- 04 ต.ค. 2561
เขาก็มีสิทธิ์ร้องเรียน? "นักวิชาการ" แนะทางออก ดราม่าวัดตีระฆังเสียงดัง ลั่น!! "พระ" ควรจัดการทุกข์ให้ชาวบ้าน
จากกรณี เฟซบุ๊ก Last Stand โพสต์ภาพและข้อความ ระบุว่า เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ได้ส่งหนังสือถึง เจ้าอาวาสวัดไทร ย่านพระราม 3 ระบุว่า ประชาชนแจ้งเรื่องร้องทุกข์ว่าได้รับความเดือดร้อน กรณีที่วัดไทร ทำการตีระฆัง ส่งเสียงดังรบกวน ตั้งแต่เวลา 03.30 น. – 04.00 น. เป็นประจำทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้พักอาศัยบริเวณดังกล่าว สำนักงานเขตบางคอแหลม จึงขอความร่วมมือวัดไทร ลดเสียงให้เหมาะสม ป้องกันการสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง
นอกจากนี้ยังมีการระบุข้อความเพิ่มเติมด้วยว่า เรียนรู้คําว่าประเพณีและวัฒนธร สิ่งทีทํากันมาเป็นร้อยๆปี การที่คนไปร้องเรียนแล้วจะมาให้วัดปรับปรุงสิ่งที่เคยทํามามันคงจะบ้ากันไปแล้ว ถ้าวัดตีระฆังดังท่านก็เอาเครื่องวัดมาวัดระดับเสียงได้เลยย จากหอระฆังถึงคอนโดน่าจะประมาณ 800 เมตร จะทําอะไรก็คิดก็ถามหรือมานั่งดูก็ได้ถ้ากลัวผี เดียวจะไปนั่งเป็นเพื่อน เรียนกันมาเสียดายเงิน ปล.วัดสร้างมา300กว่าปี คอนโด Star Viewสร้างมาไม่ถึง10ปี ปวดหัวกับพวกเอ็งจริงๆ
ล่าสุดจากกรณีดังกล่าวนั้น นางสาววันทนีย์ สว่างตระกูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางคอแหลม กล่าวว่า เนื่องจากมีประชาชน ร้องเรียนไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 1555 กรุงเทพมหานคร ว่าได้รับความเดือดร้อน กรณีวัดไทร ทำการตีระฆัง ในเวลา 03.30 น. – 04.00 น. ซึ่งส่งเสียงรบกวนและสร้างความเดือดร้อนกับผู้พักอาศัย
เมื่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ส่งเรื่องมาที่เขต เขตจึงทำหนังสือถึงเจ้าอาวาส เพื่อขอให้พิจารณาปรับลดระดับเสียงและพิจารณาช่วงเวลาในการตีระฆังให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการสร้างความเดือดร้อนรำคาญกับผู้พักอาศัย อย่างไรก็ตามเมื่อมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา เขตต้องทำหน้าที่ดูแลประชาชนทุกคน จึงทำหนังสือขอความร่วมมือวัด เพื่อแก้ไขปัญหา แต่หากยังมีประชาชน ร้องเรียนเข้ามาอีก เขตฯ จะพิจารณาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ลงพื้นที่ เพื่อตรวจวัดระดับเสียงในพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในช่วงเวลาดังกล่าวต่อไป
สืบเนื่องจากประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นนั้น ทางผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ ได้ไปสัมภาษณ์เปิดใจ " พระเล้ง " พระลูกวัด วัดไทร พระราม 3 กรณี ที่มีผู้พักอาศัยใหม่บริเวณรอบวัด แจ้งเขตเรื่องวัดตีระฆังดัง โดยพระรูปดังกล่าวนั้นก็ยืนยันว่ามีการตีจริงราวๆ 20-30 นาที โดยมีการตีเป็นจังหวะและเว้นการตี 1นาที โดยทางวัดนั้นมีการประชุมหลังได้รับจดหมายให้เลิกตีหรือตีเบาๆ ลง โดยทางวัดหลังจากที่ประชุมนั้น ก็ยืนยันจากเสียงชาวบ้านที่อยู่รอบวัดว่าหยุดตีไม่ได้เพราะเป็นประเพณีและยังยืนยันว่ายังตีต่อแต่เพียงแค่เบามือลง!!
ต่อจากปมดราม่าที่เกิดขึ้นนั้น นายสุรพศ ทวีศักดิ์ นักวิชาการปรัชญาและศาสนา โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กเรื่อง ปัญหา “ระฆัง-คอนโดฯ” โดยระบุข้อความว่า ปัญหา "ระฆัง-คอนโดฯ"
ผิดที่มาสร้างคอนโดใกล้วัด หรือผิดที่วัดตีระฆังเวลาตี 3 ครึ่งถึงตี 4 รบกวนเวลานอนของชาวบ้าน? คำถามแบบนี้ไม่มีคำตอบ
มันไม่ใช่เรื่องต้องหาคำตอบว่า "ใครผิด" แต่เป็นเรื่องของการปรับตัวอยู่ร่วมกันในการใช้ชีวิตในสังคมสมัยใหม่
ปัญหาคือ ชาวบ้านเดือดร้อนจากเสียงระฆังรบกวนเวลานอนจริง วัดก็มีประเพณีปฏิบัติมานานจริง
ทางออกควรเป็นอย่างไร?
ใช้กฎหมายบังคับวัดให้เลิกตีระฆัง ไม่แน่ใจว่ามีกฎหมายบังคับ (ผมไม่รู้ว่ามีหรือไม่) และไม่น่าจะเป็นทางออกที่ดี
ทางออกควรใช้หลักพุทธศาสนาที่พระสอนชาวบ้านน่าจะดีกว่า คือพระสอนเรื่อง "ทุกข์-ทางดับทุกข์-ปัญญาและกรุณา" เมื่อชาวบ้านเขาทุกข์จากเสียงระฆังเวลาดึกจริง พระควรใช้ปัญญาและกรุณาในการแก้ทุกข์ของชาวบ้านครับ แทนที่จะบอกชาวบ้านให้ไปแจ้งตำรวจ
ระหว่าง "ประเพณีการตีระฆังตอนดึก" กับ "การปฏิบัติตามหลักพุทธธรรมเรื่องทุกข์-ทางดับทุกข์-ปัญญาและกรุณา" พระสงฆ์ควรเลือกอะไรมากกว่า?
นี่เป็นคำถามต่อพระสงฆ์ในการอยู่ร่วมกับผู้คนในโลกสมัยใหม่หลายๆเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว
นอกจากนี้ยังมีการระบุเพิ่มเติมด้วยว่า สังคมที่อ้างว่าเป็น #สังคมพุทธ ทำไมเป็นสังคมไร้วุฒิภาวะกันจัง กรณีคนร้องเรียนเรื่องเสียงระฆังวัดตอนดึกรบกวนการนอน ต่อให้มีเพียง 1 คนร้องเรียน เขาก็มีสิทธิร้องเรียนครับ เขาแค่ใช้สิทธิไม่มีอำนาจไปบังคับวัดให้ทำตามที่ร้องเรียน หรือบังคับให้เปลี่ยนประเพณีที่คนส่วนใหญ่เชื่อได้ ทำไมพยายามไปกล่าวหาว่าเขาเป็นพวกโรคจิตอ่ะ ราวกับจะล่าแม่มดคนที่เขาออกมาบอกว่าตัวเองเดือดร้อนและแค่ใช้สิทธิร้องเรียนเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก สุรพศ ทวีศักดิ์