ตอกหน้าพวกมโน!! "หมอล็อต" เผย หลังถูกถาม เจ้าหน้าที่เจอเด็กแล้ว แต่กักตัวไว้ เพื่อให้ต่างชาติเข้ามาช่วย? งานนี้ตอบได้ใจสุดๆ

ภายหลังจากนักฟุตบอลและโค้ชรวม 13 ชีวิต ติดอยู่ในถ้ำหลวง ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 23 มิถุนายน 2561 จนถึงขณะนี้การค้นหานักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ยังคงดำเนินต่อไปด้วยความร่วมมือและน้ำใจจากทุกทางทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ซึ่งหลั่งไหลเข้ามาสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือนี้ด้วยความหวังว่าจะเจอเด็กๆ และโค้ชโดยเร็วที่สุด   ท่ามกลางการปฏิบัติหน้าที่ของทุกฝ่ายสุดความสามารถ ทั้งทีมงานสูบน้ำทั้งจากหน่วยงานราชกาารและภาคเอกชน   รวมไปถึงทีมค้นหาจากหน่วยงานต่าง ๆ

 

  

 

 

โดยเฉพาะนับเนื่องจากช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.)  มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องจากหน่วยซีลและนักประดาน้ำทั่วประเทศ ต่างรอใจจดใจจ่อบริเวณหน้าถ้ำ เพื่อเตรียมเดินหน้าแผนปฏิบัติการตามที่ได้ประชุมไว้ ลอดอุโมงค์น้ำยาว เพื่อไปให้ถึงหาดพัทยา  จุดที่คาดว่าทั้ง 13 ชีวิตจะใช้เป็นพื้นที่พักหลบกระแสน้ำในถ้ำหลวง หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงข่าวว่า ทีม seal ซึ่งเข้าไปถึงโถง 3  สามารถเข้าไปปักไกด์ลอตได้แล้ว 200 เมตร พร้อมจัดวางถังอ็อกซิเจนสำรองไว้ทุก 25 เมตร เพื่อใช้ในการดำน้ำต่อเนื่องไปให้ถึงหาดพัทยา  ตามภาพที่ปรากฎในแผนที่และข้อมูลประกอบว่ามีระยะทางห่างออกไปจากกองบัญชาการชั่วคราวของหน่วยซีลประมาณ 2 กม.

 

ล่าสุดในวันนี้นั้น (01/06/2561) เฟซบุ๊กของ ภัทรพล ล็อต มณีอ่อน ได้ออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นหลังโลกโซเชียลมโนข่าวไปต่างๆ นาๆ ว่าเจอเด็กแล้ว แต่ถูกกักตัวไว้นั้น หมอล็อตได้ออกมาโพสต์ว่า 

Lotter: "ฟังแล้วน้ำกัดเท้า" คุณคิดอะไรอยู่ มีน้องนักข่าวน่ารักคนหนึ่งถามส่วนตัวว่า จริงรึป่าวที่มีกระแสว่า ทีมงานช่วยเหลือได้แล้ว แต่กักตัวน้องไว้ โกหกต่างนานาชาติว่ายังช่วยเหลือไม่ได้ เพื่อให้ต่างประเทศช่วยเข้ามาเหลือเรา

ขอเรียนให้ทราบว่า บริบทของเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆที่เกิดขึ้นในโลก เป็นเด็กหลายคนติดถ้ำเวลานาน มีน้ำท่วมถ้ำ ที่ยาวและลึก อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นานาประเทศทั่วโลกจะยื่นมือเข้ามาช่วย ตามองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่แต่ละประเทศมี

ชาวต่างชาติมองน้องทั้ง 13 คนในฐานะ "พลเมืองโลก" ที่อยากเข้าช่วยเหลือ และสิ่งที่เค้าจะได้รับกลับไปจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ คือ การเรียนรู้กับสถานการณ์จริงที่แตกต่าง ไม่มีการซ้อม ลงมือจริง เพื่อผลว่าในวันหนึ่ง เกิดกรณีที่มีบริบทเดียวกันกับเหตุการณ์นี้ที่บ้านเค้าบ้าง เค้าก็จะจัดการได้ ไม่ต้องรอฟังหรือรอใครพิมพ์ให้อ่านหน้าจอคอม หรือวิจารณ์ไปทั้ว
ขอบพระคุณนักข่าวในพื้นที่ ที่ร่วมแรงร่วมใจ ร่วมมือ ในการปฎิบัติหน้าที่
ขอความกรุณาเข้าใจด้วยครับ ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ....พาหมูป่าออกจากถ้ำ
#SurvivalTogether.