แปลกมั้ย! "ทักษิณ" บอกไม่เกี่ยวพรรค แต่หลังโผล่ฮ่องกง-ลูกน้องตบเท้าพบ ปัญหา"เพื่อไทย-เพื่อธรรม" ที่กำลังระอุ-กลับตัดจบดื้อๆ 

แปลกมั้ย! "ทักษิณ" บอกไม่เกี่ยวพรรค แต่หลังโผล่ฮ่องกง-ลูกน้องตบเท้าเข้าพบ ปัญหา"เพื่อไทย-เพื่อธรรม" ที่กำลังระอุ-กลับตัดจบดื้อๆ 

 

แปลกมั้ย! "ทักษิณ" บอกไม่เกี่ยวพรรค แต่หลังโผล่ฮ่องกง-ลูกน้องตบเท้าเข้าพบ ปัญหา"เพื่อไทย-เพื่อธรรม" ที่กำลังระอุ-กลับตัดจบดื้อๆ 


นับว่าน่าจะตามองอย่างยิ่ง สำหรับกระแสข่าวการบินด่วนเข้าฮ่องกง เพื่อเคลียร์ปัญหาภายในพรรคฯ ที่กำลังระอุของ "นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร" เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่รัฐบาล คสช. ยอมคลายล็อกให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้บางเรื่อง ยกเว้นการหาเสียง กระทั่งบางพรรคฯ ได้มีการประชุม และเลือกหัวหน้าพรรคไปแล้ว  อาทิ "พรรคพลังประชารัฐ” และ "พรรคเพื่อธรรม" ซึ่งปิดกันให้แซ่ดว่า "เป็นอะไหล่ของพรรคเพื่อไทย" หากพรรคเกิดเหตุไม่คาดฝันถูกสั่งยุบ  จากคดีความค้างเก่า เพราะระดับผู้บริหารพรรค โดยเฉพาะ "นางนลินี ทวีสิน" รองหัวหน้าพรรค ล้วนเป็นสายตรงจาก "บ้านจันทร์ส่องหล้า" และโยงใยกับ "พรรคเพื่อไทย" อย่างแยกกันไม่ออก แม้ "นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์" หัวหน้าพรรคเพื่อธรรมจะปฎิเสธเรื่องนี้ก็ตาม 


ว่ากันว่า ที่ "นายทักษิณ" บินด่วนเข้าฮ่องกงในวันนี้ และนัดแนะให้แกนนำพรรค และอดีต ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยหลายคน ตบเท้าเข้าพบนั้นก็สืบเนื่องมาจากกรณีนี้ โดยมีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า หลังประชุมพรรคเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดปัญหาภายในพรรค และเคลียร์กันไม่ลงตัว กระทั่งนำมาสู่การหารือนอกรอบของแกนนำ และอดีต ส.ส. ของพรรคถึง 2 วง 

 


โดยวงแรก เป็นวงของพรรคเพื่อธรรม มี "นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์" เป็นแกนนำพร้อมกับสมาชิกพรรคที่ร่วมหารือว่า จะพาสมาชิกกลุ่มก้อนของตนเดินไปในแนวทาง "พรรคเพื่อธรรม"  ซึ่งยุทธศาสตร์แรก มีการตกลงจะให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อธรรม เพราะมีการประเมินกันว่า พรรคเพื่อไทยมีโอกาสถูกยุบสูง จากคดีค้างเก่าต่าง ๆ แต่ต่อมากลับเกิดความเปลี่ยนแปลง และสมาชิกเหล่านั้น...จะยังคงอยู่กับพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม 

 

ขณะในอีกวงเป็นการพูดคุยของแกนนำพรรคชุดปัจจุบัน ซึ่งได้วางยุทธศาสตร์การเมืองไว้แล้ว และไม่อยากให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกิดความสับสน จะยังชูพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคหลักเหมือนเดิม แม้อาจจะต้องถูกยุบ


อย่างที่กล่าว และตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ  "พรรคเพื่อไทย" กับ "เพื่อธรรม" นั้นแทบแยกจากกันไม่ออก ล่าสุดมีรายงานข่าวยืนยันมาอีกหลัง ทักษิณบินเข้าฮ่องกงว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ "นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์" สามี "นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์"  จะถูกเสนอชื่อเป็น 1 ใน 3 ของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ ในส่วนของ "พรรคเพื่อธรรม"

