- 25 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กเผยแพร่เรื่องราวที่ตัวเองตั้งใจไปเช่าบ้านพักในซอยอินทรพิทักษ์ 1 แยก 2 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. แต่กลับไปพบประวัติว่าบ้านหลังนี้ มีการฆ่าตัวตายยกครัว 5 ศพ เมื่อปี พ.ศ. 2557 ที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ (24 พ.ค.) นางสาวเล้ง (นามสมมติ) เพื่อนบ้านหลังดังกล่าว เล่าว่า คนที่โพสต์เป็นกลุ่มนักศึกษา 3 คนที่มาหาบ้านเช่า โดยมีเด็กผู้ชาย 2 คน เด็กผู้หญิง 1 คน ก่อนที่น้องผู้หญิงจะโพสต์เรื่องดังกล่าว น้องผู้ชายนั้นทราบเรื่องราวประวัติของบ้านหลังนี้ แต่เขาก็ยังขึ้นไปทำความสะอาด ตนเองจึงได้เล่าประวัติบ้านหลังนี้ให้เขารับรู้ ซึ่งตนไม่รู้ว่าเด็กวัยรุ่นจะเชื่อแบบตนหรือไม่ ระหว่างจิตตกกับดวงตก หากจะมาเช่าก็ต้องใจแข็ง ซึ่งตนคิดว่าน้องผู้ชายไม่ได้กลัว แต่น้องผู้หญิงคนโพสต์อาจจะจิตตกแล้ว แต่ตนก็ได้บอกกล่าวไปว่าไม่ต้องกลัวแล้ว หากจะมาอาศัยก็แค่จุดธูปบอกกล่าวว่าขออาศัย
ทั้งนี้ ตลอด 4 ปี ตนเองก็ไม่เจออะไร แต่ช่วงที่เป็นข่าวแรกๆ ยอมรับว่าตนเองก็มีกลัวบ้าง ตั้งแต่เช่ามาก็มีสองสามีภรรยาคู่หนึ่งมาเช่าได้ 20 กว่าวัน ซึ่งเขาไม่ทราบมาก่อนว่าบ้านหลังนี้มีประวัติ แต่วันหนึ่งมีจดหมายมาส่งที่บ้าน บอกว่าบ้านหลังนี้มีเหตุการณ์ครอบครัวฆ่าตัวตาย ให้ไปค้นดูประวัติในเว็บไซต์ สองสามีภรรยาจึงมาถามตนว่าจริงหรือไม่ ตนจึงพยักหน้าไป พอสองสามีภรรยาคู่นั้นทราบเรื่องก็กลัว จึงย้ายออกไป ซึ่งจากการที่ตนสอบถามกับเจ้าของบ้านเช่า ช่วงนั้นเขาก็เครียดเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่ว่าอะไร ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของคนเช่า จากนั้นก็ไม่มีใครมาเช่าบ้านนี้อีกเลย
ตนเองจึงใช้พื้นที่ชั้นล่างของบ้าน เก็บของและราวตากผ้า และคอยดูแลบ้านหลังนี้ ซึ่งเจ้าของบ้านก็บอกตนว่า หากใครมาถาม ก็บอกไปตามตรงว่าบ้านมีประวัติอย่างไร ภายหลังจากเจ้าของบ้านเห็นโพสต์ของเด็กผู้หญิง เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเดือนหน้าก็จะมีคนเช่ารายใหม่ ซึ่งจะเข้ามาย้ายอยู่อย่างแน่นอน
นางสาวเล้ง เล่าว่า 4 ปีก่อน ในวันที่เกิดเหตุ ตนเป็นคนโทรศัพท์แจ้งตำรวจด้วยตัวเอง แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไป ตนเองในฐานะเพื่อนบ้านก็ทำบุญตักบาตร กรวดน้ำ ถวายสังฆทานให้ทุกวัน คนในซอยก็จะทำบุญให้ครอบครัวนี้กันทุกปี แต่ตอนวันทำบุญใหญ่ หลวงพ่อที่มาเชิญดวงวิญญาณยังนั่งไม่ติดพื้น เพราะวิญญาณแรงจริง
นางสาวเล้ง ยังกล่าวต่อว่า แม้ตนจะไม่เคยเห็นดวงวิญญาณคนในครอบครัวผู้เสียชีวิตปรากฎเป็นตัวเป็นตน แต่ตนรู้สึกได้ ตอนทำบุญเผาของใช้ไปให้ ตนคิดว่าพวกเขาก็รับรู้ เพราะตอนตนนอนอยู่ก็ได้ยินเสียงคนลากของ ตนต้องตั้งสติแล้วพูดเลยว่า “กลัวนะอย่ามาลาก” ซึ่งตนคิดว่าครอบครัวนี้คงมาขอบคุณตน
ตนยืนยันว่าตอนนี้เหตุการณ์กลับมาปกติแล้ว แต่ยอมรับว่า ยังรู้สึกกลัวเป็นบางครั้ง เวลาเปิดประตูบ้านก็จะนึกถึงคนที่ตายไป แต่ตอนนี้ยืนยันว่า ไม่มีวิญญาณในบ้านหลังดังกล่าวแล้ว หากใครจะมาอาศัยอยู่ใหม่แล้วไม่กลัว ตนก็ยินดี เพราะตนก็เป็นห่วง กลัวว่าคนที่มาอยู่ใหม่เขาจะเป็นอะไร ซึ่งหากใครไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เพราะเคยมีเด็กวัยรุ่นเข้าไปลองของมาแล้ว ยังวิ่งหนีกันไปกระเจิง ตอนครอบครัวนี้เสียชีวิตใหม่ๆ บ้านนี้เฮี้ยนจริงๆ
ขอบคุณ รายการทุบโต๊ะข่าว อัมรินทร์ทีวี HD34
