นร.ใช้วันหยุดปิดภาคเรียนออกหาคล้องกะปอม หรือกิ้งก่า ที่ออกหากินอยู่บนต้นไม้และเสารั้วบ้าน นำไปทำอาหารเมนูเด็ดและไปขายเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว

วันที่7 มีนาคม 61 เวลา11.00 น. ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี รายงาน ในช่วงปิดเทอมเด็กๆ  ที่บ้านดู่ หมู่5ต.บ้านขาว อ.เมืองอุดรธานี ใช้เวลาว่าง ให้เกิดประโยชน์ ชวนกันออกหาคล้อง “กะปอม” และ "กะท่าง" (กิ่งก่า) สัตว์เลื้อยคลาน 4 ขาขนาดเล็ก ที่จะออกหากินเฉพาะหน้าแล้ง  นำไปทำอาหารกินเอง ส่วนที่เหลือยังนำไปขายสร้างรายได้เข้าครอบครัว ช่วยลดภาระค่าขนมของพ่อแม่

โดยอุปกรณ์ที่ใช้มีไม้ไผ่ขนาดเท่านิ้วมือยาวประมาณ 2 ถึง 2.5 เมตร ที่ปลายไม้ใช้เชือกผูกเป็นบ่วง ซึ่งจะพากันเดิน ไปตามถนนออกหาเป้าหมายล่าเหยื่อนั่นคือ “กะปอม” หรือกิ่งก่า โดยสัตว์เลื้อยคลานตัวเล็กนี้ จะออกหากินแมงหรือแมลงตามต้นไม้ หรือรั้วบ้านในช่วงหน้าร้อน เมื่อผ่านไปพบกะปอม หรือกิ่งก่า ที่เกาะอยู่ ก็จะค่อยๆ ย่องเดินเข้าไปหา โดยจะยื่นไม้ที่มีบ่วงซึ่งทำด้วยเชือกไนลอนเส้นเล็กอยู่ปลายไม้ สวมไปที่คอกะปอม เมื่อบ่วงลงเป้าแล้วก็จะดึงกระตุก หรือตะหวัดไม้ทันที เชือกก็จะรัดคอกะปอมอย่างดิ้นไม่หลุด เสร็จแล้วก็จะนำใส่ถุงตาข่าย ที่เตรียมมา ไม่ให้กะปอมตายเพื่อรักษาความสดเอาไว้ก่อน

เด็กชายอ้วน อายุ10ปี เปิดเผยว่า ตนกับเพื่อนๆ หลังจากปิดเทอมก็จะรวมตัวกัน ออกหากระปอม หรือกิ้งก่า เมื่อจับได้นำไปขาย ในหนึ่งวันจับกิ้งก่าได้ประมาณ 50 ตัว ซึ่งช่วงนี้อากาศร้อนช่วงแรกๆแมลงก็จะออกจากรู กระปอมหรือกิ้งก่าก็จะออกมาหากินจำนวนมาก ทำให้พวกตนใช้เวลาตระเวนหาเพียง1-2 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นช่วงกลางเดือนมีนาคม ไปถึงเมษายน จะให้เวลาหา ประมาณ3-4ชั่วโมง ได้มากก็นำไปขาย ตัวเล็กขายได้ตัวละ 3-5บาท  ตัวใหญ่ราคาตัวละ 8-10 บาท รายได้จะอยู่วันละ200-300บาท

หลังจากนั้นจะนำเงินแบ่งกันเป็นค่าขนม เพื่อลดรายจ่ายให้กับพ่อแม่ ส่วนที่เหลือก็ทำอาหารกินกับเพื่อนๆ โดยนำไปลอกหนังออกแล้วปิ้งให้สุก จากนั้นก็สับให้ละเอียดแล้วปรุงรส ทำเป็น "ก้อยกระปอม"หรือจะใส่มะม่วงสับ หรือมดแดงก็ได้ หรือจะปรุงเป็น "ลาบ" ก็ใส่พริกป่น และข้าวคั่ว หัวหอม มะนาว ก็อร่อยเป็น “เมนูเด็ดแซบอีหลี” ของชาวอีสานในหน้าแล้ง ดังกล่าว

ภาพ / ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์  จ.อุดรธานี