- 18 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
หลายๆ คนอาจจะงงกับชื่อเรื่องว่าเจ้าติ่งเนื้อเนี่ย คืออะไร มันคือติ่งเนื้อเล็กๆ นุ่มๆ ที่โผล่มาที่ผิวลักษณะเหมือนลูกโป่งเล็กๆ แฟบๆ อาจมีสีเข้มกว่าผิวเล็กน้อย ทางการแพทย์เรียกว่า Acrochordons ไม่มีอันตรายแต่ทำให้รู้สึกรำคาญเวลาลูบผิว และแน่นอนว่าผิวเรียบของเราก็จะดูไม่สวยงามเอาซะเลย วันนี้เราจะพาไปไขปริศนาของมันกัน
ติ่งเนื้อ หมายถึง เนื้องอกชนิดหนึ่งที่ขึ้นตามผิวหนัง ไม่ใช่เนื้อร้ายหรือมะเร็ง ติ่งเนื้อประกอบไปด้วย เนื้อเยื่อผิวหนัง หนังกำพร้า หนังแท้ และเนื้อเยื่อไขมัน ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับคนสูงวัยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
ส่วนมาก ติ่งเนื้อ มักเกิดขึ้นบริเวณที่ผิวหนังเสียดสี ตามรอบข้อพับของร่างกาย อาทิ เปลือกตา รอบคอ รักแร้ บางคนอาจเกิดอาการรำคานหรือต้องการกำจัดออกไป วันนี้เราจึงนำวิธีการ กำจัดติ่งเนื้อ ด้วยตัวเอง สามารถทำได้ที่บ้านจากวัตถุดิบของในครัวเรือน
วิธีการกำจัดติ่งเนื้อมีด้วยกัน 6 วิธีคือ
1. น้ำมะนาว
ใช้สำลีชุบน้ำมะนาวแปะทับไว้ที่ติ่งเนื้อ ทิ้งเอาไว้ ทำซ้ำๆต่อกัน 2 – 3 วันติ่งเนื้อจะหลุดออกมา
2.เปลือกกล้วย
นำเปลือกกล้วย หั่นชิ้นเล็กๆ วางเปลือกกล้วยด้านในแปะไว้บนติ่งเนื้อทิ้งไว้ 1 คืนแล้วแกะออก ทำซ้ำไปจนกว่าติ่งเนื้อจะหลุด
3. กระเทียม
นำกระเทียมไปคั้นจนได้น้ำ ใช้สำลีชุบน้ำกระเทียมเช็ดที่ติ่งเนื้อ ปล. น้ำกระเทียมควรใช้ครั้งต่อครั้งไม่ควรเก็บไว้ใช้ต่อ
4.ยาทาเล็บ
ทาน้ำยาทาเล็บบนติ่งเนื้อที่ต้องการกำจัด ทิ้งให้แห้ง ทำซ้ำ 2 – 3 วัน สังเกตติ่งเนื้อจะหลุดออกไป
5. ว่านหางจระเข้
นำเนื้อว่านหางจระเข้ไปคั้นเอาน้ำ ใช้น้ำว่านหางทาง – นวดบริเวณติ่งเนื้อ หลังจากนั้นติ่งเนื้อจะหายไป
6.น้ำมันทีทรี
นำสำลีชุบน้ำและหยดน้ำมันทีทรีลงไป 2 – 3 หยด นำไปเช็ดบริเวณเป็นวงกลมที่ติ่งเนื้อ ทำซ้ำทุกวันเพื่อเห็นผล ภายใน 1 สัปดาห์เห็นผล
7. น้ำมันละหุ่ง
นำน้ำมันละหุงผสมกับ Baking Soda อัตราส่วน 2:1 แต้มบริเวณที่เป็นทุกวัน ประมาณ 2-4 สัปดาห์จะหลุดออกเอง หากกลิ่นเหม็นก็เติมน้ำมันผิวส้มก็จะทำให้หอมขึ้น
8. แอปเปิ้ลไซเดอร์
ทาลงที่ก้อนติ่งเนื้อโดยตรงวันละ 2 รอบแล้วเอาสำลีปิดทับไว้ ใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ วิธีนี้จะรู้สึกแสบๆ กัดๆ หน่อย
9. ขิง
ลอกเปลือกแล้วถูตรงติ่งเนื้อทุกๆ วัน ประมาณ 2 สัปดาห์ จะหลุดออกโดยไม่รู้ตัว
10. น้ำสับปะรด
ชุบสำลีปิดที่ติ่งเนื้อวันละ 2 รอบ ประมาณ 1 สัปดาห์ ติ่งเนื้อจะหายไป
ทั้งนี้ทั้งนั้นบางวิธีก็อาจจะไม่เหมาะกับทุก ยังไงถ้าเกิดอาการระคายเคืองก็ควรหยุดทำ แต่ส่วนมากนั้นจะเป็นวัสดุธรรมชาติล้วนๆ เลย คิดว่าลองทำดูก็ไม่เสียหาย ดีกว่าไปซื้อยาเคมีมาทานนะ อย่าลืมแชร์ต่อให้คนอื่นๆได้รู้ด้วยนะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.share-si.com , girlsallaround






