เจ้าที่ป่าช้าแรง!! ชาวบ้านลือหนาหู โคตรเฮี้ยน "บ่อน้ำหลังสุสาน" ใครลงหาปลา..ต้องเจอดี? ล่าสุดหนุ่มวัย 43 เคราะห์ร้าย จมน้ำดับแบบไร้สาเหตุ!??

 หนุ่มใหญ่จมน้ำดับที่กาญจน์!!!  ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เจ้าที่เจ้าทางมีจริง หนุ่มใหญ่มีอาชีพรับจ้าง เคราะห์ร้ายดวงถึงฆาต คว้าตะคัดลุยลงสระขุดดินในสุสาน สุดท้ายจมน้ำหาย ญาติเห็นหายเงียบ ออกค้นหาเจอ รถ จยย.รองเท้าและตะครัดวางอยู่ขอบสระ

 

     ประสานนักประดาน้ำมูลนิธิลงงมค้นหานานนับชั่วโมง จึงเจอศพคาดใต้น้ำเย็นจัดเป็นตะคริวจมน้ำตาย กลุ่มชาวบ้านวิจารณ์  สระขุดหลังสุสานเป็นที่หวงห้าม เจ้าป่าช้าแรง ไม่มีชาวบ้านกล้าลงหาปลา ถึงปลาจะตัวใหญ่ก็ไม่มีใครกล้า

     เวลา 09.30 น.ร.ต.อ.ภูรี เถียรประภากุล รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(ขุนรัตนาวุธ) ว่าเกิดเหตุมีคนจมน้ำเสียชีวิต เหตุเกิดที่สระขุดดินด้านหลังสุสานตระกูลอึ้ง  บ้านหนองไร่ หมู่ 1 ต.ท่าทะกา อ.ท่ามะกาฯ หลังรับแจ้งจึงรีบเดืนทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย รท.เพชรณรงค์ จินตนานนท์ หน.ชุดรักษาความสงบเรียบร้อยร้อย กองพันทหารสื่อสารที่ 9 กองพลทหารราบที่ 9 ค่านสุรสีห์ฯ 
     ร่วมกัยแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ จากการตรวจสอบที่บริเวณขอบสระดินขุดด้านหลังสุสานฯ พบว่า เจ้าหน้าที่และนักประดาน้ำของมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ กำลังลงงมค้นหาร่างผู้คาดว่าจะสูญหายภายในน้ำ

 

 

     

  ซึ่งเป็นสระขุดดินที่มีความกว้างของสระประมาณ 20 เมตร ระดับความลึกบางจุดลึกถึง 2 ปุ้งกี๋รถแบ็กโฮ ประมาณ 10 เมตร ทำให้นักประดาน้ำของมูลนิธิฯ ต้องทำงานด้วยความยากลำบาก เนื่องจากไม่มีใครสามารถชี้จุดตกน้ำได้ แต่ในที่สุดก็สามารถทำการงมร่างผู้เสียชีวิตรายนี้ขึ้นมาได้ โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชม จึงนำศพขึ้นมาไว้บนฝั่ง เพื่อให้แพทย์ร่วมกับตำรวจทำการชันสูตรพลิกศพ

     จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นไม่พบว่า ตามร่างกายของผู้ตายซึ่งไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีเทาเพียงตัวเดียว ไม่มีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้าย จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อีอญาติมาติดต่อขอรับศพไปจัดการคามประเพณีทางศาสนา  จากการสอบสวนปากคำนางประภาส นุชนุ่ม อายุ 61 ปี มีศักดิ์เป็นอาของผู้ตายทราบว่า ผู้ตายชื่อนายสมชาย นุชนุ่ม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 1 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ทีอาชีพรับจ้างทั่วไป  ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 06.00 น.ผู้ตายได้ขี่รถ จยย.ออกจากบ้านพร้อมอุปกรณ์ตะคัด โดยบอกว่า จะไปหาปลาที่บริเวณสระน้ำด้านหลังสุสาน จากนั้นก็หายไป

     

 จนกระทั่งเวลา 09.00 น.ของวันเดียวกัน ญาติๆ เห็นว่า นายสมชาย ผู้ตายหายไป จึงเดินทางไปค้นหาก็พบแต่รถ จยย.จอดอยู่ที่ขอบสระ โดยมีรองเท้าแตะกับตะคัดวางกองอยู่ สอบถามชาวบ้านที่นำเครื่องสูบน้ำเข้าไร่ข้าวโพด แต่ก็ไม่มีใครเห็น ซึ่งบรรดาญาติเชื่อว่า นายสมชาย ผู้ตายคงจมอยู่ในน้ำ
     จึงโทรศัพท์ประสานนักประดาน้ำของมูลนิธิฯ ให้มาทำการลงงมค้นหาจนกระทั่งพบศพดังกล่าว ส่วนสาเหตุแพทย์ลงความเห็นว่า ผู้ตายขาดอากาศหายใจ เนื่องจากเป็นตะคริว เพราะใต้น้ำเบื้องล่างนั้นจากการสอบถามเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำต่างก็บอกว่า ใต้น้ำนั้นเย็นจัดมาก สอบถามญาติไม่มีใครติดใจสงสัยในสาเหตุการตาย จึงมอบศพให้ญาตินำศพไปจัดการตามประเพณี
     หลังเกิดเหตุได้มีกลุ่มชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ ว่าไม่เขื่ออย่าลบหลู่ ที่ผ่านมาไม่เคยมีชาวบ้านรายใดที่กล้าลงไปหาปลาในสระดินขุดแห่งนี้ แม้ฝูงปลาที่อยู่ในสระจะมีลำตัวขนาดใหญ่ก็ตาม ประกอบกับสระดินขุดแห่งนี้เป็นเขตหวงห้ามที่ทางสุสานห้ามไม่ให้ใครลงไปหาปลาอย่างเด็ดขาด ซึ่งชาวบ้านเชื่อมาตลอดว่า พื้นที่ในอาณาเขตของสุสานจำนวนหลาย 10 ไร่ เจ้าป่าช้าแรงมาก หากใครลงไปหาปลาโดยไม่ได้ขออนุญาติ ก็มักจะมีอันเป็นไป

 

ข่าวภาพ/วันชัย แก้ววิลัย สนั่น ศิลปะขจร  ข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ กาญจนบุรี