- 31 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 31 พ.ค. 61 ที่บ้านดงไร่ ต.โนนแหลมทอง อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นายสุรชัย การอรุณ ครูวิทยาฐานะชำนาญการพิเศษ รักษาการ รอง ผอ.ร.ร.บ้านดงไร่ราษฎร์พัฒนา และนางระพีพรรณ การอรุณ ภรรยาซึ่งมีอาชีพข้าราชการครูเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งสองกำลังขะมักเขม้นกับการเก็บยอดผักหวานป่าที่ปลูกไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประยุกต์เข้ากับภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้าน แก้ไขพื้นที่แห้งแล้งขาดแคลนน้ำ สามารถปลูกพืชเพื่อทำการเกษตรได้ทุกฤดูกาล
นายสุรชัย การอรุณ ครูชำนาญการพิเศษ อยู่ในวัยเกษียณอายุราชการ ในเดือน ก.ย.นี้ ได้เริ่มเตรียมตัวรับชีวิตเกษียณตั้งแต่เมื่ออายุ 50 ปี สิ่งแรกคืออาชีพเกษตรกร ได้ทดลองทำการเกษตรมาหลากหลาย แต่ด้วยความชื่นชอบส่วนตัวผักหวานป่า กับความผูกพันในอดีตที่แม่มักจะพาจ้างเหมารถไปหาเก็บผักหวานป่าในสมัยที่เป็นเด็ก ซึ่งเป็นความยากลำบาก ที่จะหารับประทานได้ จึงมีความคิดที่จะปลูก เรียนรู้ลองผิดลองถูกการปลูกผักหวานป่า โดยใช้พื้นที่ของโรงเรียนดงไร่ราษฎร์พัฒนา เป็นแปลงปลูกทดลอง คู่ขนานกับสวนหลังบ้านเนื้อที่ 3 ไร่
นายสุรชัย การอรุณ เล่าว่า เคยลงทุนซื้อต้นตอผักหวานป่าปลูกไว้ที่สวน หมดเงินไปเกือบแสน แต่ต้นตอที่ซื้อมาก็ตายไปทั้งหมด และอีกหลายต่อหลายครั้ง ด้วยความพยายามจึงคิดหาทางและเรียนรู้ด้วยตนเองลองผิดลองถูกมาเกือบ 10 ปี จนได้รู้ว่าผักหวานป่า ที่จะปลูกได้นั้นต้องเพาะจากเมล็ด ขณะที่การปลูกจะต้องมีพืชพี่เลี้ยง ที่จะคอยจ่ายน้ำให้ผักหวานป่าอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เข้าใจว่า ผักหวานป่า นั้นปลูกง่าย ดูแลยาก แต่ผลของความพยายามตอนนี้ผักหวานป่าปลูกในสวนหลังบ้านเนื้อที่ 3 ไร่ เศษ โดยใช้พันธุ์กล้วยนวล หรือกล้วยญวน เป็นพืชพี่เลี้ยง และก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะตอนนี้ผักหวานป่าได้มีผลผลิตออกจำหน่าย กก.ละ 200 บาท ตลอดทั้งปี ใน 1 วัน จะเก็บผักหวานป่าให้แม่ค้าที่มารับซื้อเองถึงสวนวันละ 600 บาท เป็นอย่างน้อย ไม่รวมกับการขายใบตอง ขายปลีกล้วย และผลกล้วย เป็นรายได้สลับหมุนเวียนไป นอกจากนี้ยังมีพืชสวน พืชผักสวนครัวอีกหลายอย่างที่สร้างรายได้ในครอบครัว อีกทั้งต้นกล้าผักหวานที่จำหน่ายเพียงต้นละ 25 บาทเท่านั้น
“ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากโรงเรียน ก่อนจะขยายผลมาสู่ชุมชน และเริ่มต้นจากตัวเองที่ใช้สวนหลังบ้านเป็นพื้นที่ปลูกผักหวานเหมือนที่ปลูกในรั้วโรงเรียน ได้ขออนุญาต นายวินัย รัตนมาลี ผู้อำนวยการโรงเรียนดงไร่ราษฎร์พัฒนา ขอใช้พื้นที่โรงเรียนที่มีเนื้อที่เกือบ 26 ไร่ ขอเป็นสวนเกษตร เลี้ยงปศุสัตว์ และปลูกพืชไร่ 7 ไร่ โดยน้อมนำการทำการเกษตรผสมผสานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งทาง ผอ. ก็มีความคิดไว้อยู่แล้วจึงเริ่มทำสวนเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงควบคู่กับสวนหลังบ้าน และกลายเป็นสถานที่ดูงานสวนผักหวานป่า ในวันเวลาราชการ ส่วนหลังเลิกเรียนและวันเสาร์ - วันอาทิตย์ ก็จะเปิดสวนที่บ้านให้เป็นที่ศึกษาดูงาน ในเวลานี้จากการทำเกษตรและปลูกผักหวานป่าได้เปลี่ยนชีวิตของข้าราชการครูคนหนึ่งไปอย่างสิ้นเชิง จากครูพลศึกษามาเป็นครูสอนเกษตร”
นายสุรชัย ยังกล่าวอีกว่า สวนผักหวานป่าที่เกิดขึ้นเป็นการขยายผลจากโรงเรียนสู่ชุมชน นอกจากตัวเองที่ทำสำเร็จแล้วยังมีชาวบ้านและเกษตรกรรายอื่น ๆ ที่มาเรียนรู้จากโรงเรียนดงไร่ราษฎร์พัฒนาไปต่อยอดทำการเกษตรจนประสบความสำเร็จไปแล้วมากมาย สำหรับที่สวนตอนนี้ปลูกต้นผักหวานไปแล้ว 1,500 ต้น โดยใช้สูตรการปลูกขุดหลุมให้ลึกและกว้างระยะห่าง 1 คูณ 1 เมตร ใช้ปุ๋ยคอกรองพื้นก่อนการปลูก สลับกับการปลูกกล้วยควบคู่กับต้นผักหวานป่า และพืชสวนอื่น ๆ โดยผักหวานป่าที่เพาะเมล็ดหลังจากการปลูกลงดินจะเริ่มให้ผลผลิตเมื่อมีอายุได้ 2 ปี แต่ถ้าจะให้สมบูรณ์จะอยู่ที่ 3 ปี ขณะที่ผักหวานป่าถ้าช่วงฤดูกาลคือ ม.ค. - พ.ค. จะให้ผลผลิตสูงเพราะอยู่ในช่วงฤดูกาล แต่ถ้าจะให้ออกนอกฤดูกาลก็สามารถทำได้ด้วยการริดใบ เด็ดยอด ให้น้ำสม่ำเสมอผลผลิตก็จะออกทั้งปี และที่สำคัญห้ามนำเคมีมาใช้ในสวนผักหวานป่าไม่ว่ากรณีใด ๆ เพราะไม่เช่นนั้นต้นผักหวานป่าจะตายไปแบบยกสวนทั้งหมด ทำให้สวนผักหวานป่าหลังบ้านและสวนเศรษฐกิจพอเพียงหลังโรงเรียนดงไร่ราษฎร์พัฒนา เป็นสวนเกษตรอินทรีย์ปลอดสารเคมี
สำหรับสวนผักหวานป่าที่เกิดขึ้นของครูชัย หรือนายสุรชัย การอรุณ ที่กำลังจะเกษียณในไม่ช้านี้ ได้กลายเป็นสถานที่ศึกษาดูงานของคนรักการเกษตรที่หมุนเวียนมาศึกษาอยู่เป็นประจำ ซึ่งครูสุรชัยได้ถ่ายทอดความรู้การปลูกผักหวานป่าให้สำเร็จแบบง่าย ๆ ชนิดหมดเปลือกไม่มีกั๊ก และไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และขณะนี้ทางชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวฯ อ.สหัสขันธ์ ได้เตรียมยกระดับให้เป็นหนึ่งในศูนย์โฮมสเตย์เรียนรู้ปลูกผักหวาน ที่จะมีการเปิดคอร์สให้กับผู้สนใจปลูกผักหวานป่า ได้เข้ามาเรียนรู้กันแบบตัวต่อตัวกันอีกด้วย
ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.กาฬสินธุ์