ผบช.ภ.4 และ รองโจ๊ก นำเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง กว่า 500 นาย ตรวจค้นบ้านนายทุนดอกเบี้ยโหดอุดรฯ14 จุด อดีตดาราร้องจำนอง ภบท. 5 ยังถูกยึด!? (คลิป)

วันที่ 19 กรกฎาคม เวลา 09.30 น. ที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. , พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , พล.ต.กนก ภู่ม่วง ผบ.มทบ.24 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย ภ.จว.อุดรธานี , กก.ตชด.24 , ตำรวจท่องเที่ยว , สห.มทบ.24 , สห.บน.23 , DSI , ปปง. , อส. ได้สนธิกำลัง กว่า500 นาย  ทำการปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรม เน้นการตรวจค้นบ้าน และร้านค้า ที่เป็นของกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบ ตามแผนปฏิบัติการ ขุดรากถอนโคนอาชญากรรมทำบ้านเมืองน่าอยู่ โดยกระจายเข้าทำการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 14 จุด ของ จ.อุดรธานี หลังจากที่ทางตำรวจภูธรภาค 4 ได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม 

โดยพื้นที่เป้าหมายทั้ง 14 จุด เจ้าหน้าที่นำหมายค้นของศาล จ.อุดรธานี เข้าทำการตรวจค้น โดยเฉพาะจุดใหญ่ที่สุดของ จ.อุดรธานี คือ ที่ หจก.ภัทรพลยนตรกิจ เลขที่ 218/2 ถ.ประจักษ์ศิลปาคม เทศบาลนครอุดรธานี มี นายสมบูรณ์ เจียมวิทยศรีกุล เจ้าของร้านที่ให้ความร่วมมืออย่างดี นำกำลังเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น โดยทาง พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เข้าตรวจสอบด้วยตัวเอง และได้ทำการตรวจยึดแฟ้มเอกสารต่าง ๆ เพื่อทำการตรวจสอบจำนวน 34 แฟ้ม พร้อมกล่องเก็บเอกสารจำนวน 17 กล่อง คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง และได้เข้าตรวจสอบบ้านไม่มีเลขที่ ใน ถ.ตำรวจ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งทางเจ้าของบ้านไม่ให้ความร่วมมือ ห้ามผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ พร้อมประกาศจะฟ้องผู้สื่อข่าว ที่เข้ามาทำข่าว   

ขณะเดียวกันมีกลุ่มลูกหนี้จำนวนกว่า 10 คน ที่ทราบข่าว ได้เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ พร้อมระบายความรู้สึกหลังจากถูกนายทุนเงินกู้ที่ อ.หนองหาน  น.ส.แสงมณี ศิริคุณธรรม ยึดที่ดินที่นำไปจำนอง แต่กลับถูกเปลี่ยนเป็นการขายฝาก ทั้งที่จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยไปแล้วมากกว่าจำนวนเงินต้น แต่กลับถูกยึดที่ดินไป ซึ่งทาง พล.ต.ท.สุรชัยฯ และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ฯ รับปากที่จะดำเนินการให้ โดยให้เข้าพบพล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผวก.ภ.จว.อุดรธานี เพื่อให้รายละเอียด ในการกู้ยืมเงิน เพื่อทางตำรวจจะได้ตัวนายทุนเงินกู้ มาพูดคุยไกล่เกลี่ย

นางญาสุมินทร์ แก้วก่า อายุ 50 ปี อดีตนักแสดงภาพยนตร์เรื่อง ส้มผักเเสี้ยน อยู่ที่ 120/1 บ หนองแก ต หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ลูกหนี้ที่มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่  ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนนำที่ดินที่เป็น ภบท.5 ไปจำนองไว้ 250,000 บาท และได้ถูกเปลี่ยนเป็นขายฝากในราคา 400,000 บาท ซึ่งที่ดินถูกยึดไปแล้ว ทั้งที่ที่ดินเป็น ภบท.5 ที่ซื้อขายไม่ได้ โดยตนนำไปจำนองและถูกยึดที่ดินไป ทั้งที่ชื่อก็ยังเป็นของเราอยู่ ซึ่งเราได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจไปหมดแล้ว และบอกว่าจะดำเนินการนำที่ดินมาคืนให้ จึงเดินทางมาให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ลงมาช่วยเหลือชาวบ้าน

ทั้งนี้ดีใจมากที่เห็นกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน เพราะทำให้พวกเราได้รับความยุติธรรม เพราะที่ผ่านมามาปัญหานายทุนเงินกู้ใน จ.อุดรธานี รุนแรงมาก นายทุนก็เป็นนายทุนหน้าเลือด ที่ตอนนี้เรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 10 และยังมีการข่มขู่ให้รีบนำเงินมาคืน เมื่อไม่มีให้ก็ถูกยึดที่ดินไป อยากให้ดำเนินการการกับเจ้าหนี้ที่คิดดอกเบี้ยโหดทุกรายในพื้นที่ จะได้คืนความยุติธรรมให้กับชาวบ้าน ขอให้ทางตำรวจดำเนินการแบบนี้ตลอดไปด้วย เพื่อที่ชาวบ้านจะได้ลืมตาอ้าปากได้ เพราะเราทำมาหากินได้มา ก็เอาดอกเบี้ยไปให้นายทุนเขาหมด

พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า มีการร้องเรียนจากชาวบ้านในทุกจังหวัดของภาค 4 ที่ร้องเรียนผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ยุติธรรมจังหวัด อัยการคุมครองสิทธิฯ ที่มีดารดำเนินการมาก่อนหน้า ซึ่งมีนายทุนที่ให้ความร่วมมือและไม่ให้ความร่วมมือ ต่อไปนี้เราจะบูรณาการทุกภาคส่วน ที่เริ่มต้นทำที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ไปแล้ว โดยนำ ปปง. DSI สรรพากร ที่ดิน เข้ามาร่วม จนทำให้ได้รับความร่วมมือที่ดีจากนายทุน

โดยในพรุ่งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมา จ.ขอนแก่น เชิญผู้บัญชาการทุกภาค มาดูโมเดลต้นแบบที่ทางตำรวจภาค 4 ได้ดำเนินการแก้ไข โดยจะมีการคืนโฉนดให้กับชาวบ้านประมาณ 150 โฉนด ที่ได้รับคืนจากนายทุน ต่อไปนี้ชาวบ้านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการกู้ยืมเงินที่ผิดกฎหมาย คิดอัตราดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด เอาเปรียบชาวบ้าน สามารถเข้าร้องเรียนได้ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ในทุกจังหวัด จากการกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม”

ผบช.ภ.4  กล่าวว่า สำหรับ จ.อุดรธานี น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ ในการเรียกนายทุนและลูกหนี้เข้ามาทำการเจรจา ที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการกู้ยืมเงินที่ไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะผ่านมานานหรือไม่ก็ตาม ผู้ที่จ่ายเงินไปแล้ว แต่ดอกเบี้ยยังท่วมตัว เช่น กู้มา 100,000 บาท แต่จ่ายไปแล้ว 300,000 บาท ก็ยังไม่ได้ที่ดินคืน ให้มาพบคณะกรรมการจากทุกฝ่าย ที่ตั้งขึ้นมาที่ ภ.จว.อุดรธานี ที่มี พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เป็นประธาน ในการดูแลเรื่องนี้

ต่อไปนี้ในเขตภูธรทุกภาคทุกจังหวัด รวมทั้งนครบาล ก็จะยึดโมเดลของตำรวจภาค 4 ไปดำเนินการ ซึ่งทุกจังหวัดมีการกู้ยืมเงินโดยไม่ได้รับความเป็นธรรมอยู่แล้ว ซึ่งต่อไปนี้หากนายทุนที่ยังดื้อแพ่ง เรียกมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้แล้วไม่มา ไม่ร่วมมือ เราจะให้ทาง ปปง. ,DSI และสรรพากร ที่เป็นคณะกรรมการร่วม จะเข้ามาดำเนินการแก้ไขให้ เพื่อให้เป็นไปด้วยความราบรื่น หากนายทุนที่ให้ความร่วมมือ ก็ไม่ต้องกังวลใจ ทางเราก็จะพิจาณาให้เป็นราย ๆ ไป แต่ทั้งนี้ชาวบ้านที่เดือดร้อน จะต้องได้รับการแก้ไข โดยจะต้องเป็นชาวบ้านที่เดือดร้อนจริง ไม่ใช่ไม่ยอมใช้หนี้แล้วมาร้องเรียน ซึ่งเราจะให้ความเป็นธรรมทั้งกับลูกหนี้และเจ้าหนี้ ด้วย      

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.เปิดเผยว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และเป็นวาระแห่งชาติ คือ การเอาความเป็นธรรมคืนให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานที่มีการร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการที่จะเอาหนี้ที่ผิดกฎหมาย มาทำให้ถูกกฎหมาย ทั้งการปรับหนี้ ลดหนี้  และมูลหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ และถูกต้องตามกฎหมายที่กำหนด

 หลังจากรับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก เป็นสิ่งบ่งบอกว่าชาวบ้านเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจภาค 4 ในส่วนของนายทุนก็ไม่ต้องกังวลใจว่า จะถูกรังแกหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม เราจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายและทุกส่วน แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายบ้านเมือง เพราะการฉ้อฉลการเอาที่ดินของชาวบ้านหรือลูกหนี้ไปเป็นของตน ต้องหมดไปจากประเทศไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า ในส่วนเจ้าหนี้หรือนายทุนนอกระบบต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.อุดรธานี ที่ยังใช้กลอุบายฉ้อฉล เอาที่ดินของชาวบ้านไปเป็นของตนเอง อย่างไม่มีความเป็นธรรมแก่ลูกหนี้ เช่น ต้นก็ไม่ลด ดอกเบี้ยก็ไม่ลด ใช้ความรู้ด้านกฎหมายเอารัดเอาเปรียบพี่น้องประชาชน ซึ่งมาตรการ ในการบังคับกฎหมายทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการการยึดทรัพย์ ดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงิน รวมถึงการตรวจสอบการชำระภาษี เราจะนำมาบังคับใช้ทั้งหมด ฉะนั้นอยากฝากถึงนายทุนทั้งหลาย เราจะดำเนินการจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากเรื่องการเจรจา ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ส่วนการดำเนินคดีทั้งหมด เราจะพิจารณาเป็นกรณี ในเรื่องการดูแลและเยียวยาต่างๆและเราจะดำเนินการให้เป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ภายในเวลา 2 สัปดาห์ต่อไป

นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ภูมิภาค สำนักข่าว ทีนิวส์