ลำดับเหตุการณ์ 18 วัน หมูป่า 13 ชีวิต ติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

23 มิถุนายน 2561

เมื่อเวลา 19.30 น. นายนพรัตน์ กันทะวงค์ โค้ชทีมฟุตบอลเยาวชนท้องถิ่น ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองว่า เด็กนักเรียนที่ไปฝึกซ้อมฟุตบอลยังไม่กลับบ้าน จึงได้ออกตามหาจากสนามซ้อมฟุตบอลไปจนถึงบริเวณหน้าถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบรถจักรยาน 2 ล้อ จำนวน 11 คัน และจยย. 1 คันจอดอยู่ บางคันยังมีสัมภาระกระเป๋าวางไว้ที่รถ คาดว่าทั้งหมดได้เข้าไปเที่ยวในถ้ำแล้วเกิดหลงทางหาทางออกมาไม่ได้ จึงรีบประสานงานเจ้าหน้าที่ช่วยค้นหา

24 มิถุนายน 2561

เจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักประดาน้ำ 5 ชุดผลัดเปลี่ยนกันค้นหา พบเพียงรองเท้าและกระเป๋าเครื่องใช้ของกลุ่มคนหายอยู่ในถ้ำลึกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ทำให้คาดว่าผู้สูญหายทั้งหมดอาจไปติดอยู่ในโพรงถ้ำช่วงที่เลยน้ำท่วมขังเข้าไป แต่ยังไม่พบตัวหรือติดต่อกับผู้สูญหายทั้งหมดได้

25 มิถุนายน 2561

- หน่วยซีล จำนวน 17 นาย ออกจากฐานทัพเรือสัตหีบโดยเครื่องบินกองทัพเรือ RTN2112 แบบเครื่อง E135 บินจากสนามบินอู่ตะเภาลงที่แม่ฟ้าหลวง เชียงรายเวลา 01.45 น. พร้อมเครื่องมือและสคูลบาร์ พร้อมปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย
- ชุดนักดำน้ำ ดำน้ำลงไปลึก 5 เมตร พบทางลอดเข้าถึงห้องโถงใหญ่หลังม่านน้ำ เดินสำรวจภายในบริเวณนั้นที่มีความลึก 7 กิโลเมตร พบร่องรอยเด็กๆ แต่ยังไม่พบตัว

26 มิถุนายน 2561 

- ระดับน้ำในถ้ำหลวงสูงขึ้น 1 เมตร เนื่องจากฝนตกอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นอุปสรรคในการค้นหา  แม้ว่าตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจะมีการระดมสูบระบายน้ำออกจากถ้ำบางส่วน
- เจ้าหน้าที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ และเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมอวกาศและทะเล สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 13 คน พร้อมด้วยยานสำรวจใต้น้ำ 1 เครื่อง และโดรนติดกล้องตรวจจับความร้อนบินสำรวจ 2 ลำ
- กรมชลฯ ส่งเครื่องสูบน้ำ 10 เครื่องระบายน้ำถ้ำหลวง ชาวบ้านยินดีเป็นพื้นที่รับน้ำ

27 มิถุนายน 2561

เจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปสำรวจและหาโพรง หรือปล่องอากาศ ที่เชื่อมไปถึงข้างในถ้ำได้ เนื่องจากไม่สามารถใช้ ฮ.บินสำรวจได้ เพราะสภาพอากาศปิด และมีฝนตกไม่หยุด

28 มิถุนายน 2561

เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือเจาะถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อระบายน้ำที่ขังอยู่ในถ้ำออกมา

29 มิถุนายน 2561

หย่อนกล่องยังชีพ พร้อมแผนที่ 20-30 กล่อง ไปยังปากปล่องที่บ้านผาหมี เพื่อให้กล่องยังชีพลอยไปตามกระแสน้ำ และหวังว่าจะช่วย 13 ชีวิต ติดต่อกลับมา ภายในกล่องมีอาหารที่เก็บไว้ได้นาน มีแผนที่เพื่อให้มาร์กตำแหน่ง และโทรศัพท์มือถือ สำหรับติดต่อกลับมา เพื่อทีมปฏิบัติการชุดค้นหาช่วยเหลือจะได้ไปช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ซึ่งทาง กสท.ได้โยงสายสัญญาณเข้าไปในถ้ำหลวงแล้ว ใช้ได้ทั้ง 3 เครือข่าย

30 มิถุนายน 2561

เห็นสัญญาณที่ดีขึ้น สูบน้ำได้ค่อนข้างดี แต่ขณะนี้ยังถือว่าระบายน้ำได้แค่ 30-40% ของกำลังทั้งหมดที่มี ส่วนน้ำที่ระบายออกมาใส เพราะดินที่น้ำเซาะมาด้วยตกตะกอนหมดแล้ว แปลว่าไม่มีน้ำไหลเข้ามาเพิ่มมากนัก และเมื่อมีการสูบน้ำออก ทำให้น้ำในถ้ำลดลงเร็วกว่าที่เคย

1 กรกฎาคม 2561 

ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ เผยวันนี้หน่วยซีลต้องผ่านจุดวิกฤติ สามแยก เพื่อเข้าใกล้หาดพัทยาไปให้ได้ ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่าเด็กๆ จะติดอยู่

2 กรกฎาคม 2561

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยืนยันเมื่อเวลา 22.32 น. พบเจอ 13 ชีวิตทีมหมู่ป่าอะคาเดมี ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ทุกคนยังปลอดภัย โดยพบที่เนินนมสาว อยู่ห่างจากเนินพัทยาภายในถ้ำหลวงประมาณ 400 เมตร