 

พร้อม ๆ กับที่มีรายงานข่าวยืนยันเช่นกันว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" จะขึ้นมาเป็นผู้นำ "พรรคเพื่อไทย" ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หลังมีความพยายามโยนหิน และโยนชื่อ “ผู้นำรุ่นใหม่” ซึ่งเป็น "เขย รวมทั้งหลานชายชินวัตร" ออกมาหยั่งกระแสหลายต่อหลายชื่อ รวมทั้งก็เลื่อยขาเก้าอี้กันเองอยู่พักใหญ่ ว่ากันว่า เหตุที่ "คุณหญิงสุดารัตน์" ได้รับไฟเขียวในครั้งนี้ เป็นเพราะท่าทีของ "คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์" อดีตภริยาทักษิณเปลี่ยนไป ซึ่งแต่เดิมอาจไม่ค่อยปลื้ม "หญิงหน่อย" นัก แต่เมื่อเวลาผ่าน จูนกันติด-คุยกันรู้เรื่อง ทำให้ไร้แรงต้านจาก "คุณหญิงอ้อ" ทุกอย่างจึงเข้าทาง "หญิงหน่อย" ขณะเดียวกันก็ดัน "สมชาย" ซึ่งถือเป็น "เขยชินวัตร" ไปคุมคั่วเก้าอี้นายกฯ ในโควต้าของ "พรรคเพื่อธรรม"

 

การเดินหมากในคราวนี้ ถือเป็นการเคลียร์ปัญหาภายในพรรคที่กำลังระอุอยู่ถึง 2 เรื่องในคราวเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่า แม้แกนนำพรรคเพื่อไทย และตัวทักษิณเองจะปฏิเสธแข็งขันว่า การบินด่วนมาฮ่องกงไม่เกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น เพราะทักษิณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคก็ตาม แต่ในความเป็นจริงก็ดังที่เราทราบ ๆ กัน ...มีกระแสข่าวที่เกือบจะเป็นข้อสรุปออกมาทันที...เมื่อทักษิณเดินทางถึงฮ่องกง และมีแกนนำพรรคหลายคนตบเท้าเข้าพบแล้ว

 

ขณะเดียวกัน เมื่อมองลึกต่อไปกว่านั้น การดัน 2 พรรคดังกล่าวขึ้นมา ก็อาจปะติดปะต่อได้ว่า ทักษิณอาจวางยุทธศาสตร์ให้ "เพื่อธรรม" เป็นตัวช้อนคะแนนที่อาจจะหลุดจาก "เพื่อไทย" ไป แล้วสะสมเป็นแต้ม "ปาร์ตี้ลิสต์" ตามสูตรเลือกตั้งใหม่ ที่ทุกคะแนนมีความหมายไม่ให้ตกหล่นไปอยู่กับพรรคอื่นตามที่หลาย ๆ ฝ่ายวิเคราห์กัน เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า...เลือกตั้งครั้งหน้านั้น...ทักษิณสั่งสู่เต็มที่แน่  ขณะที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็ส่ง "วันมูหะมัดนอร์ มะทา" ที่นำอดีต ส.ส.กลุ่มวาดะห์ ไปตั้งพรรค "ประชาชาติ" เพื่อเก็บเกี่ยวคะแนน "ปาร์ตี้ลิสต์" เช่นกัน ไม่นับกรณี "อนาคตใหม่" ของ "ธนาธร" ที่หวังเก็บกวาด...คนชั้นกลางเมืองกรุงฯ ที่ "เพื่อไทย" เข้าไม่ถึงนั่นด้วย

 
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เรื่องหัวหน้าพรรคตัวจริงของเพื่อไทย ยังอาจต้องรอจนถึงวันที่ 28 ตุลาฯ หรือสิ้นเดือนนี้ จึงจะรู้ผลอย่างเป็นทางการจากการประชุมใหญ่พรรคฯ ซึ่งหากไม่พลิกโผไปจากนี้...คำกล่าวที่ว่า...ทักษิณไม่เกี่ยวกับพรรคฯ ทั้ง... "เพื่อไทย" และ  "เพื่อธรรมนั้น"...คงต้องเอาไปพูดให้เด็กฟัง และที่บอกว่า...พวกตนเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย...คงกลายเป็นเรื่องตลกไปในที่สุด