ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวหลายรายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเกาะสมุย โดนบริษัททัวร์จีนเบี้ยวค่าบริการสูญเงินกว่า3ล้านบาท เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน พร้อมยืนหนังสือไปยังคสช.ที่เจ้าพนักงานตำรวจไม่รับเรื่องราวร้องทุกข์ให้กับประชาชน

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 61 เวลา 08.30น. ที่ศาลาเอนกประสงค์พรุเฉวง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวกว่า 10 รายในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและเกาะสมุย เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนและฝากเตือนให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายอื่นๆระวังบริษัทนำเข้านักท่องเที่ยวจีนรายหนึ่งบนเกาะสมุยหลอกเบี้ยวเงินค่าบริการต่างๆทั้งค่ารถโดยสารขนส่ง เรือโดยสาร เรือสปีดโบ๊ท และโรงแรม รวมเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท เมื่อทวงถามเรื่องเงินก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดและไม่มีคำตอบที่แน่ชัด จนล่าสุดกรรมการบริษัทชาวจีน 1 คนได้หนีออกจากประเทศไทยไปแล้ว ส่งผลให้ผู้เสียหายได้รับผลกระทบตามมา

เสียหายเพียบ ! ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวหลายราย โดนบริษัททัวร์จีนเบี้ยวค่าบริการ สูญเงินกว่า 3 ล้านบาท!?

ตัวแทนผู้เสียหายรายหนึ่ง บอกว่า ลักษณะการทำทัวร์ของบริษัทนี้คือนำเข้านักท่องเที่ยวชาวจีนมาทางสนามบินเกาะสมุย และสนามบินสุราษฎร์ธานี ผู้เสียหายแต่ละ่บริษัทจะเสียหายต่างกันที่มีทั้ง่เรือสปีดโบ๊ท รถขนส่ง บริษัทซาฟารี และโรงแรม พฤติกรรมก็คือบริษัททัวร์จีนนี้จะรับจองมาจากประเทศจีนแล้วก็มากระจายงานให้กับผู้เสียหายที่ทำธุรกิจนำเที่ยวต่างๆที่มีเครดิตอยู่ เช่น บริษัทเรือสปีดโบ๊ทอยู่ 5 บริษัทที่ให้บริการท่องเที่ยวเที่ยวตามเกาะต่างๆเมื่อบริษัทแรกวงเงินเครดิตเต็ม บริษัททัวร์จีนนี้ก็จะเปลี่ยนไปใช้เครดิตกับบริษัทเรือสปีดโบ๊ทเจ้าที่สองและสามไปเรื่อยๆ พอถึงเวลาจ่ายเงินก็บอกว่าไ่ม่มีเงินมาจ่าย พอนานๆเข้าผู้เสียหายได้รับผลกระทบทางธุรกิจเงินขาดสภาพคล่อง จึงต้องไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ต่อมาหลังจากกลุ่มผู้เสียหายไปแจ้งความหญิงชาวจีนที่เป็นหุ้นส่วนบริษัททัวร์จีนได้หนีออกนอกประเทศไป เหลือแต่เพียงหุ้นส่วนคนไทย 2 คน และชายชาวจีนอีก 1 คน แต่ทั้งหมดยังไม่ยอมรับสภาพหนีดังกล่าว จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเร่งตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัททัวร์จีนนี้ และจะดำเนินต่อความเดือดร้อนของกลุ่มผู้เสียหายอย่างไรกว่าที่จะขยายไปวงกว้างมากว่านี้ จะทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะสมุยได้รับความเสียหาย

เสียหายเพียบ ! ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวหลายราย โดนบริษัททัวร์จีนเบี้ยวค่าบริการ สูญเงินกว่า 3 ล้านบาท!?

ต่อมาได้มีนายสมศักดิ์ บุรุษชาติ และนายหลิว เสี่ยวเฟย สัญชาติจีน กรรมการของบริษัท โรแมนติก สมุย จำกัด ที่เป็นบริษัทคู่กรณีเดินทางมาพบกับกลุ่มผู้เสียหายเพื่อมาเจรจาตกลงจ่ายเงินที่ค้างอยู่ โดยมี พ.อ.เฉลิมชัย เลี้ยงสกุล รองผู้บังคับศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบกที่ 4 ประจำพื้นที่ภาคใต้ และ พ.ต.ท.วรงค์ ถาปนา สว.ทท.เกาะสุมย เป็นคนกลางเจรจา นายหลิวได้รับปากว่ายินดีจะชดใช้เงินให้ทั้งหมดแต่ว่ายังให้คำตอบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้บริษัทฯไม่มีลูกค้าเลย พร้อมกับขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน แต่ผู้เสียหายยืนยันว่าต้องชดใช้เงินทั้งหมดภายในวันที่ 1 สิงหาคมนี้เท่านั้น

เสียหายเพียบ ! ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวหลายราย โดนบริษัททัวร์จีนเบี้ยวค่าบริการ สูญเงินกว่า 3 ล้านบาท!?

นอกจากนี้ตัวแทนผู้เสียหายกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ โดยมีพ.อ.เฉลิมชัย เลี้ยงสกุล รองผู้บังคับศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบกที่ 4 ประจำพื้นที่ภาคใต้ เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว โดยหนังสือได้ระบุว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่เจ้าพนักงานตำรวจสภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ไม่รับเรื่องราวร้องทุกข์ให้กับประชาชน โดยเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 ผู้ประกอบการนำเที่ยวเกาะสมุยที่เป็นผู้เสียหาย 10 บริษัท เดินทางไปยังสภ.บ่อผุด เพื่อร้องเรียนในกรณีบริษัทนำเที่ยวนักท่องเที่ยวชาวจีน ไม่ชำระหนี้ตามเอกสารแจ้งหนี้และทวงถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้และให้ฝ่ายผู้เสียหายและคู่กรณีไปเจรจาไกล่เกลี่ยกันเอง โดยอ้างว่าให้ผู้เสียหายไปใช้สิทธิทางแพ่งเองนั้น เท่ากับว่าทางเจ้าพนักงานตำรวจไม่รับเป็นธุระประสานให้ระหว่างผู้เสียหายกับคู่กรณี ประชาชนย่อมขาดที่พึ่ง และไม่ได้รับความยุติธรรมไปตั้งแต่ต้น ซึ่งหากเจ้าพนักงานตำรวจรับเรื่องราวร้องทุกข์ไว้ปัญหานี้อาจจบไปได้โดยเร็ว

เสียหายเพียบ ! ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวหลายราย โดนบริษัททัวร์จีนเบี้ยวค่าบริการ สูญเงินกว่า 3 ล้านบาท!?

 

 

ภาพ/ข่าว อัญชลีพร โย่งโต ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุราษฎร์ธานี