3 กรกฎาคม 2561

- ตลอดทั้งวัน นักดำน้ำอาสา และนักดำน้ำต่างชาติ ได้ลำเลียงขวดอากาศไปยังโถง 3 ให้มากที่สุด และนำสายโทรศัพท์ไปถึงหาดพัทยา เพื่อให้ทั้ง 13 คน ได้ติดต่อสื่อสารกับครอบครัว แต่เกิดอุปสรรคล่าช้า ทำให้ยังไปไม่ถึง
- ทีมนักดำน้ำของหน่วยซีล 9 นาย เข้ารับผิดชอบการดูแลเด็กๆ พร้อมด้วย พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ หมอภาคย์ แพทย์ทหารซึ่งจบหลักสูตรซีลอีก 1 นาย และ พยาบาลหน่วยซีลอีก 1 นาย

4 กรกฎาคม 2561

- เพจหน่วยซีลเผยคลิปล่าสุด "ทีมหมูป่า" ได้กินอาหารและห่มผ้าให้ร่างกายอบอุ่น ส่งเสียงทักทายจากในถ้ำหลวง โดยเป็นคลิปที่ถูกบันทึกในถ้ำตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม
- ทีมหมูป่าใช้หน้ากากและหายใจใต้น้ำแล้ว เพื่อเตรียมการออกจากถ้ำก่อนที่ฝนจะตกหนัก และอาจทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นจนมิดถ้ำ การดำน้ำออกจากถ้ำ คาดว่าเป็นวิธีเดียว ที่จะช่วยชีวิตได้ 

5 กรกฎาคม 2561

การทำงานของเจ้าหน้าที่ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปในถ้ำ เพียงใส่ชูชีพได้ถึงบริเวณโถง 3 โดยไม่ต้องดำน้ำ แต่จากโถง 3 ไปถึงเนินนมสาว ยังมีระดับน้ำลึกซึ่งต้องใช้หน้ากากดำน้ำ และเป็นหน้าที่ในการทำงานของชุดประดาน้ำ

6 กรกฎาคม 2561

พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ เปิดเผยว่า จ่าเอกสมาน กุนัน อายุ 38 ปี นักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือ หน่วยซีล ที่รับภารกิจให้ลำเลียงขวดอากาศจากโถงสาม ภายในถ้ำหลวงไปยังจุดต่างๆ บริเวณสามแยก ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) เวลาเริ่มดำน้ำ 20.37 น. เมื่อเสร็จภารกิจ ขณะดำน้ำกลับได้หมดสติในน้ำ คู่ดำน้ำได้ทำการปฐมพยาบาล (CPR) แต่ไม่ได้สติ จึงนำกลับมายังโถงสามเพื่อปฐมพยาบาลอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้สติและเสียชีวิตลงในเวลาประมาณ 01.00 น.

7 กรกฎาคม 2561

- เพจเฟซบุ๊ก Thai NavySEAL เผยแพร่ภาพซึ่งเป็นกระดาษเขียนด้วยลายมือ ระบุว่า เป็นข้อความจากทีมหมูป่าและโค้ช ฝากทีมนักดำน้ำต่างชาติ ออกมาจากเนินนมสาว เมื่อคืนวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 เด็กๆ บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง แข็งแรงทุกคน ออกไปอยากกินอาหารหลายอย่าง ออกไปอยากกลับบ้านเลย คุณครูอย่าให้งานเยอะ ส่วนทีมซีลและหมอภาคย์ ที่ดูแลน้องๆ อยู่ สบายดีทุกคน

- เพจเฟซบุ๊กของ “กองทัพเรือ Royal Thai navy” ได้เผยแพร่ภาพพร้อมสรุปข้อมูล การให้ความช่วยเหลืองทั้ง 13 คนวันนี้ ด้วยยการฝึกดำน้ำ โดยมี พ.ท.ภาคย์ โลหารชุน หรือ หมอภาคย์และชุดหน่วยซีล จำนวน 3 นาย ฝึกทักษะการดำน้ำ ทำการตรวจประเมินสุขภาพและฟื้นฟูให้กับน้องๆทีมหมูป่า ล่าสุดยังปลอดภัยดีทุกคน

8 กรกฎาคม 2561

ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ยืนยันว่าได้ส่งทีมหมูป่า 4 คนแรกออกจากถ้ำหลวงถึงรพ.เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนการพาออกมาจากถ้ำนั้น ให้เด็กสวมหน้ากากแบบเต็มใบเชื่อมต่อกับถังอากาศ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำประกบออกมาตลอดทาง โดย 2 คนแรกออกมาเวลาประมาณ 17.40 น. คนที่ 3 ประมาณ 19.40 น. จากนั้นคนที่ 4 เวลา 19.50 น. ทุกคนปลอดภัย

9 กรกฎาคม 2561

ผอ.ศอร. แถลงภารกิจพาหมูป่ากลับบ้านวันที่ 2 โดยยืนยันว่าในวันนี้สามารถช่วยนำพาเด็กๆ ทีมหมูป่า อะคาเดมี ออกมาได้อีก 4 คน ตามแผนการที่ได้วางเอาไว้

10 กรกฎาคม 2561

นำตัวสมาชิกทีมหมูป่าคนที่ 9 10 11 และ 12 ออกจากถ้ำหลวง ก่อนที่จะนำตัวคนที่ 13 ซึ่งน่าจะเป็น "โค้ชเอก" ที่ออกมาเป็นคนสุดท้าย ไปยังโรงพยาบาลสนาม ก่อนและส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ถือว่าเป็นการจบภารกิจซึ่งผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

 

ที่มา สนุกดอทคอม