ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 15 มิ.ย. 61   ที่ บ้านพังเหา หมุ่ที่ 2 ต.ปังหวาน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร นายคมตะวัน สร้างแก้ว อายุ 41 ปี ผญบ.หมุ่ที่2 นายชัยณรงค์   มูลลอด อายุ 43 ปี ผช.ผญบ. นายเจตน์ บุญจันทร์ อายุ 50 ปี ส.อบต.ปังหวาน แจ้งว่าได้รับคำร้องเรียน จากความเดือดร้อน ที่มีชาวบ้านรายหนึ่งเลี้ยงสุนัขจำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาด้านต่างๆ ในหมู่บ้าน ขอให้ช่วยดำเนินการด้วย  กลุ่มผู้นำท้องถิ่นท้องที่ จึงนำผู้สื่อข่าวไป ตรวจสอบ

ที่ ขนำคนงาน ในสวนยางพาราขนาดใหญ่ พื้นที่เชิงภูเขาสูง  เป็นขนำขนาดเล็ก ได้ยินเสียงสุนัขส่งเสียงเห่าดังระงม ภายในขนำ พบ นางคำภา สองศรี อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่ 2 ต.ปังหวาน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร อาชีพ รับจ้าง กำลังดูแล ให้อาหาร แก่ สุนัขหลายสิบตัว มีตั้งแต่ ตัวเล็กๆ อายุ 3เดือน จนถึง อายุ 5ปี ส่วนใหญ่เป็นสุนัขพันธ์ไทย ลักษณะสุนัขจรจัด สุนัขหลายตัวมีท่าทางดุร้าย เห่าตลอดเวลา  แทบทุกตัวได้ล่ามโซ่ไว้ มีเพียงบางตัวที่เดินไปเดินมา ในบริเวณขนำ และ บนถนนในหมู่บ้าน นางคำภา บอกว่า มีสุนัขอีกหลายสิบตัว ที่ได้ล่ามโซ่ไว้ตามจุดต่างๆในขนำบนภูเขาที่ได้ไปรับจ้างกรีดยางพารา และ ที่ สำนักสงฆ์ ในแหวด จำนวนหนึ่งด้วย นางคำภาได้ชวนคณะไปดูสุนัขบนภูเขาสูง แต่รถยนต์ไม่สามารถขึ้นไปได้ ต้องเดินอย่างเดียว กลุ่มผู้สื่อข่าวจึงขอไปดูเพียงที่ อยู่ในสำนักสงฆ์ฯ เท่านั้น พบว่ามีสุนัชอีกจำนวนหนึ่ง

 

ยอมเสียคนรัก เพื่อชีวิตนับร้อย!! นางฟ้าหมาจรวอนช่วยเหลือ หลังยอมทิ้งชีวิตพาเจ้าตูบหนีขึ้นเขา ยังไม่วายเดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน หมดปัญญาดูแล

นางคำภา เล่าว่า “ในเวลานี้เหลือสุนัขจรจัดที่ถูกทอดทิ้ง อยู่ 46 ตัว มีอายุ ตั้งแต่3 เดือน จนถึง10ปี ที่ล่ามโซ่ไว้4สถานที่ด้วยกัน ก่อนหน้านี้มีสุนัขจำนวน 100 กว่าตัว แต่ ป่วยตายไปบ้าง ถูกวางยาเบื่อบ้าง ทำให้เหลืออยู่เพียงเท่านี้  ที่มาของสุนัขเหล่านั้ เกิดจาก แรงงานต่างด้าวที่มารับจ้างกรีดยางพาราในหมู่บ้านและในหมุ่บ้านใกล้เคียงได้เลี้ยงสุนัขไว้ เมื่อ นายจ้างเลิกจ้าง เนื่องมีการปิดหน้ายาง แรงงานต่างด้าวเหล่านั้นก็เดินทางกลับประเทศ ทิ้งสุนัชขที่เลี้ยงไว้จำนวนมาก ออกเผ่นพ่านทั่วหมู่บ้าน  มีอยู่วันหนึ่ง มีสุนัขตัวหนึ่งเดินมาล้มลงที่เท้าของนางคำภา จึงอุ้มไป ป้อนข้าวป้อนน้ำ จนมันรอดตาย หลังจากนั้น มันก็ไปชวนพรรคพวก ให้มาอยู่กับนางคำภา และ เมื่อพบเห็นสุนัขจรจัดถูกทอดทิ้ง ก็จะเก็บมาเลี้ยง เป็นเวลานานร่วม 10 ปี จนมีสุนัขที่ต้องเลี้ยงดูมากกว่า100 ตัว

