- 25 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ยังคงเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจในขณะนี้สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโรงงานผลิตภัณฑ์สินค้าบริษัท เมจิก สกิน จำกัด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายเนื่องจากไม่ได้รับใบอนุญาตจาก อย. และกระบวนการผลิตเป็นการทำมือทำเองโดยไม่ได้รับมาตรฐานไม่มีการรับรอง สูตรที่ผสมในผลิตภัณฑ์ก็เป็นการคิดขึ้นเอง โดยไม่คำนึงถึงอัตราส่วนและการเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค รวมไปถึงสลากสินค้าต่างๆ ก็ผิดกฎหมาย ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น
คลิกชมคลิป
V
V
ล่าสุดเฟซบุ๊ก "ลงทุนแมน" ได้เปิดเผยรายได้ของผลิตภัณฑ์สินค้าบริษัท เมจิก สกิน โดยระบุว่าดังนี้ " เปิดรายได้ Magic Skin / โดย ลงทุนแมน
เร็วๆ นี้ เราน่าจะได้ยินข่าว การขายเครื่องสำอางและอาหารเสริมปลอม จริงๆ แล้วทุกๆ ปีเราจะได้ยินข่าวในลักษณะนี้ตลอด แล้วเมจิก สกิน มีรายได้เท่าไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง ทุกวันนี้ถ้าเรานึกถึงธุรกิจที่หลายๆ คนอยากเข้ามาทำก็คงไม่พ้น ธุรกิจที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางและอาหารเสริม เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น
ลองดูตัวอย่างนี้ถ้าเราลองเข้าไปดูบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แล้วลองดูหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเครื่องสำอาง
ปี 2017
บริษัท ดูเดย์ดรีม เจ้าของแบรนด์ สเนลไวท์
รายได้ 1,684 ล้านบาท กำไร 351 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 20 %
มูลค่าบริษัท 29,722 ล้านบาท
บริษัท คาร์มาร์ท เจ้าของแบรนด์ เคที่ดอล
รายได้ 1,551 ล้านบาท กำไร 281 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 18 %
มูลค่าบริษัท 5,763 ล้านบาท
บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ เจ้าของแบรนด์ บิวตี้ บุฟเฟ่ต์ และ บิวตี้คอทเทจ
รายได้ 3,735 ล้านบาท กำไร 1,229 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิสูงถึง 33 %
มูลค่าบริษัท 68,510 ล้านบาท
แปลว่าทุกๆ ยอดขาย 100 บาทของ บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จะสร้างผลกำไรกลับมาถึง 33 บาท
พอเรื่องเป็นอย่างนี้ใครๆ ก็อยากทำเครื่องสำอาง
รายได้ดี สามารถบวกกำไรได้เยอะ
ขายข้าวผัดกะเพราจานนึง 50 บาท คนบ่นว่าแพง
ขายเครื่องสำอางกล่องนึง 500 บาท คนบอกว่าของดีมีคุณภาพ
จุดนี้จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้หลายๆ คนเข้ามาในธุรกิจนี้
จึงเรียกได้ว่าสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ ตลาดเครื่องสำอางน่าจะมีฟองสบู่ซ่อนอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว
ล่าสุดสำหรับในเรื่อง เมจิก สกิน ที่เพิ่งเป็นข่าวไปนั้น พบว่าเป็นการผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริมในครัวเรือนซึ่งสถานที่ไม่ได้ผ่านการรับรอง อย. ส่วนสินค้าเองก็ไม่ได้จดทะเบียนกับ อย.เช่นกัน
ถ้าเรามามองในมุมต้นทุน บริษัท เมจิก สกิน จะลดต้นทุนไปได้มากขนาดไหนจากการทำแบบนี้ ?
ปกติแล้วถ้าเราต้องการที่จะทำเครื่องสำอางอย่างถูกต้อง เราจำเป็นที่จะต้องมีโรงงานที่ได้รับรองมาตรฐาน GMP เป็นการรับรองว่าสิ่งที่ผลิตออกมานั้นจะมีคุณภาพ ซึ่งการที่จะทำแบบนั้นได้ก็จะต้องมีเงินทุนหลักล้านบาทขึ้นไป
หรืออีกทางเลือกหนึ่งที่นิยมกันในสมัยนี้คือ การจ้างผลิต เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องลงทุนเสียค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงาน
ข้อจำกัดของการจ้างผลิตก็คือ ต้นทุนต่อหน่วยของเราถ้าเทียบกับโรงงานในระยะยาวจะสูงกว่า รวมถึงถ้าเราไม่ได้ผลิตตามสูตรที่โรงงานกำหนดอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
นอกจากเรื่องการผลิตแล้ว การจดทะเบียนอย่างถูกต้องกับ อย. ซึ่งในบางครั้งอาจจะต้องทำการปรับสูตร หรือตรวจสอบวัตถุดิบ ซึ่งก็เป็นต้นทุนอีกเช่นกัน
บริษัท เมจิก สกิน จึงไม่ต้องกังวลในจุดนี้ เพราะว่าไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทำให้บริษัทน่าจะสามารถเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้สูงขึ้นกว่าบริษัทอื่นทั่วๆ ไป
บริษัท เมจิก สกิน ผลิตสินค้าหลายยี่ห้อ ได้แก่ apple slim, slim milk, snow milk, Fern, เมจิก สกิน, ชิโนบิ, ตรีชฎา, และ Mezzo
ซึ่งยี่ห้อเหล่านี้ ถ้าบางคนสังเกตตอนขับรถ บางครั้งเราจะเห็นยี่ห้อเหล่านี้อยู่ในป้ายโฆษณาใหญ่ๆ ด้วยซ้ำ
แล้ว บริษัท เมจิก สกิน จำกัด มีรายได้เท่าไหร่ ?
ปี 2557 รายได้รวม 3,958 บาท ขาดทุน 1,041 บาท
ปี 2558 รายได้รวม 3,958 บาท ขาดทุน 1,041 บาท
ปี 2559 รายได้รวม 1,120,513 บาท ขาดทุน 87,587 บาท
เห็นงบกำไร ขาดทุนของบริษัทแล้วก็น่าจะตกใจกันไปตามๆ กันว่าบริษัทที่มีสินค้ามากมาย กลับมีรายได้แค่นี้
เรากำลังอยู่ในยุคออนไลน์ที่เชื่อมต่อถึงกันได้ง่าย ซึ่งเราเองก็บอกไม่ได้ว่าสิ่งที่เข้ามาหาเราคือความจริงหรือไม่
เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะเชื่ออะไร ก็น่าจะดีกว่า ถ้าเราลองหยุดคิดและตรวจดูข้อมูลก่อนเสมอ
ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ สำนักงานกรรมการอาหารและยา
ขอบคุณที่มา : เฟซบุ๊ก ลงทุนแมน