทั้งมวลและล่วงพ้นมือมารได้

เปิดความหมาย..ไสยศาสตร์-มนตร์ดำ..“วิบากกรรมของพวกกระทำเดรัจฉานวิชา”กับผู้ถูกกระทำ!! ทำไมต้องโคจรมาพบกัน?

ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:วิกิพีเดีย,
 และข้อมูลเพิ่มเติม(บางส่วน)จาก :อินเตอร์เน็ตค่ะ
เรียบเรียงโดย: โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์