นางคำภา กล่าวต่อไปว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้าง มีรายได้ วันละ 300 -500 บาท แต่ต้องเสียค่าอาหารสุนัขวันหนึ่ง ร่วม 200 บาท เดือนละ 6000 บาท นอกจากนั้นก็ อาศัยข้าวก้นบาตรของหลวงพ่อ และ ข้าวเหลือ จากบ้านชาวบ้านที่จัดงานต่างๆ อาทิ งานศพ งานแต่ง  จนทำให้สามีที่อยู่ด้วยกันขอเลิกรา อีกทั้งสุนัข เริ่มก่อปัญหาแก่ชาวบ้านในหมู่บ้าน ตนเองได้ย้ายสุนัข ขึ้นไปเลี้ยงบนภูเขาสูง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา แต่ก็ ยังไม่วาย สุนัขบางตัวไปกัด ไก่ชนราคานับหมื่นของชาวบ้าน ส่งเสียงเห่าตลอดเวลา จนชาวบ้านนอนไม่หลับ บางส่วนจึงโดนวางยาเบื่อ แต่ในเวลานี้ ตนเอง ต้องการเดินทางไป ดูแล ลูก ที่อยู่กับญาติ ใน จ.บุรีรัมย์ จึงกังวลว่ากลุ่มสุนัขเหล่านี้จะมีชีวิตต่อไปอย่างไร อยากให้ หน่วยงานราชการ ที่มีโครงการช่วยเหลือสุนัขจรจัดเข้ามาดูแล หรือใครที่ใจบุญจะรับไปเลี้ยงก็ ไม่ขัดข้อง

 

ยอมเสียคนรัก เพื่อชีวิตนับร้อย!! นางฟ้าหมาจรวอนช่วยเหลือ หลังยอมทิ้งชีวิตพาเจ้าตูบหนีขึ้นเขา ยังไม่วายเดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน หมดปัญญาดูแล

นายคมตะวัน สร้างแก้ว ผญบ. กล่าวว่า ในเวลานี้สุนัขเหล่านี้ มีอยู่ทั่วบริเวณในหมู่บ้าน เนื่องจากบางส่วนหลุดจากการล่ามโซ่ จึงไปกัดไก่ บ้าน ไก่ชน บางบ้าน ถูกสุนัขกัดไก่จนหมดเล้า นอกจากนั้นยังสร้างความสกปรก เสียงดัง เป็นที่น่ารำคาญ อีกทั้ง ยังไม่มีการฉีดวัคซีนใด ๆ เนื่องจากนางคำภา ก็ยากจน หาได้เพียงอาหารให้สุนัขกิน ถ้าปล่อยทิ่งไว้ สุนัขจรจัดเหล่านั้ จะขยายพันธ์ เพิ่มจำนยวนมากขึ้นนับร้อยๆ ตัวแน่ อีกทั้งอาจไปกัดเด็กๆที่วิ่งเล่นในหมู่บ้านหรือเดินผ่านที่จุดเลี้ยงสุนัชได้ เคยส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด จึงต้องขอร้องผ่านสื่อให้ เข้ามาช่วยดำเนินการด้วย ก่อนที่สุนัขอาจถูกคนใจร้ายฆ่าตายทั้งหมด

ภาพข่าว จิตติ ดาวขจร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ชุมพร

 

ยอมเสียคนรัก เพื่อชีวิตนับร้อย!! นางฟ้าหมาจรวอนช่วยเหลือ หลังยอมทิ้งชีวิตพาเจ้าตูบหนีขึ้นเขา ยังไม่วายเดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน หมดปัญญาดูแล